“วันเยาวชนแห่งชาติ” วันสำคัญที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนของชาติ ได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาตนเองเป็นผู้ที่มีค่านิยมที่พึงประสงค์ รู้จักการอดออมและประหยัด ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตลอดจนบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ
โดย “วันเยาวชนแห่งชาติ” แรกเริ่มจัดขึ้น เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2528 เนื่องจากองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปีนี้ เป็นปีเยาวชนสากลอีกด้วย และได้ขอให้ประเทศสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากลภายใต้คำขวัญว่า “Participation, Development and Peace” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” ซึ่งเป็นความหมายที่เด็กและเยาวชนทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันรวมไปถึงอนาคตวัยทำงานด้วยนั้นเอง
ALTV จึงพาทุกท่านไป “ส่อง 5 อาชีพในฝันที่เด็กและเยาวชนไทยอยากเป็นมากที่สุด” ซึ่งเป็นผลสำรวจจาก Adecco Children Survey ประจำปี 2564 ที่สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยอายุ 7-14 ปี จำนวน 2,024 คน จากทั่วประเทศจะมีอะไรบ้างตามมาดูกันได้เลย
จากผลสำรวจอาชีพในฝันพบว่า อาชีพที่เด็กไทยอยากเป็นมากที่สุดคือทางด้าน “หมอ” หรือสายแพทย์-พยาบาล เนื่องจากต้องการอยากรักษาคนและช่วยเหลือผู้อื่น อันดับถัดรองลงมาคืออาชีพ “ครู” ส่วนสำอาชีพมาแรงในปีนี้ได้แก่ “YouTuber” และ “ดารา-นักร้อง” ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับ โดยให้เหตุผลว่าเป็นอาชีพที่ได้มอบความบันเทิงและความสุขให้ผู้อื่น
ซึ่งอาชีพดารา-นักร้อง นั้นเป็นอาชีพที่ไม่เคยติด Top 5 ของผลการสำรวจ Adecco Children Survey มาก่อน คาดว่าเป็นเพราะปัจจุบันมีการทำคลิปคอนเทนต์โปรโมท ดารา นักร้อง อยู่ใน YouTube มากขึ้นซึ่งเป็นสื่อหลักที่เด็กเปิดรับมากที่สุด จึงทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นมาในปีนี้ ส่วนอันดับที่ 5 ได้แก่อาชีพรับราชการ “ตำรวจ”
ภาพจาก : Facebook BLACKPINK
นอกจากนั้นแล้ว ผลการสำรวจยังได้เผยให้เห็นว่า เด็กและเยาวชนไทยยก “ศิลปิน K-POP” และ “YouTuber” เป็นไอดอลอีกด้วย โดยผลโหวตไอดอลในดวงใจของเด็กไทยปีนี้พบว่า “BLACKPINK” ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด เนื่องจากความสามารถที่โดดเด่นทั้งด้านการร้องและการเต้น รวมถึงหน้าตาที่สวยน่ารัก
ภาพจาก : pixinoo
จากการสำรวจพบว่า เมื่อต้องหาความรู้นอกตำรา จะใช้วิธีค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ตผ่านการเสิร์ช Google และดู YouTube ส่วนในยามว่างก็จะใช้เทคโนโลยีในการเล่นเกม ดู YouTube เล่นโซเชียลมีเดีย ซึ่งสื่อโซเชียลที่เข้าถึงมากที่สุด ได้แก่ YouTube คิดเป็น 94% ถัดมาคือ Facebook 80% LINE 74% TikTok 73% Instagram 50% Twitter 26% ซึ่ง YouTube เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งทุกปีที่มีการสำรวจ ในขณะที่ TikTok ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มมาแรงที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ โดยได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากการสำรวจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของ Adecco Children Survey
ภาพจาก : visoot
พบว่าเด็กไทยกว่า 96% ได้เรียนออนไลน์ ขณะที่อีก 4% ไม่ได้เรียนออนไลน์ เพราะขาดอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ต โดย 52% ระบุว่าพวกเขาชอบเรียนออนไลน์เพราะไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องตื่นเช้า สามารถเรียนจากที่ไหนก็ได้ เมื่อไม่เข้าใจตรงไหนก็วนกลับมาดูซ้ำได้ และยังช่วยให้ปลอดภัยจากโรคระบาดขณะที่อีก 46% ระบุว่าไม่ชอบเรียนออนไลน์เพราะรู้สึกว่าเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจก็ไม่สามารถถามได้ ไม่มีกิจกรรม ไม่ได้เจอเพื่อน จึงทำให้รู้สึกเบื่อ และบางคนยังประสบปัญหาจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียรอีกด้วยนั้นเอง
ตามมาชมกันต่อกับรายการที่จะพาไปเจาะลึกชีวิตทุกมิติที่หล่อหลอมให้เด็กไอดอลคนเก่งเดินตามฝันได้สำเร็จ เปิดเผยเคล็ดลับการใช้ชีวิตของน้อง ๆ ไอดอลเยาวชนคนเก่งทั้งหลาย พร้อมเคล็ดลับการเลี้ยงดูของครอบครัว และการสนับสนุนของคุณครูและสังคมรอบตัวน้องไอดอลกับรายการ “กล้า KIDS”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลจาก : Adecco, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม