คงเป็นเรื่องธรรมดาของพ่อแม่ที่อยากเห็นลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จของเด็กคนหนึ่งอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ‘ระดับสติปัญญา’ หรือ ‘พรสวรรค์’ เสมอไป แต่รวมไปถึงการมีทัศนคติที่ดี มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความกระตือรือร้นพร้อมเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง หรือที่เรียกว่ามี ‘Growth Mindset’ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในยุคสมัยนี้
ในละคร เรื่อง “7 อัคนี พิทักษ์จักรวาล” ละครแนวแฟนตาซีสำหรับเด็ก จาก ALTV ได้หยิบแนวคิด ‘Growth Mindset’ มาเป็นแก่นสำคัญในการดำเนินเรื่อง ผ่านตัวละครเด็กทั้ง 3 ที่ต่างมีข้อจำกัดและปมปัญหาของตนเอง โดยเริ่มจาก “แม็ค” เด็กชายที่ขาดความมั่นใจและเชื่อว่าตนเองไม่สมบูรณ์แบบ “อาร์ม” ผู้ที่ลังเลกับความฝันของตนเอง และ "บิว" สาวน้อยผู้ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก และความล้มเหลว
นอกจากจะได้ร่วมลุ้นไปกับภารกิจกู้โลกของเหล่าตัวละครแล้ว ยังได้เอาใจช่วยให้เหล่าตัวละครทั้ง 3 ก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดของตนเองไปพร้อมกัน แต่ก่อนที่จะไปสนุกเพลิดเพลินกับละคร ALTV จะขอพามาทำความเข้าใจ Growth Mindset แนวคิดสำคัญที่สอดแทรกอยู่ภายในเนื้อเรื่องกันก่อน
เคยสงสัยหรือไม่ว่า? ทำไมเด็กบางคนไม่กล้าลองทำอะไรใหม่ ๆ เพราะกลัวทำผิดพลาด แต่เด็กบางคนกลับมีความกระตือรือร้นเมื่อได้ลองทำในสิ่งที่ยากและท้าทาย โดยไม่กลัวว่าตัวเองจะทำออกมาได้ไม่ดี
ความแตกต่างของบุคลิกทั้งสองแบบนี้ ส่วนหนึ่งมีผลมาจาก 'กรอบแนวคิด' (Mindset) ที่คอยกำหนดวิธีการคิด พฤติกรรม และการแก้ปัญหาสิ่งต่าง ๆ ของคนเรานั่นเอง แครอล ดเว็ค (Carol Dwek) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ผู้ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับแรงจูงใจและกรอบความคิดมาอย่างยาวนาน ระบุไว้ว่า กรอบความคิดของคนเรา สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ กรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) และ กรอบความคิดแบบยึดติด (Fixed Mindset)
การปลูกฝังทัศนคติแบบ Growth Mindset เสมือนเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์ดีเพื่อการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จควบคู่ไปกับการมีสุขภาพจิตที่ดี โดยหนึ่งในวิธีการส่งเสริม Growth Mindset อย่างหนึ่งที่ เดว็ค ระบุไว้ในหนังสือ ‘Mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา’ นั่นคือ ‘คำชมที่ถูกวิธี ’
“หนูเก่งที่สุด” “หนูฉลาดที่สุด” ฟังผิวเผินแล้วดูเป็นคำชมที่สร้างกำลังใจได้ดี แต่ในทางกลับกันอาจยิ่งเป็นการส่งเสริม Fixed Mindset ที่ทำให้เด็กยอมรับความล้มเหลวได้ยากขึ้น ทำให้เกิดความคิดยึดติดว่าตนมีความพิเศษเฉพาะตัวที่เหนือกว่าคนอื่น เมื่อเจอปัญหาที่ยากและท้าทาย เด็กจะมีแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงปัญหา มากกว่าพุ่งชนปัญหา ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาสถานะความเป็น ‘เด็กฉลาด’ เอาไว้
งานศึกษา Praise for Intelligence Can Undermine Children's Motivation and Performance โดย เดว็ค ได้ทดลองเปรียบเทียบเด็ก 2 กลุ่ม ที่ชมไปที่ความฉลาด กับ ชื่นชมที่ความพยายาม พบว่า เด็กที่ได้รับคำชมที่เน้นไปที่ความพยายาม กว่า 90 เปอร์เซนต์ เด็กต้องการแก้โจทย์ที่ยากขึ้น และพร้อมเรียนรู้ข้อผิดพลาด และมีแนวโน้มที่จะไม่โทษตัวเองเมื่อทำผิดพลาด
การชื่นชมควรมุ่งเน้นไปที่ ความพยายาม, ความคิด, ทัศนคติ หรือวิธีการที่ใช้ในการทำสิ่งต่าง ๆ มากกว่าการชมที่ผลลัพธ์ เช่น ‘หนูพยายามได้ดีมากเลย’ ‘แม่ภูมิใจที่หนูตั้งใจอ่านหนังสือจนสอบได้ที่ 1’ และหลีกเลี่ยงคำชมหรือคำพูดตีตราที่ส่งเสริม Fixed Mindset เช่น ฉลาด เก่ง มีพรสวรรค์ อัจฉริยะ
ทั้งนี้ การชื่นชมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเสริมสร้าง Growth Mindset ต้องควบคู่ไปกับการให้ความรัก ความเข้าใจ และคอยให้คำปรึกษาเมื่อพบเจอกับปัญหาต่าง ๆ
"เราต่างเป็นส่วนผสมของ ‘Growth Mindset’ และ ‘Fixed Mindset’ ไม่มีใครสามารถมีกรอบแนวคิดแบบเติบโตได้ตลอดเวลา" แครอล เดว็ค กล่าวกับสำนักข่าว The Atlantic
เมื่อพูดถึง Growth Mindset ความเข้าใจผิดที่พบเห็นได้บ่อยคือ 'คนเราต้องมี Growth Mindset อยู่ตลอดเวลา' ซึ่งไม่ใช่สิ่งจำเป็น คนเราไม่สามารถมี Growth Mindset ให้กับทุกเรื่อง และเรามีโดดเด่นกันคนละด้าน บางคนมั่นใจกับการแก้ไจทย์เลข ก็จะมี Growth Mindset กับสิ่งนั้น กลับกันก็อาจไม่มีในด้านศิลปะ กล่าวคือเราต่างมีสิ่งที่เราเชื่อว่า 'ทำได้' และ 'ทำไม่ได้' อยู่ในตัวเองทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราและผู้ปกครองทำได้คือกาทำงานร่วมกับมันเลือกมองว่าอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าใครต้องเจอ และไม่ควรกดดันให้เด็กมี Growth Mindset ตลอดเวลา เพราะในบางสถานการณ์ก็อาจเป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าที่เด็กจะแก้ด้วยตัวเอง จนไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องคอยให้ความช่วยเหลือ ให้การสนับสนุนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
ที่มา: The Atlantic Harvard Bussiness school