สันนิษฐานกันว่าความเชื่อเรื่องแมวดำเป็นลางร้ายเริ่มขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 ยุคที่เกิดลัทธิการล่าแม่มดอย่างหนักหน่วง พวกเขาเชื่อว่าแม่มดกับแมวดำเป็นผู้รับใช้ซาตาน มีเรื่องราวที่เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าทำให้เกิดการล่าแม่มด คือมีพ่อลูกคู่หนึ่งโยนหินไล่แมวดำในคืนเดือนมืด จนแมวตัวนั้นบาดเจ็บ พอเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็ได้เดินสวนกับยายแก่คนหนึ่งที่มีแผลบนใบหน้าลักษณะเดียวกับบาดแผลของแมวดำเมื่อคืน จึงเชื่อว่าแมวดำสามารถแปลงร่างเป็นคนได้ กลายเป็นอีกหนึ่งในความเชื่อสมทบให้เกิดการล่าแม่มด ความเชื่อเหล่านี้ถูกถ่ายทอดส่งต่อกันมาทั้งรูปแบบปากต่อปาก วรรณกรรม และเมื่อถึงยุคที่ภาพยนตร์รุ่งเรือง เรื่องราวของแม่มดและแมวดำก็ยังถูกจับมาเกี่ยวโยงกับความชั่วร้าย ภูตผีปีศาจด้วย ประเทศไทยคาดว่าเรื่องแมวดำเป็นลางร้ายเริ่มโด่งดังหลังปี พ.ศ.2500 เพราะเป็นยุคที่ประเทศไทย ได้รับวัฒนธรรมมาจากทางฝั่งยุโรปอย่างมาก โดยเฉพาะด้านวรรณกรรม และภาพยนตร์ จึงเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางความคิด กลายเป็นอุปทานหมู่ จนกลบความเชื่อโบราณเกี่ยวกับแมวมงคลของไทย ซึ่งมีทั้งหมด 17 ชนิด และเป็นแมวสีดำมากถึง 9 ชนิด อ้างอิงจากตำราดูลักษณะแมวของวัดอนงคาราม
17 สิงหาคม วันยกย่องแมวดำ
ALTV จึงพาทุกคนมาสัมผัสความน่ารักและทำความรู้จักกับ “4 แมวดำนำโชค ตามแบบบันทึกไทยโบราณ” ที่เชื่อกันว่าเป็นแมวมงคลเสริมเรื่องราวดี ๆ ให้กับผู้เลี้ยง
เป็นแมวสีดำล้วนทั้งตัว มีหางยางอ้อมถึงหัว เชื่อว่าผู้ใดที่เลี้ยงไว้จะทรัพย์สินเพิ่มพูน
เป็นแมวสีดำสนิททั้งตัว ปลายหางเรียว ตาเหลืองอำพัน เคลื่อนไหวดูสง่างาม เชื่อว่าเป็นการเสริมอำนาจให้กับผู้เลี้ยง
รอบปากที่มีสีขาว จมูกและลำคอก็มีสีขาวเช่นกัน ตัวผอมบาง เชื่อว่าเลี้ยงไว้จะทำให้สมบัติงอกเงย
มีสีขาวอยู่ที่เท้าทั้งสี่ ถึงข้อพับ คล้ายกับใส่ถุงเท้า ส่วนตัวมีสีดำ ในอดีตเชื่อว่าควรเลี้ยงในเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
เรื่องราวของโชคลาง และการเลี้ยงสัตว์เพื่อเสริมดวงนั้นถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้การใช้ชีวิตประจำวันจะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับการกระทำ การระวังตัวของเราเช่นกัน มาเปิดใจรับเลี้ยงน้องแมวดำสัตว์น่ารักขี้อ้อนไม่แพ้ตัวอื่น ๆ ที่รับรองว่าหากได้กอดสักครั้ง จะไม่อยากปล่อยกันเลย
ที่มา : ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ จ.สมุทรสงคราม