ALTV All Around
ALTV News
บทความอื่นจาก Thai PBS
ALTV All Around
ALTV News
บทความ Thai PBS
โคลนถล่ม ดินสไลด์ รับมืออย่างไร
แชร์
ฟัง
ชอบ
โคลนถล่ม ดินสไลด์ รับมืออย่างไร
21 ต.ค. 67 • 08.50 น. | 200 Views
ขนาดอักษร : กลาง
ALTV CI

เหตุการณ์ โคลนถล่มหรือดินสไลด์ มักเกิดขึ้นหลังจากเกิดฝนตกหนัก หรือปรากฏการณ์แผ่นดินไหว แต่เราสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์นี้ได้ โดยการสังเกตจากสีของน้ำที่ไหลผ่านหากมีสีขุ่นข้น เป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดเหตุดินถล่มขึ้นหลังจากนี้ เมื่อเกิดดินถล่มจะเป็นอันตรายต่ออาคารสิ่งปลูกสร้าง เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด เสาไฟฟ้า และต้นไม้ล้ม

รชนิชล ยี่สารพัฒน์ นักธรณีวิทยาชำนาญการ กรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่าโคลนถล่มดินสไลด์ เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของดินหรือหินลงมาตามที่ลาดเชิงเขา ในขณะที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ดินชุ่มน้ำ จนน้ำหนักของมวลดินเพิ่มขึ้น และแรงยึดเกาะระหว่างมวลดินลดลง จึงเลื่อนไหลมาลงยังพื้นด้านล่างก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

 

“ฤดูกาลเกิดโคลนถล่มดินสไลด์ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีโอกาสเกิดในช่วงเดือนกรกฏาคม-สิงหาคม เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อน ส่วนภาคใต้มีโอกาสเกิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม เนื่องจากเป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ”   

โดยการเคลื่อนที่ของมวลดินและหินลงมาตามลาดเขาด้วยอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงของโลก โดยขณะเกิดฝนตกหนักจนดินชุ่มน้ำ และสูญเสียกำลังไม่สามารถคงตัวอยู่ได้ ดินจะถล่มลงมาจากไหล่เขาพร้อมๆ กับน้ำที่ไหลหลากผสมกันเป็นน้ำโคลน ที่มีความหนาแน่นมากกว่าปกติและมีพลังทำลายล้างสิ่งกีดขวางสูงกว่าน้ำ ดินถล่มมักเกิดตามมาหลังจากมีน้ำป่าไหลหลาก ในขณะเกิดพายุหรือหลังพายุฝนที่มีฝนตกหนักรุนแรงต่อเนื่อง

การเกิดโคลนถล่มดินสไลด์ แบ่งตามลักษณะการเคลื่อนตัวได้ 3 ชนิดคือ เคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนตัวอย่างฉับพลัน หรือเร็วมาก แบ่งตามลักษณะของวัสดุที่ร่วงหล่นลงมาได้ 3 ชนิด คือ ผิวหน้า ดินของภูเขาวัตถุที่ยังไม่แข็งตัว เช่น โคลน ชั้นหินหรือหินหล่นลงมา

 

สรุปสาเหตุโคลนถล่มดินสไลด์ คือ

  1. เกิดจากลักษณะหินและดิน ในแต่ละพื้นที่มีหินและดินที่ต่างกัน ทำให้อัตราการเสี่ยงต่อดินถล่มจึงแตกต่างกัน
  2. ลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อดินถล่มมักเป็นเขา สูงชันและหน้าผาพื้นที่ลาดชันสูงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์มีประชากรอาศัยอยู่ บริเวณตีนเขาหนาแน่นและปลูกสิ่งก่อสร้างขวางทางน้ำ
  3. ลักษณะสิ่งแวดล้อม มีการทำลายป่าไม้ ตัดถนนบนภูเขาสูง ถนน สะพาน ท่อ สร้างขวางทางน้ำ สร้างบ้านรุกล้ำพื้นที่ลำน้ำและภูเขา ฝายและอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กขวางทางระบายน้ำ 
  4. ปริมาณน้ำฝน  ฝนตกหนัก  หากฝนตกหนักมากกว่า 90 - 100 ลบ.ม. ต่อวันเสี่ยงน้ำป่าไหลหลากทำให้ดินอุ้มน้ำไม่ไหว ตัวอย่างกรณีเหตุการดินถล่มในพื้นที่อำเภอลับแล ปี 2549 ได้รับความเสียหายมากเพราะสภาพดินบริเวณนั้นร่วนซุย มีความชัน 70 องศาเซลเซียส ประกอบกับปริมาณน้ำฝนสูงถึง 330 ลบ.มม.

 

รชนิชล เล่าว่า โคลนถล่มดินสไลด์ มี 6 ชนิด คือ แบบยุบตัว (Slump) การยุบตัวแบบมีการม้วนตัวของมวลดิน แบบเลื่อนไหล (Slide) มีการเคลื่อนย้ายมวลดินในลักษณะขนานไปบนผิวราบและความลาดชัน ซึ่งมีความอ่อนตัวแบบไหลคลาน (Creep) ลักษณะเคลื่อนตัวของมวลดินช้ามาก แบบค่อยเป็นค่อยไป แบบล้มตัว (Topple) เป็นการเคลื่อนไหลแบบเอนตัว และล้มลงของก้อนหินตามแนวความลาดเอียง แบบหล่น (Fall) มีลักษณะการเคลื่อนมวลดินอย่างอิสระ และสุดท้ายแบบไหล (Flow) เป็นการเคลื่อนที่ของมวลดินที่ถูกทำให้ไหลไปกับของเหลว

 

ทั้งนี้ ลักษณะของพื้นที่และหมู่บ้านเสี่ยงโคลนถล่มดินสไลด์ อยู่ติดภูเขาและใกล้ลำห้วย มีร่องรอยดินไหลหรือเลื่อนบนภูเขา อยู่บนเนินหน้าหุบเขาและเคยเกิดดินถล่ม เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันบ่อยครั้ง มีกองหินเนินทรายปนโคลนและต้นไม้ในลำห้วย ส่วนสัญญาณเตือนก่อนเกิดดินถล่มจะเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง (มากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวันหรือนานกว่า 6 ชั่วโมง) ระดับน้ำในแม่น้ำและลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำมีสีขุ่นมากกว่าปกติหรือเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับสีดินภูเขา มีกิ่งไม้หรือท่อนไม้ไหลปนมากับกระแสน้ำมีเสียงดังผิดปกติมาจากภูเขาหรือลำห้วย เช่น เสียงหักของต้นไม้ เสียงแตกของหิน เสียงการไหลของโคลน

 

“แม้เราจะเป็นคนตัวเล็ก ๆ แต่ก็สามารถช่วยโลกนี้ได้ ด้วยการไม่ตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าด้วยการนำขยะมารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้งานซ้ำ ส่วนวิธีการป้องกันในระยะยาว คือช่วยกันปลูกป่า เพื่อชะลอความแรงของน้ำและลดการเกิดโคลนถล่มดินสไลด์ นอกจากนี้ยังใช้มาตรการการอนุรักษ์ดินและน้ำด้วยวิธีกล เช่นการทำชั้นบันไดดิน หรือทำคันคูรับน้ำ และปลูกพืชคลุมดิน หญ้ารากเลื้อย”

ประชาในพื้นที่เสี่ยง ควรมีวิธีการปฏิบัติตนเมื่อเกิดโคลนถล่มดินสไลด์ได้โดยการอพยพขึ้นที่สูงหรือไปยังสถานที่ปลอดภัย ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณพื้นที่เสี่ยงดินถล่มอย่างน้อย 2 - 5 เมตร อยู่ห่างจากลำน้ำให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นแนวการไหลของดิน หรือมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว กรณีการพลัดตกน้ำ ให้หาต้นไม้ใหญ่ยึดเกาะและปีนให้พ้นน้ำ และการปฏิบัติตนหลังเกิดดินถล่ม ห้ามเข้าใกล้และกลับเข้าไปในบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากดินถล่ม จัดทำทางเบี่ยงของดินและน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลลงมาสมทบมวลดินที่เสี่ยงต่อการถล่ม  

 

ขณะที่หน่วยงานภาครัฐ ควรเพิ่มมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือโคลนถล่มดินสไลด์ ทั้งการสำรวจสภาพความเสี่ยงของพื้นที่และหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ จัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศ เพื่อแจ้งเตือนคนในชุมชนอพยพหนีภัยได้ทันท่วงที ตลอดจนการเข้าร่วมการฝึกซ้อมอพยพหนีภัย พร้อมศึกษาเส้นทางหนีภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย

แท็กที่เกี่ยวข้อง
##Lifeskill, 
##ดินถล่ม, 
##โคลนถล่ม, 
##อุทกภัย, 
##ภัยพิบัติ 
ผู้เขียนบทความ
avatar
กองบรรณาธิการ ALTV
ALTV CI
ข่าว ALTV
ข่าว ALTV
ALTV News
ผู้เขียนบทความ
avatar
กองบรรณาธิการ ALTV
แท็กที่เกี่ยวข้อง
##Lifeskill, 
##ดินถล่ม, 
##โคลนถล่ม, 
##อุทกภัย, 
##ภัยพิบัติ 
แชร์
ฟัง
ชอบ
ติดตามเรา