เป็นประโยคที่คุ้นหูมาก ในการปฏิเสธเมื่อต้องไปพรีเซนต์งานหน้าชั้นเรียน หรือคุยกับคนแปลกหน้า แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ เช่นการถามทาง และอีกหลายเหตุการณ์ ที่ทำให้คนขี้อายต้องโบกมือปฏิเสธกันเป็นแถว
พันธุกรรม ยีนมีอิทธิพลต่อความประหม่าอยู่ประมาณ 20% ของคนที่มีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่จะขี้อายตามธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีแนวโน้มทางพันธุกรรมนี้
ประสบการณ์ชีวิตในอดีต เกิดจากถูกแกล้งรังแก หยอกล้อ ตำหนิข้อด้อย เช่น รูปร่าง หน้าตา สีผิว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้จดจำไปตลอดชีวิต และไม่กล้าแสดงออกได้
การงาน ความอายเป็นกรอบที่ทำให้เราไม่สามารถสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ ในที่ทำงานได้ และยังกลายเป็นการจำกัดประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับคนในทีม การแสดงความคิดเห็น แม้แต่การแสดงศักยภาพผลงานของตนเอง
การเข้าสังคม แน่นอนว่าเมื่อเราโตขึ้น การเข้าสังคมก็เป็นอีกสิ่งที่เราต้องเจอ ในการพบปะผู้คน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงาน พบญาติ ๆ ของครอบครัว ความอายนั้น อาจทำให้เราพลาดการเจอ Connection ใหม่ ๆ ซึ่งมีผลต่อการทำงานในวันข้างหน้า
Connection คือ การเชื่อมโยง/การติดต่อ/ความสัมพันธ์” แต่ถ้าความหมายในที่นี้คือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คน เป็นการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคต หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นดี ๆ
โชว์ความสามารถของตัวเอง โอกาสดี ๆ มักจะวิ่งเข้าหาคนที่กล้าแสดงออกเสมอ แต่ถ้าเรายังอายอยู่ ณ ตอนนี้ ก็เหมือนกับเราปิดบังความสามารถ และบุคลิกด้าน อื่น ๆ เช่นกัน
มาเปลี่ยนแปลงตัวเอง สร้างความมั่นใจด้วยเทคนิค 5 ข้อง่าย ๆ ไม่แน่นะ จากคนขี้อายกลายเป็นคนกล้าแสดงออกในพริบตาเลยก็ได้นะ
1.เป็นตัวของตัวเอง
เป็นวิธีแรกที่จะทลายกำแพงของความขี้อายของเรา และจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ หากเรากล้าที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นในสิ่งที่อยากเป็น และยึดคติความมั่นใจตัวเองให้ได้
2.พยายามเริ่มต้นบทสนทนา
ข้อนี้อาจเป็นด่านหินสำหรับคนขี้อาย คือ การไม่รู้ว่าต้องพูดอย่างไรกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ มันจะง่ายขึ้นถ้าเราเป็นคนเริ่มชวนคุยก่อน เพราะจะรู้ว่าเขาสนใจที่จะคุยกับเราหรือเปล่า เริ่มจากถามคำง่าย ๆ คำถามทั่วไป เช่น วันนี้รถติดเนอะ พักกลางวันกินอะไรดี หยุดยาวไปเที่ยวที่ไหนมา
ชวนคุยก่อน ทักทายก่อน ทำให้การสนทนาไหลลื่น และลองเพิ่มคำถามไปเรื่อย ๆ เพื่อให้การพูดคุยนานขึ้น และเป็นตัวของตัวเองมากกว่าที่เคย
3.หัดพูดจาให้ฉะฉาน
การพูดจาฉะฉาน ทำให้เราเป็นคนกล้าแสดงออกมากขึ้นได้ไม่น้อย ลองฝึกพูดกับตัวเองบ่อย ๆ อัดเทปฟังเสียงตัวเอง เราจะรู้ว่าคำไหนที่ติดขัด หรือเข้าหาคนที่เราอยากคุยด้วย
ตอนแรกเราจะรู้สึกอาย ๆ เกร็ง ๆ แต่เชื่อว่าบททดสอบเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจในการพูดมากขึ้น แถมยังสร้างความน่าเชื่อถือได้อีกด้วยนะ
4.พาตัวเองไปลองทำสิ่งใหม่ ๆ
สลัดความขี้อายออกไป ด้วยประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ต้องลอง รวบรวมความกล้าทั้งหมดก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เช่น ฝึกยิ้มให้กับเพื่อนบ้านข้าง ๆ ทักทายเพื่อนต่างห้อง พรีเซนต์งานหน้าชั้นเรียน จากที่เป็นคนนั่งคลิกเม้าส์มาตลอด
ฝึกบ่อย ๆ จะช่วยให้อายน้อยลง และเราจะกล้าแสดงออกมากขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้น ช่วงแรก ๆ มันอาจจะยากหน่อย แต่ถ้าได้ทำบ่อย ๆ รับรองความขี้อายหายได้แน่นอน
5.อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แล้วมารักตัวเองให้มากขึ้น การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นนั้น นอกจากจะทำให้เรารู้สึกแย่แล้ว ยังทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยมากกว่าเดิม ยิ่งทำให้ความขี้อายฝังลึกลงไปอีก
จำไว้เสมอว่าเราทุกคนมีความสามารถที่เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้! แล้วพยายามโฟกัสที่จุดเด่น เรียนรู้ศักยภาพของตัวเอง แล้วพัฒนาจุดด้อยให้ดีขึ้น เพราะมันจะช่วยให้เรามั่นใจในตัวเองมากขึ้น
การเป็นคนขี้อายไม่ใช่เรื่องผิด เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นคนที่มีความมั่นใจได้ ด้วยความตั้งใจและลงมือทำ
ขอแนะนำพื้นที่ค้นหาสร้างแรงบันดาลใจสานต่อสำหรับคนพูดไม่เก่ง กับรายการ The Speech ที่จะทำให้คุณกล้าพูดมากขึ้น!
รับชมได้แล้วคลิกเลย! www.ALTV.tv/TheSpeechIdol