สัญลักษณ์บนฉลากสินค้าเป็นเครื่องหมายที่ใช้เพื่อสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภค แต่ละประเภทก็ความหมายที่แตกต่างกันไป เช่น
ความหมาย : แสดงให้ผู้บริโภคทราบว่า ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น ๆ ได้ผ่านการพิจารณา คุณภาพ และความปลอดภัย ถูกต้องตรงตามมาตรฐานเกณฑ์การผลิต หรือการนำเข้า จาก “สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เรียบร้อยแล้ว
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับการปกป้องและคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากการบริโภค “ผลิตภัณฑ์สุขภาพ” มีหน้าที่เฝ้าระวังคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของอาหาร ยา อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ใช้ในประเทศไทย รวมถึงควบคุมการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย โดยผลิตภัณฑ์สุขภาพเหล่านั้นต้องมีคุณภาพและปลอดภัย ส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ถูกต้องด้วยข้อมูลทางวิชาการที่มีหลักฐานเชื่อถือได้และมีความเหมาะสม สัญลักษณ์ของ อย. ที่มักพบเห็นบนฉลากผลิตภัณ์สุขภาพแต่ละประเภทแตกต่างกันไป ได้แก่
รู้หรือไม่!! ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ อย. รับรองแล้ว มีทั้ง กำกับเครื่องหมาย อย. และ ไม่มีเครื่องหมายอย. บนฉลาก โดยมาตรฐานต่างกันตามระดับความเสี่ยง มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทใดบ้าง มาดูกันเลย
✅ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องใช้เทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญมาประเมิน ได้แก่
1.ผลิตภัณฑ์อาหาร แสดงตัวเลข 13 หลัก ในกรอบเครื่องหมายอย. xx-x-xxxxx-y-yyyy
2.เครื่องมือแพทย์ที่มีใบอนุญาต เครื่องมือแพทย์จะพิจารณาตามระดับความเสี่ยง เครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูงใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับการประเมินด้วยเทคโนโลยี ส่วนเครื่องมือแพทย์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่คนทั่วไปสามารถใช้ได้ ก็ต้องเครื่องหมาย อย. กำกับด้วยเช่นกัน
3.วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือนและทางสาธารณสุข ผลิตภัณฑ์ป้องกันและกำจัดแมลง, ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค ต้องมีเครื่องหมายอย. กำกับ (อักษรย่อ วอส.xxx / xxxx) ส่วน น้ำยาล้างจาน, ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นที่มีสาร อย.กำหนด จะมีเพียงเลขที่จดแจ้งเท่านั้น
✅ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. จำเป็นต้องแสดงข้อมูลบนฉลาก เช่น เลขทะเบียนตำรำยา, เลขที่ใบรับจดแจ้ง, เลขที่จดแจ้ง, เลขที่รับแจ้ง ได้แก่
1.ยาทุกชนิด ต้องมี “เลขทะเบียนตำรับยา” ระบุไว้บนฉลาก ประกอบด้วย อักษรย่อ/ เลขลำดับที่ได้รับอนุญาตการขึ้นทะเบียนตำรับยา/ เลขท้าย 2 ตัวขอ พ.ศ.ที่ได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนตำรับยาแล้ว
2.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ต้องมีคำต่อไปนี้กำกับอยู่อย่างเด่นชัด คือ ยาแผนโบราณ/ ยาแผนไทย/ ยาตามองค์ความรู้การแพทย์ทางเลือก (ยาแผนจีน)/ ยาพัฒนาจากสมุนไพร/ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้จะต้องแสดงข้อความของชื่อยา, วันเดือนปีที่ผลิต, วันเดือนปีที่หมดอายุ, เลขที่ทะเบียน, เลขที่จดแจ้ง และเลขที่แจ้งรายละเอียด
3.เครื่องสำอาง ไม่มีเครื่องหมายอย. บนฉลาก แต่ต้องแสดงเลขที่ใบรับจดแจ้ง
4.เครื่องมือแพทย์ เช่น เครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อกายภาพบ้าบัด, เครื่องตรวจวัดระดับหรือปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย, เต้านมเทียม, ซิลิโคนใช้ฝังในร่างกาย, เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เป็นต้น ต้องมีเลขที่ใบรับแจ้งรายละเอียด
5.วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือนบางประเภทที่ต้องแจ้งข้อเท็จจริง เช่น เคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีสารที่ อย. กำหนด, ผลิตภัณฑ์ล้างจาน, ผลิตภัณฑ์ซักผ้า เครื่องสุขภัณฑ์ เป็นต้น
"สินค้าที่มีเครื่องหมาย อย. เป็นการรับรองว่า ผลิตภัณฑ์นั้นได้มีการขึ้นทะเบียน หรือรับอนุญาตถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดแล้วเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะรับประกันคุณภาพของสินค้าตามที่โฆษณาไว้แต่อย่างใด"
การบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างปลอดภัยนั้นต้องดูหลายองค์ประกอบ เช่น ตัวผลิตภัณฑ์, ผู้จัดจำหน่ายและผู้ซื้อ แม้แต่สินค้าที่ผ่านการรับรองจาก อย. แล้วก็ต้องดูที่การขนส่งและการจัดเก็บสินค้าควบคู่กันไป ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรพิจารณาและอ่านข้อมูลอื่น ๆ บนฉลากประกอบการตัดสินใจซื้อ
สำหรับ “เลขที่ผลิตภัณฑ์สุขภาพ” สามารถตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์ของอย. https://oryor.com/check-product-serial รวมถึงการเข้าถึงความรู้ในเรื่องอาหารและยา การร้องเรียน และข้อมูลเตือนภัยอีกด้วย
ผู้บริโภคที่พบเห็นผลิตภัณฑ์อาหารและยาแสดงฉลากไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งข้อมูลมาได้ทาง
✉️จดหมาย : ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข 11004
📞โทรศัพท์ :0 2590 7410 (เพื่อติดต่อศูนย์ฯ),0 2590 7354, 0 2590 7355 (เพื่อติดต่อร้องเรียน)
📲สายด่วนอย. : โทร. 1556
อีเมล์ : 1556@fda.moph.go.th
ความหมาย: เป็นการรับรองว่าอาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหารนั้น “ไม่ขัดต่อบัญญัติของศาสนาอิสลาม”
อาหารฮาลาล หมายถึง อาหารที่ผ่านกรรมวิธีในการผลิต ปรุง และประกอบตามศาสนบัญญัติของศาสนาอิสลาม โดย “สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ (สกอท) ” (The Central Islamic Committee of Thailand) หรือคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด (กอจ.) จะเป็นผู้อนุญาตให้ผู้ประกอบประทับ เครื่องหมาย “ฮาลาล” ลงบนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามสามารถอุปโภคและบริโภคสินค้านั้น ๆ ได้อย่างสบายใจ
สัญลักษณ์ “ฮาลาล” เขียนด้วยภาษาอาหรับว่า حلال มีความหมายโดยทั่วไปว่า ✅ “อนุมัติ” เมื่อใช้ในทางศาสนาจะมีความหมายว่า สิ่งนั้นศาสนาอนุมัติแล้ว เช่น อนุมัติให้กิน อนุมัติให้ดื่ม อนุมัติให้ทำ อนุมัติให้ใช้สอย เป็นต้น ซึ่งตรงกันข้ามกับ “ฮารอม” ที่มีความหมายว่า❌ “ห้าม” หรือไม่อนุมัติ
สิ่ง “ต้องห้าม” ในผลิตภัณฑ์ฮาลาลและขัดต่อศาสนบัญญัติของศาสนาอิสลาม ได้แก่
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงพืชและสารเคมีที่ก่อให้เกิดโทษต่าง ๆ ต่อร่างกายอีกด้วย
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ฮาลาลได้รับความนิยมอย่างมากจากคนทั่วโลก ไม่เพียงเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น เพราะผู้บริโภคคำนึงในเรื่องของความสะอาด ปลอดภัย รวมถึงดีต่อสุขภาพ ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ประกอบการในตลาดนี้จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเครื่องหมายฮาลาลมากยิ่งขึ้นในทุกกระบวนการผลิตเพื่อความน่าเชื่อถือของสินค้า
ความหมาย : บ่งบอกถึงระยะเวลาการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์หลังจากเปิดใช้ครั้งแรก พบได้บ่อยบนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มาจากแถบประเทศยุโรป ซึ่งมีอายุการเก็บรักษาอย่างน้อย 30 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องระบุวันหมดอายุ
"Period After Opening" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "PAO" เป็นเครื่องหมายที่ใช้แสดงถึง “ระยะเวลาที่ควรใช้ผลิตภัณฑ์หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์” ตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรประบุว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีอายุการเก็บรักษา 30 เดือนขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องมีวันหมดอายุ แต่จะต้องระบุระยะเวลาหลังจากเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค มักแสดงบนผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ เช่น ครีมทาหน้า โลชั่น ครีมอาบน้ำ เป็นต้น
สัญลักษณ์ PAO ประกอบด้วยเลขและตัวอักษร "M" (Month) หมายถึง จำนวนเดือนที่แนะนำให้ใช้งานผลิตภัณฑ์หลังจากเปิดซีล เช่น "6M" หมายถึงผลิตภัณฑ์นั้นควรใช้งานภายใน 6 เดือนหลังจากการเปิดใช้ครั้งแรก ช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้ว่า “เมื่อไหร่ควรทิ้งหรือหยิบมาใช้” ซึ่งต่างกับวันหมดอายุ (Expire Date) ที่หมายถึง อายุของเครื่องสำอาง แม้ไม่ได้เปิดใช้ก็ตาม
ความหมาย : ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ทดลองกับสัตว์ หรือไม่มีกระบวนการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทารุณกรรมสัตว์
สัญลักษณ์รูปกระต่ายสุดน่ารักนี้ เรียกว่า "Cruelty-free" มาพร้อมข้อความ "Not Tested on Animals" มักปรากฏอยู่บนเครื่องสำอางและสกินแคร์ บ่งบอกว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ไม่ผ่านการทดลองกับสัตว์ หรือการทารุณกรรมสัตว์ อันเป็นการอาจสร้างความเจ็บปวดและทำให้เสียชีวิตเพื่อเซ่นสังเวยความงามขอมนุษย์
ทำไมต้องเป็นรูปกระต่าย? ในอดีตกระต่ายเป็นสัตว์ที่ถูกเลือกใช้ในการทดสอบสินค้าและสารเคมีต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย เพราะว่าผิวหนังของมันไวต่อสิ่งเร้าและใกล้เคียงกับผิวของมนุษย์ จึงถูกนำมาทดสอบความเป็นพิษของสารเคมีในเครื่องสำอาง ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อในผิวหนัง เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้านั้นมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยก่อนจะนำมาใช้กับมนุษย์
ในวงการความสวยความงาม นอกจากกระต่ายแล้ว ยังมีสัตว์ทดลองชนิดอื่น เช่น หนูบ้าน หนูแฮมสเตอร์ แมว และสุนัข สัตว์เหล่านี้ถูกทรมานอย่างโหดร้าย ด้วยการบังคับให้กิน ทา หรือสูดดมสารต่าง ๆ ของส่วนผสมในเครื่องสำอาง จากการทดลองทำให้พวกมันพิการ ตาบอด เลือดออก ตกเลือด และมีแผลอักเสบอยู่หลายสัปดาห์ สุดท้ายก็จะถูกฆ่าและผ่าร่างกายเพื่อตรวจสอบผลกระทบของส่วนผสมที่มีต่ออวัยวะภายใน รูปกระต่ายจึงถูกเลือกใช้เป็นสัญลักษณ์ของ "Cruelty-free" ซึ่งมีความน่ารักน่าเอ็นดูทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ง่าย และสามารถเข้าใจได้ว่าสินค้านั้นเป็น “ปราศจากความโหดร้าย” ได้ทันที สัญลักษณ์รูปกระต่ายอาจพบได้ในหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับองค์การที่รับรอง เช่น
ปัจจุบันมีกระแสผู้บริโภคเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ "Cruelty-free" กันมากขึ้น เนื่องด้วยเหตุผลด้านศีลธรรม ความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนทำให้หลายแบรนด์สินค้าหันมาออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ โดยเลือกที่จะลดส่วนผสมที่เป็นสารเคมี หรือใช้สารสกัดจากพืชทดแทน
ความหมาย : รับรองว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่เบียดเบียนสัตว์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Certified Vegan เป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับรองโดยองค์การ Vegan Awareness Foundation สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์หรือผลพลอยได้ เช่น น้ำผึ้ง, ขี้ผึ้ง, น้ำมันขนแกะ, น้ำมันตับปลา, สีย้อมผ้าจากสัตว์, เจลาติน (กระดูกวัวหรือหมู เส้นเอ็น), อำพันทะเล (อ้วกปลาวาฬ), รกแกะ เป็นต้น รวมทั้งไม่มีจากการทดสอบกับสัตว์ และใช้ส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่า “ไม่เบียดเบียนสัตว์และทำลายโลก” ทั้งทางตรงและทางอ้อมนั่นเอง ซึ่งผสิตภัณฑ์วีแก้นมักอยู่ในรูปแบบอาหารและเครื่องสำอาง
เป้าหมายหลักขององค์การ นอกเหนือจากการช่วยเหลือสัตว์ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของมนุษย์แล้ว ยังต้องการรณรงค์ให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับประโยชน์ของวิถีมังสวิรัติ และสร้างการเติบโตตลาด Vegan ให้กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งตัวอย่างคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับการรับรอง "Certified Vegan" มีระบุไว้บนเว็บไซต์ vegan.org มีดังนี้
ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นมิตรต่อสัตว์โลกและสิ่งแวดล้อม โดยสัญลักษณ์นี้ได้รับความนิยมในประเทศอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มักพ่วงมากับสัญลักษณ์ Cruelty-free ผลิตภัณฑ์ที่มักพบเครื่องหมาย Certified Vegan เช่น อาหารเสริม, ธัญพืชอบกรอบ, นมทางเลือก และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
นอกจาก Certified Vegan ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพบางประเภทยังมี "สัญลักษณ์ใบไม้ที่เป็นรูปตัว V " เพื่อบอกผู้บริโภคว่าผลิตภํณฑ์นั้น "ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" แต่อาจไม่ได้ผ่านการรับรองตามมาตรฐานขององค์กรชั้นนำ
ความหมาย : ผลิตภัณฑ์นี้ติดไฟง่าย เป็นวัตถุไวไฟ หรือมีสารเคมีที่เป็นเชื้อเพลิง
Open Flame symbol หรือเครื่องหมายเปลวไฟ ใช้กำกับผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ "สารไวไฟ" ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานใกล้กับแหล่งกำเนิดไฟ หรือสภาพแวดล้อมที่มีเปลวไฟ ซึ่งควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุในฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ของสินค้า เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สินค้า
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มี “เครื่องหมายเปลวไฟ” กำกับไว้บนฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ ได้แก่
คำแนะนำในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายเปลวไฟ ควรเก็บในบริเวณที่แห้งและอุณภูมิต่ำ หลีกเลี่ยงแหล่งความร้อนหรือมีแสงแดด เพื่อลดความเสี่ยงการระเบิดและการระเหยของสารเคมีที่อาจเป็นเชื้อเพลิงได้
ความหมาย : แสดงถึงการรีไซเคิลวัสดุหรือนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดการสร้างขยะ โดยลูกศรแต่ละดอกหมายถึง "Recycling", "Recyclable", "Recycled Product"
ลูกศรวงเวียนนี้ เรียกว่า "Mobius loop" เป็นสัญลักษณ์สากลที่ทั่วโลกต่างรู้จักในรูปแบบ "ลูกศรสีเขียวสามดอก เวียนกันเป็นสามเหลี่ยม" หมายถึง ผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่ได้รับการประทับตราด้วยสัญลักษณ์นี้ สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แม้ไม่ได้ทำจากวัสดุรีไซเคิลก็ตาม และหากสินค้านั้นทำจากวัสดุรีไซเคิล ภายใน Mobius loop จะมีเปอร์เซ็นต์ระบุไว้ เพื่อบอกว่าสินค้านั้นทำจากวัสดุรีไซเคิลมากน้อยเพียงใด
นอกจากเหนือจาก Mobius loop ยังมีสัญลักษณ์ในรูปแบบ "ลูกศรเวียน" อื่น ๆ ที่มีความหมายต่างออกไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความสับสนและเข้าใจผิดได้ เช่น
ลูกศรเวียนสามเหลี่ยม “ระบุรหัสพลาสติก” (Plastic resin codes)
สิ่งนี้บ่งบอกถึง “ประเภทของเม็ดพลาสติกที่ใช้ในการผลิตสิ่งของ” เป็นลูกศรสามดอกล้อมรอบตัวเลขซึ่งอยู่ระหว่าง 1 ถึง 7 และอาจมีคำว่า 'PET' อยู่ข้างใต้ ซึ่งดูคล้ายกับ Mobius loop มาก แต่ลูกศรมักจะแคบกว่าและไม่ใช่สีเขียว
ลูกศรเวียนสามเหลี่ยมสีดำ (Glass Recycling)
แม้จะสัญลักษณ์จะมีลูกศรเวียนสามดอก แต่ต่างจาก Mobius loop ตรงที่เป็นลูกศรสีดำแบบ 2 มิติ ในขณะที่แบบดั้งเดิมเป็นลูกศรสีเขียวที่บิดโค้ง เพิ่มเติมจากนั้นก็มีภาพคนตัวเล็ก ๆ กำลังวางของบางอย่างอยู่ตรงกลาง หากคุณเห็นสัญลักษณ์นี้บนแก้ว แสดงว่าแก้วนั้นสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ดังนั้น ควรทิ้งในถังขยะที่มีไว้แยกเศษแก้วโดยเฉพาะเท่านั้น เพื่อป้องกันอันตรายและการนำกลับไปเข้ากระบวนการรีไซเคิลได้อย่างถูกต้อง
Green Dot
ลูกศรสีเขียว 2 ดอกที่เวียนกันนี้ เรียกว่า Green dot ถูกใช้บนวัสดุบรรจุภัณฑ์ของสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศฝั่งยุโรป เพื่อแสดงว่า ผู้ผลิตได้ให้ทุนสนับสนุนแก่องค์กรผู้เชี่ยวชาญในการดูแลจัดการกู้คืนและรีไซเคิล โดยมีการกำจัดขยะบรรจุภัณฑ์อย่างถูกวิธี
แนวคิดระบบ Green Dot เริ่มต้นขึ้นในปี 1990 โดย Klaus Töpfer รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของเยอรมนีในขณะนั้น ช่วยให้ผู้บริโภคทราบว่าผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนสนับสนุนทางการเงินในกระบวนการกู้คืนและรีไซเคิล วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ผู้ผลิตลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ ซึ่งจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ปัจจุบัน The Green Dot ยังเป็นเครื่องหมายการค้าและได้รับการสนับสนุนทั่วโลก
การอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ ทำให้คุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตามความต้องการของคุณได้ ต่อไปนี้ คือคำแนะนำในการอ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนควรรู้
ขอบคุณแหล่งข้อมูล :
ศูนย์วิจัยและพัฒนาVRI, การประกอบอุตสาหกรรมฮาลาล , สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, FDA Thai, vegan.org