ALTV All Around
ALTV News
บทความอื่นจาก Thai PBS
ALTV All Around
ALTV News
บทความ Thai PBS
หัวใจสลาย ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
แชร์
ชอบ
หัวใจสลาย ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
13 ก.พ. 66 • 17.00 น. | 5,707 Views
ขนาดอักษร : กลาง
ALTV CI

“เทศกาลวันวาเลนไทน์” เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของคนมีความรัก สำหรับคนโสดและคนมีคู่ก็คง “หัวใจฟู” ไปตามกัน แต่หากเป็นคนที่กำลังอกหัก สูญเสียคนรัก เลิกรา หรือหย่าร้าง อาจทำให้หลายคน “เจ็บปวดใจ” เชื่อหรือไม่ว่าความโศกเศร้า ตรอมใจ หรือเครียดหนัก สามารถทำให้ “หัวใจล้มเหลว” ได้จริง มาทำความรู้จักภาวะที่เรียกว่า “Broken heart syndrome” หรือ “ภาวะหัวใจสลาย” รวมถึงวิธี move on อย่างไรให้หัวใจแข็งแรงกันดีกว่า

ที่มา : romeo and juliet โดย 20th Century Fox / เครดิต: Getty Images

💔ภาวะหัวใจสลาย เกิดขึ้นได้จริงไม่อิงนิยาย

ใครจะคิดว่า “อกหัก” อาจส่งผลให้เกิดโรค “Broken Heart Syndrome” ได้ง่าย ๆ ภาวะนี้เป็นความผิดปกติของการทำงานของหัวใจที่ถูกกระตุ้นจาก “ความเครียดทางจิตใจ” (Emotion Stress) ในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น “กระทันหัน” ในชีวิตเช่น การสูญเสียคนในครอบครัว, สูญเสียคนรัก, การเลิกรา, ถูกเลิกจ้างงาน หรือในบางรายอาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย (Physical Stress) เช่น การเจ็บป่วย (COVID-19) และการผ่าตัดใหญ่จากอุบัติเหตุรุนแรง ในทางการแพทย์โรคนี้เรียกได้หลายชื่อ คือ Stress-induced Cardiomyopathy, Apical ballooning syndrome หรือ Takotsubo Cardiomyopathy 

 

โรคแปลกประหลาดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยคณะแพทย์ชาวญี่ปุ่นเมื่อปี 1990 คือการอ่อนแรงของ “หัวใจห้องล่างซ้าย” (left ventricle) ทำให้การสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผิดปกติ จึงเรียกว่า Takotsubo Cardiomyopathy เนื่องจากคำว่า “takotsubo” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “กับดักปลาหมึก” ซึ่งมีลักษณะกับ “หัวใจห้องล่างซ้าย” นี่เอง

ที่มา : herheart.org

 

เชื่อกันว่าสาเหตุเกิดจากฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อว่า “แคทีโคลามีน” (Catecholamine) ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการกระตุกของหลอดเลือดแดงในหัวใจ ร่างกายจะแสดงอาการคล้ายกับ “อาการหัวใจวาย” และเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง, ใจสั่น, หายใจถี่, หน้ามืด และภาวะน้ำท่วมปอด โชคดีที่อาการเหล่านี้เกิดขึ้นชั่วคราวและส่วนใหญ่ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เอง

 

💔โรคหัวใจสลายมักเกิดกับใครได้บ้าง ?

Broken Heart Syndrome พบได้บ่อยใน “ผู้หญิง” มากกว่าผู้ชาย จากงานวิจัยพบว่า 90% ของผู้ป่วยเป็นผู้หญิง และ 80% เป็นผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ที่มีความเครียดทั้งทางอารมณ์และทางร่างกายสูง อายุเฉลี่ย 58 - 77 ปี ส่วนคนที่อายุน้อยกว่า 50 ปีพบได้ไม่บ่อย

💔"ภาวะหัวใจสลาย" กับ "ภาวะตรอมใจ" เหมือนกันไหม?

จริงอยู่ที่ ภาวะหัวใจสลาย และ ภาวะตรอมใจ เป็นความเครียดทางอารมณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์เดียวกัน เช่น การสูญเสียคนรัก ได้รับข่าวร้าย อกหัก โศกเศร้า วิตกกังวล หลายคนจึงเข้าใจว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่หากพิจารณาตามหลักวิทยาศาสตร์ 2 โรคนี้ก็มีความต่างกันอยู่บ้าง

 

ภาวะหัวใจสลาย ในทางการแพทย์เชื่อว่าเป็นเป็นเพราะฮอร์โมนแห่งความเครียด “แคทีโคลามีน” (Catecholamine) ที่หลั่งออกมาสูงฉับพลันเมื่ออยู่ในภาวะเครียด เช่น ตื่นเต้น ตกใจ กลัว ทำให้หัวใจเต้นแรง ใจสั่น หายใจลำบาก อาจเป็นนานหลายนาทีหรือเป็นชั่วโมง แต่ร่างกายจะกลับมาสู่ภาวะปกติในที่สุด

 

ส่วน ภาวะตรอมใจ หรือบอบช้ำทางจิตใจ บางคนมักมีอาการ “กินไม่ได้ นอนไม่หลับ” เบื่อโลก จิตใจผูกติดอยู่กับเรื่องเศร้า มองโลกในแง่ร้าย รู้สึกไร้ค่า และตำหนิตัวเอง อาจเป็นส่วนหนึ่งของ ภาวะซึมเศร้า (Depression) ซึ่งเกิดจากปริมาณที่ลดลงของสารเคมีในสมอง 3 ชนิด ได้แก่ เซโรโทนิน (Serotonin), นอร์เอปิเนฟริน (Norepinephrine) และโดปามีน (Dopamine) ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่มีความสุข มีความวิตกกังวล ซึ่งต้องพบจิตแพทย์เพื่อรักษา หากปล่อยไว้นานอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต เช่น ไม่กินอาหารเลย อยู่นิ่ง ๆ ตลอดวันจนร่างกายทรุดโทรม เกิดโรคแทรกซ้อน บางครั้งคิดอยากตายหรือพยายามฆ่าตัวตายตาม อาการเหล่านี้คนโบราณมักเรียกว่า “อาการตรอมใจตาย” 

💔หัวใจสลาย รับมือได้อย่างไร?

อ้างอิงบทความของโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ระบุว่า โดยปกติอาการหัวใจวายจากภาวะ Broken Heart Syndrome จะเกิดขึ้นชั่วคราวแล้วค่อย ๆ หายไปเอง อาศัยการรักษาแบบประคับประคอง โดยให้ยารักษาภาวะหัวใจล้มเหลว ยาขับปัสสาวะ และยาควบคุมการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ ควบคู่กับการรักษาภาวะเครียดที่เป็นสาเหตุของภาวะ Broken Heart Syndrome นี้ด้วย

 

สำหรับกรณีที่อาการรุนแรงและมีภาวะหัวใจล้มเหลวร่วมด้วย อาจต้องมีการใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1 - 4 สัปดาห์หัวใจจะกลับมาปกติ จากรายงานวารสารต่างประเทศโรคนี้มีโอกาสเสียชีวิตน้อยเพียง 1% 

 

เหนือสิ่งอื่นใด การดูแลสุขภาพจิตใจเพื่อรับมือกับปัญหาและจัดการความเครียด สามารถร่วมกันหาทางออกได้กับครอบครัวและจิตแพทย์ และหากเกิดอาการขึ้นมากระทันหัน

💔6 เทคนิคดูแลหัวใจให้ Move on ได้เร็ว

เมื่อชีวิตต้องพบกับความผิดหวัง บางครั้งการรอให้ “เวลา” มาช่วยเยียวยา อาจยืดระยะความเศร้าใจนานออกไป และนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาสุขภาพร่างกาย ภาวะซึมเศร้า และการใช้ชีวิตในสังคม สิ่งสำคัญ คือ ต้องจัดการกับความเศร้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับอารมณ์เศร้าและทำใจได้เร็วขึ้นเพื่อก้าวต่อไปในชีวิต

 

ยอมรับความจริงมันเกิดขึ้นแล้ว การยอมรับความจริง คือ กุญแจสำคัญในการเดินหน้าต่อไป หากคุณพยายามยื้อความสัมพันธ์หรือความเศร้าให้ฉุดรั้งชีวิตกันไว้ การหลุดพ้นและเริ่มต้นใหม่อาจไม่เกิดขึ้น แน่นอนว่าในช่วงแรก “กลไกป้องกันตนเอง” (Defence mechanism) จะเริ่มทำงานโดยที่คุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จิตใจของคุณจะ “ปฏิเสธความจริง” ดังนั้น การตั้งสติ และหายใจเข้าลึก ๆ จะช่วยให้เกิดสมาธิและคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันได้ดี

 

คำสอนหนึ่งในทางพระพุทธศานา กล่าวถึง “อริยสัจ 4” คือ ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ซึ่ง “การยอมรับความจริงถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง” หลวงพ่อปราโมทย์ ณ สวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ท่านได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่าหากเรายอมรับความจริงได้ ชีวิตจะไม่ทุกข์

“...เราไม่ได้เห็นโลกในแง่น่าท้อแท้หดหู่ แต่เราเห็นโลกตามที่โลกมันเป็น

ในโลกนี้ หาสาระแก่นสารไม่ได้ นี่คือความจริง

ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้าย มองโลกอย่างหดหู่ เรามองโลกตามความเป็นจริง

โลกเป็นอย่างนี้ ไม่น่าชื่นใจ ใจมันจะหลุด ในที่สุดมันก็เข้าสู่โลกุตระ เหนือโลก”

  

ระบายออกให้เต็มที่ เมื่อไหร่ที่คุณเสียใจจงอนุญาตร่างกายได้ปลดปล่อยพลังงานนั้นออกมา แต่ละคนก็มีวิธีจัดการกับอารมณ์เศร้าแตกต่างกัน บางคนเล่าให้คนรอบข้างฟัง บางคนระบายกับไดอารี แต่ขอเตือนว่า การโพสกล่าวโทษผู้อื่นเพื่อระบายในโซเชียลมีเดีย อาจไม่ช่วยอย่างที่คิด เพราะยิ่งเป็นการสุมไฟในจิตใจ

วิธีง่าย ๆ เช่น การร้องไห้ ก็ช่วยปลดปล่อยอารมณ์เศร้าของคุณได้ ข้อดีของการร้องไห้ ช่วยจะขับสารพิษออกจากร่างกายและลดความตึงเครียด จากนั้นก็ปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นมาทำตัวเองให้มีความสุขได้แล้ว

 

ให้ธรรมชาติบำบัด บางครั้งบรรยากกาศเดิม ๆ อาจทำให้คุณคิดวนเวียนแต่เรื่องเก่า พาลให้เศร้าหนักกว่าเดิม ลองเปลี่ยนโฟกัสด้วยการ “ออกเดินไปนอกบ้าน” สูดอากาศที่สดชื่น เช่น การออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ หรือท่องเที่ยวป่าเขาให้ “ธรรมชาติบำบัด” ก็ถือเป็นการคลายความเศร้าที่ดีวิธีหนึ่ง เพราะบรรยากาศที่เงียบสงบ ทิวทัศน์ที่สวยงาม กลิ่นหอม และอากาศที่สะอาดสดชื่นในป่า ล้วนส่งผลต่อสุขภาพจิตเชิงบวก

มีงานวิจัยหลายชิ้นในประเทศญี่ปุ่นต่างค้นพบว่า ธรรมชาติสามารถช่วยบรรเทาอาการสำหรับปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคซึมเศร้า โรคมะเร็ง โรควิตกกังวล และโรคสมาธิสั้น

 

ในการศึกษาในช่วงแรก Yoshifumi Miyazaki ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดด้วยป่าและนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยชิบะในประเทศญี่ปุ่น พบว่าคนที่ใช้เวลา 40 นาทีในการเดินในป่าสนซีดาร์ มีระดับฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อว่า “คอร์ติซอล” (Cortisol) ลดลง เมื่อเทียบกับการเดิน 40 นาทีในห้องแล็บ ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีผลต่อระดับความดันโลหิตและภูมิคุ้มกัน

 

อีกทั้ง งานวิจัยของ Nippon Medical School ในโตเกียว ยังพบว่า น้ำมันหอมระเหยของต้นไม้และพืชต่าง ๆ ที่ปล่อยออกมาคล้ายกับการบำบัดด้วย “อโรมาเธอราพี” (Aromatherapy) เมื่อสูดดมเข้าไปสามารถกระตุ้นอารมณ์ผ่อนคลาย ซึ่งช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และลดความดันโลหิต สรุปได้ว่า การใช้เวลาในป่าทำให้เกิดสภาวะผ่อนคลายได้อย่างเหลือเชื่อ

 

ใส่ใจสุขภาพ ความห่อเหี่ยวหัวใจอาจทำให้คุณไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง รู้หรือไม่! แค่ออกกำลังกายเบา ๆ ก็ช่วยให้ร่างกายรับรู้ถึงความสุขได้แล้ว

 

การออกกำลังกายไม่ได้เพียงช่วยให้ทุกส่วนของร่างกายแข็งแกร่ง แต่ช่วยเพิ่มพลังให้สภาพจิตใจแข็งแรงขึ้นด้วย ทุกครั้งที่ร่างกายได้ออกแรง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือกระโดด ล้วนกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมา เช่น

 

  • โดพามีน (Dopamine) สารแห่งความรัก ฮอร์โมนทำให้รู้สึกดี โดยปกติจะหลั่งออกมาหลังรู้สึกพึงพอใจ
  • เซโรโทนิน (Serotonin) ฮอร์โมนที่ลดอาการซึมเศร้า เมื่อสารชนิดนี้หลั่งออกมามักส่งผลต่อการแสดงออก เช่น การเผลอยิ้ม เป็นต้น
  • เอนดอร์ฟิน (Endorphin) สารแห่งความสุข เปรียบเสมือนมอร์ฟีนธรรมชาติที่ร่างกายหลั่งออกมาก็ต่อเมื่อมนุษย์ผ่อนคลาย พึงพอใจ ช่วยกระตุ้นความรู้สึกดี

 

ขอคำแนะนำจากจิตแพทย์ หากคุณยังจมดิ่งอยู่กับความเศร้าและไม่สามารถหาทางหลุดพ้นได้ การเดินเข้าไปพบจิตแพทย์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คล้ายกับการไปหาหมอทั่วไปเมื่อเราเจ็บป่วย เพราะการปล่อยให้อาการเศร้า เสียใจ หดหู่ เรื้อรังเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล บางรายถึงขั้นต้องรับยาควบคู่ไปด้วย

 

ใครที่อกหักแล้วไปพบจิตแพยท์ไม่ใช่เรื่องแปลก นักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตย่อมสามารถให้คำแนะนำที่ดีและแก้ปมที่คุณกังวลใจทีละเรื่องได้ ซึ่งจะช่วย “ปลดล็อกความรู้สึก” เปลี่ยนทัศนคติให้คุณมองสถานการณ์ในอีกมุม

 

หัวเราะวันละนิด จิตแจ่มใส การหัวเราะ เป็นวิธีการเยียวยาจิตใจที่ง่ายกว่าการไปหาหมอ หรือได้ผลลัพธ์ดีกว่าทานยาเสียอีก เพราะ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ช่วยกระตุ้นให้คุณมีทัศนคติที่ดี จิตใจปลอดโปร่ง และส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีอีกหลายด้าน เช่น

  • ลดความตึงเครียดทางร่างกาย
  • การหัวเราะช่วยแบ่งเบาอารมณ์ที่หนักอึ้ง
  • เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
  • ลดภาวะซึมเศร้า
  • ปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้น
  • เพิ่มความสุขและความสนุกสนานให้กับชีวิต

 

นอกจากนี้ การหัวเราะ ยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ ดึงดูดผู้อื่นมาหาเรา คลี่คลายความขัดแย้ง ซึ่งอาจทำให้คุณได้พบเจอคนใหม่ ๆ ที่คุยกันถูกคอ

 

ความสุขและความทุกข์ไม่มีอะไรยั่งยืน สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากความเสียใจ คือ การคิดบวก ยิ่งคุณ move on ได้เร็วเท่าไหร่ อนาคตที่สดใสและความสุขก็ยิ่งเข้าใกล้คุณเท่านั้น “Happy Valentine's Day”

“คนเราร้องไห้ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ พวกเขาแข็งแกร่งมานานเกินไปต่างหากล่ะ” - Johnny Depp

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนอนน้อยอ่านเปเปอร์, วงการแพยท์, Alljit ที่ปรึกษาสุขภาพจิตใจ, Dhamma.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง
#วันวาเลนไทน์, 
#Brokenheartsyndrome, 
#ภาวะหัวใจสลาย, 
#อกหักวันวาเลนไทน์, 
#Moveonยังไงดี, 
#Stress-inducedCardiomyopathy, 
#Apicalballooningsyndrome, 
#TakotsuboCardiomyopathy, 
#หัวใจห้องล่างซ้าย, 
#แคทีโคลามีน, 
#สารแห่งความสุข, 
#ตรอมใจ, 
#โรคซึมเศร้า, 
#หัวใจวาย 
ผู้เขียนบทความ
avatar
H. ARIGATO
หงส์ฟ้า
ทาสแมวผู้ Enjoy กับชีวิตเรียบง่าย มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ
ALTV CI
Interest Thing
Interest Thing
ALTV All Around
ผู้เขียนบทความ
avatar
H. ARIGATO
หงส์ฟ้า
ทาสแมวผู้ Enjoy กับชีวิตเรียบง่าย มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#วันวาเลนไทน์, 
#Brokenheartsyndrome, 
#ภาวะหัวใจสลาย, 
#อกหักวันวาเลนไทน์, 
#Moveonยังไงดี, 
#Stress-inducedCardiomyopathy, 
#Apicalballooningsyndrome, 
#TakotsuboCardiomyopathy, 
#หัวใจห้องล่างซ้าย, 
#แคทีโคลามีน, 
#สารแห่งความสุข, 
#ตรอมใจ, 
#โรคซึมเศร้า, 
#หัวใจวาย 
แชร์
ชอบ
ติดตามเรา