“เสียงหัวเราะ” เป็น “ยาวิเศษ” ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงและบำบัดจิตใจให้ Happy อีกทั้งยังเป็น “ภาษาสากล” เชื่อมความสัมพันธ์อันดีในเวลาที่เราทำความรู้จักเพื่อนใหม่ นอกจากเสียงหัวเราะจะบ่งบอกถึงความสุขแล้ว มันยังบอกด้วยว่าคุณเป็นคนแบบไหน เนื่องในโอกาส 1 พฤษภาคม เป็นวันหัวเราะโลก (World Laughter Day) ALTV จึงขอชวนทุกคนมาโลดแล่นในโลกแห่งเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วย “อารมณ์ขัน”

เสียงหัวเราะในโลกออนไลน์นานาชาติ

เวลาที่เจอเรื่อง “ขำ” คนในโลกออนไลน์ก็มักจะพิมพ์ข้อความสั้น ๆ แทนการหัวเราะ ว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เดี๋ยวนี้คนทั่วโลกนิยมหันมาใช้ “คำเลียนแบบเสียงหัวเราะ” เช่น อักษรย่อ หรือสัญลักษณ์เพื่ออธิบายความรู้สึกและช่วยย่นเวลาในการพิมพ์ อย่างภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากล นอกจากจะพิมพ์ haha แล้วแบบอื่น ๆ อีก เช่น ahaha, hahah, hehehe, hohoho, buhahah, gahahah, heh, heehe บางครั้งพิมพ์คำแสลง (Internet Slang) เช่น 

• LOL = laughing out loud กำลังหัวเราะดัง ๆ
• LMAO = laughing my ass off ตลกสุด ๆ
• FOCL = fall of chair laughing หัวเราะจนตกเก้าอี้
• ROFL= roll on the floor laughing ขำกลิ้ง 
• การใช้สัญลักษณ์อิโมติคอน อย่าง :D, XD

มาดูกันว่าแต่ละชาติใช้ภาษาแชทแทนเสียงหัวเราะแบบไหนกันบ้าง

😄คนไทย พิมพ์ “555” 

เลขห้าในภาษาไทยพ้องเสียงกับคำว่า “ฮ่า” ที่เป็นเสียงหัวเราะ ดังนั้น 55 ก็หมายถึง ฮ่า ฮ่า นั่นเอง สำหรับเรื่องที่ตลกหรือขำมาก ๆ บางครั้งก็มีเครื่องหมายบวกเพิ่มมาด้วย เช่น 555 + หรือไม่ก็ 555555555 ยาวไปเลย คนไทยบางคนก็ยังชอบพิมพ์คำน่ารัก ๆ ในแบบที่แตกต่างกัน เช่น อิอิ, หุหุ, ฮิฮิ เป็นต้น

😄คนเกาหลี พิมพ์ "kkk" และ “kekeke” 

kkk เป็นรูปแบบเสียงหัวเราะที่คนเกาหลีใช้บ่อยที่สุด ซึ่ง k ใช้แทนตัวอักษร ㅋในภาษาเกาหลี อ่านว่า คี้อึก (kieuk) พ้องกับคำว่า คึคึคึ โดยย่อมาจากคำว่า “킥킥” อ่านว่า “คิกคิกคิก”

😄คนญี่ปุ่น พิมพ์ "www" 

สำหรับคนทั่วไปอาจเข้าใจว่า www หมายถึง เวิลด์ไวด์เว็บ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วอักษร W คือเสียงหัวเราะที่ย่อมาจากคำว่า warau หรือ wara “笑” มีความหมายเหมือนการใช้ lol ถ้าตลกมาก ๆ หรือขำสุด ๆ ก็สามารถพิมพ์ 'wwwwwwwww' ติดกันยาว ๆ ได้เหมือน 55555555 แบบคนไทย

😄คนจีน พิมพ์ "233"

ใครจะคิดว่าแค่พิมพ์ 233 ก็สามารถกลายเป็นเสียงหัวเราะลั่นได้ คนจีนนิยมใช้เลข '233' แทนการขำกลิ้งเหมือน lol โดยที่มาของเลข 233 (èr sān sān) เป็นลำดับของสัญลักษณ์อีโมชัน 😃 ที่เอาไว้แทนการขำดัง ๆ นอกจากนี้คนจีนยังนิยมพิมพ์เสียงหัวเราะอีก 2 แบบได้แก่ “哈哈哈” (Hā) ออกเสียงว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า หรือ 呵呵呵 (Hē) เหอะ เหอะ เหอะ ถ้าตลกมาก ๆ ก็พิมพ์เลข 233333333333 ติดกันยาวได้เลย

😄คนอินโดนีเซีย พิมพ์ "wkwkwkw"

คนหนุ่มสาวชาวอินโดนีเซียมักใช้ “Wkwkwk” ภาษาอินโดนีเซียอ่านว่า weka-weka แทนการหัวเราะในโลกออนไลน์ โดยทั่วไปมีความหมายเดียวกับ laugh of loud (lol) หรือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซึ่งมีที่มาจากสังคมเกมออนไลน์ มักพิมพ์คำสั้น ๆ โต้ตอบกันเพื่อความรวดเร็วและง่ายต่อการพิมพ์

😄คนตุรกี พิมพ์ kdkdkdkdkd, sjsjsjsjsjsh, asdfasdfadf

ถ้าเพื่อนชาวต่างชาติแชทมาหาเราแบบนี้ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าแป้นพิมพ์ค้าง เพราะมันคือการพิมพ์สุ่มบนแป้นพิมพ์ kdkdkdkdk, sjsjsjsh, asdfdasdfadsf มีความหมายว่า “โอ๊ย ขำหนักมาก” เดาว่าน่าจะขำหนักจนพิมพ์ไม่รู้เรื่อง ซึ่งทั้งสามรูปแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาของชาวตุรกี

😄คนสเปนพิมพ์ "jajaja"

แม้ว่า h และ j จะอยู่ใกล้กันบนแป้นพิมพ์ แต่ถ้าเพื่อนต่างชาติพิมพ์ว่า jajaja ไม่ได้แปลว่าเขาพิมพ์ผิดนะ ในภาษาสเปนและละตินอเมริกาจะออกเสียงตัว h เป็นตัว j ดังนั้นหัวเราะฮ่า ฮ่า ฮ่า จึงพิมพ์ว่า jajaja 

😄คนเช็กและสโลวาเกีย พิมพ์ "Cha cha cha"

“Cha cha cha” ไม่ใช่จังหวะแมมโบ้ ชะชะช่า ตามที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นภาษาแชทแทนเสียงหัวเราะของชาวเช็กและสโลวาเกียที่ออกเสียงว่า “คฮ่า คฮ่า คฮ่า" ฟังดูคล้ายกับเสียง ฮ่า ฮ่า ฮ่า หากคุณมีเพื่อนที่พูดภาษาใดภาษาหนึ่งข้างต้น สามารถพิมพ์เป็นเสียงหัวเราะดัง ๆ ติดกันได้ เช่น cha cha cha cha แต่ก็ใช้อย่างระวังด้วยเพราะมันเป็นการเยาะเย้ยได้เช่นกัน

“เสียงหัวเราะ” ของตัวละครดังที่ “ฝังในหัว”

ในโลกของภาพยนตร์มีเสียงหัวเราะของตัวละครดังที่ได้ยินเมื่อไหร่เราจะจดจำตัวละครนั้นได้ทันที

• โฮะ โฮะ โฮะ เมื่อพูดถึง “คุณลุงซานตา” เราจะนึกถึงชายชรารูปร่างท้วม หนวดสีขาว สวมชุดแดงสดใสออกมาแจกของขวัญพร้อมมอบรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ และยังมีสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของซานตาคลอส นั่นคือ เสียงหัวเราะ “โฮะ โฮะ โฮะ” เสียงหัวเราะทุ้ม ๆ นี้สะท้อนบุคลิกที่ใจดี ร่าเริงและน่านับถือ ซึ่งการเป็นแซนตาคลอสที่น่ารักของเด็ก ๆ ไม่ได้มีแค่เพียงโลกภาพยนตร์ ในโลกแห่งความจริงก็มีมหาวิทยาลัยสอน "วิชาซานตาคลอส" ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้เทคนิคสร้างเสียงหัวเราะอันแสนอบอุ่น รวมทั้งการแต่งกาย ท่าโพสตอนถ่ายรูป และการวางตัวที่เหมาะสมกับเด็ก ๆ หรือคนทั่วไป กว่าจะมาเป็นซานตาคลอสตัวจริงได้ ไม่ง่ายเลยนะ

• Evil laughter หัวเราะแบบ Joker, Chucky, แนนโน๊ะ เป็นการหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของวายร้าย เสียงที่แหลมบาดหูชวนหลอนนี้ทำให้เราจดจำตัวละครได้ชัดเจน แม้สามตัวละครนี้จะเป็นวายร้ายแต่เสียงหัวเราะที่สะท้อนความรู้สึกก็แตกต่างกันคนละบริบท เช่น โจเกอร์ (The Joker) หัวเราะเพื่อระบายความโศกเศร้า, ชักกี้ (Chucky) หัวเราะเพื่อความสะใจ และแนนโน๊ะหัวเราะเพราะตลกสุดขีด นอกจากนี้วายร้ายในหนังสือการ์ตูนยังใช้เสียงหัวเราะด้วยคำว่า mwahahaha (มุวะฮาฮาฮา)

ในประเทศไทยมี “สถาบันสร้างเสียงหัวเราะ” ด้วยนะ

ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาบันแห่งเสียงหัวเราะก็ต้องเป็นสถานที่สำหรับการหัวเราะ แต่จะเป็นการหัวเราะแบบโยคะที่เรียกว่า “ปราณยามะ” คือการหัวเราะอย่างไม่มีเงื่อนไขผสมผสานกับการหายใจแบบโยคะ เป็นการดึงออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สมองนำออกซิเจนไปใช้ได้เต็มที่ ด้วยหลักการง่ายๆ ได้แก่ การสูดลมหายใจลึก ๆ, การเปล่งเสียงหัวเราะ, การเคลื่อนไหวตามจังหวะ และการกดจุดที่ปลายนิ้วมือเพื่อกระตุ้นสื่อประสาท โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความสุขและเสียงหัวเราะ อาจาร์วินเนอร์ อรุต ธนาสุวรรณดิถี กล่าวว่าเป้าหมายของการโยคะหัวเราะก็เพื่อสุขภาพ ความสุข และสันติสุขโลก

หัวเราะแล้ว "ดี" กว่าที่คิด

“วาตานาเบะ จิเทตสึ” คุณทวดวัย 112 ปี ที่ได้รับการบันทึกลง กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ว่าเป็น “ชายที่อายุมากที่สุดในโลก” เผยเคล็ดลับการมีอายุยืนยาวคือ การมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

รวมถึงงานวิจัยในนอร์เวย์พบว่า คนที่มีอารมณ์ขันอายุยืนกว่าคนที่ไม่ค่อยหัวเราะ โดยเห็นผลชัดเจนในผู้ป่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง บางงานวิจัยยังตีความได้ว่า “การหัวเราะง่าย” เป็นคุณสมบัติที่สะท้อนว่าคุณเป็นคนมี “ทัศนคติที่ดี” จิตใจปลอดโปร่ง สัมพันธ์กับสุขภาพที่ดีอีกหลายด้าน และส่งผลไปถึงการมีอายุที่ยืนยาวขึ้นเสียงหัวเราะทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงได้อย่างไร มาดูกัน

• เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) และเพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันและแอนติบอดีที่ต่อสู้กับการติดเชื้อ ทำให้ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น
• กระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุข เมื่อเราหัวเราะสารเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ที่หลั่งออกมาจะทำให้ความรู้สึกดี สามารถบรรเทาอาการปวดได้
• ปกป้องหัวใจ ทุกครั้งที่หัวเราะเลือดของเราจะสูบฉีดและไหลเวียนในร่างกายได้ดี ช่วยป้องกันอาการเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
• คลายความโกรธ ไม่มีอะไรจะระบายความโกรธและความขัดแย้งได้เร็วไปกว่าการหัวเราะร่วมกัน การมองทุกด้านใน “มุมตลก” ช่วยให้เราข้ามผ่านปัญหาไปได้และเกิดการปล่อยวาง
• เผาผลาญแคลอรี มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการหัวเราะ 10 ถึง 15 นาทีต่อวันสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ประมาณ 40 แคลอรี ซึ่งอาจเพียงพอต่อการเผาผลาญขนมหวานหนึ่งชิ้นได้เลย

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วจงหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ออกมาดัง ๆ เพราะนอกจากจะดีต่อร่างกายและหัวใจของเราแล้ว ยังส่งต่อพลังงานบวกให้กับคนที่ได้ยินด้วยนะ!!!

ที่มา : bbc.com, brandthink.me, thaihealth.or.th