“มะเร็ง” ถือเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วถึงปีละ 7,600,000 แสนคน สำหรับประเทศไทยมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ติดต่อกันหลายสิบปี ปัจจุบันผู้ป่วยมะเร็งมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากข้อมูลล่าสุด “ทะเบียนมะเร็งประเทศไทย” โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ รายงานว่า แต่ละวันจะมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 400 คน หรือประมาณ 140,000 คนต่อปี

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในระยะแรกมักมีโอกาสหายขาดมากกว่ามะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งวิธีรักษาที่พบบ่อย ๆ เช่น การผ่าตัด (Surgery) และเคมีบำบัด (Chemotherapy) หรือที่เรียกว่า "คีโม" วิธีนี้มักมีผลข้างเคียง คือ “ผมร่วง” ซึ่งมีผลต่อจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย

เนื่องใน “วันมะเร็งโลก” (World Cancer Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี ALTV จึงขอชวนทุกคนตระหนักถึงภัยร้ายจากโรคมะเร็ง ทำความเข้าใจผู้ป่วยมะเร็ง รวมถึง “การบริจาคเส้นผม” เพื่อส่งต่อความมั่นใจให้ผู้ป่วย

วันมะเร็งโลก (World Cancer Day) สำคัญอย่างไร

โรคมะเร็งนั้นครองแชมป์การตายอันดับ 1 ของโลก ด้วยเหตุผลนี้เอง “องค์การอนามัยโลก” (WHO) และ “องค์การสหภาพต่อต้านมะเร็งระหว่างประเทศ” (UICC) จึงกำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็น “วันมะเร็งโลก” เป้าหมายหลักเพื่อป้องกัน ลดการเจ็บป่วย และการเสียชีวิตอันเกิดจากโรคมะเร็ง มุ่งหวังให้ประชาชนทั่วโลก มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็ง เพื่อสร้างความตระหนักรู้และลดการตีตรา สนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็ง

สำหรับวันมะเร็งโลกในปี 2566 นี้มีธีมว่า “Close the care gap” ขจัดช่องว่าง สร้างโอกาส เข้าถึงการรักษามะเร็ง เช่น รายได้ของประเทศ อายุ เพศ เชื้อชาติ และอื่น ๆ

จริงไหม! เป็นมะเร็งแล้วต้อง “ผมร่วง”

ในละครหรือภาพยนตร์อาจทำให้หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่า “ผมร่วง” เป็นอาการหนึ่งของโรคมะเร็ง ความจริงแล้วเป็น “ผลข้างเคียง” มาจากการทำ “เคมีบำบัด” (Chemotherapy) หรือ “คีโม” ในผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 4 หรือระยะที่ 1 - 3 ที่มีการกลับมาของโรค

“การทำคีโม” เป็นการใช้ตัวยาเคมีบำบัดเพื่อหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยสารเคมีจะเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งผ่านทางกระแสเลือด ทำให้ “เซลล์ปกติ” มีการแบ่งตัวต่อเนื่อง เช่น เซลล์เส้นผม เยื่อบุในช่องปาก เซลล์ผิวหนัง และเยื่อบุทางเดินอาหาร ได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งคนไข้แต่ละรายจะได้รับผลข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป เช่น

อาการอ่อนเพลีย
คลื่นไส้
อาเจียน
ภาวะตัวซีด
แผลที่เยื่อบุภายในช่องปาก
ท้องผูก

รวมถึง “ภาวะผมร่วง ผมบาง” แต่หลังหยุดพักยาเคมีบำบัดชั่วคราว เซลล์ปกติในร่างกายของคนเราจะฟื้นตัวได้เองอย่างรวดเร็ว

รู้หรือไม่? คนที่ทำคีโม ไม่จำเป็นต้อง “ผมร่วง” ทุกคน

ผู้ป่วยมะเร็งเมื่อรู้ว่าต้องเข้ารับยาเคมีบำบัดมักเกิดความกังวลเรื่องผมร่วง เช่นเดียวกับผู้ป่วยรายอื่น แต่ปัจจุบันยาเคมีบำบัดยุคใหม่มักผลิตขึ้นมาให้มีผลข้างเคียงน้อยลง ควบคู่กับวิธีการป้องกันผลข้างเคียง ยาเคมีบำบัดบางชนิดก็สามารถพุ่งเป้าเจาะจงไปยังเซลล์มะเร็ง ทำให้ผู้ป่วยบางรายผมร่วงเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีภาวะผมร่วงเลย

การรักษาแบบใด เสี่ยงผมร่วงน้อยกว่า?

มะเร็งบางชนิดอาจต้องใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกันมากกว่า 2 ชนิดเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษา ในขณะเดียวกันก็มีการรักษาด้วยวิธีอื่นที่สามารถช่วยยับยั้งและลดจำนวนมะเร็งลงได้ นอกเหนือจากการทำคีโม ทั้งนี้ การรักษาขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ เช่น

การผ่าตัด (Surgery) สำหรับมะเร็งเฉพาะจุด หรือมะเร็งที่มีลักษณะเป็นก้อน (solid tumor) ส่วนใหญ่รักษาผู้ป่วยในระยะแรก เช่น มะเร็งเต้านม ปอด มะเร็งศีรษะและลำคอ มะเร็งในช่องท้อง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

ผลข้างเคียง : ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก หลังจากการผ่าตัดอวัยวะต่าง ๆ จึงไม่เสียรูปทรงหรือไร้การสูญเสีย เช่น การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Surgery) ในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่, การผ่าตัดผ่านกล้องโดยใช้หุ่นยนต์ช่วย (Robotic Assisted Laparoscopic Surgery) เพื่อรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

ยาฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy) เป็นการให้ฮอร์โมนทดแทน มักใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งในวัยหมดประจำเดือน ตัวยาจะช่วยยับยั้งฮอร์โมนบางชนิดที่เข้าไปกระตุ้นเซลล์มะเร็ง

ผลข้างเคียง : การรักษาด้วยวิธีนี้ค่อนข้างปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับการใช้ยาเคมีบำบัด ส่วนมากใช้รักษามะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก

ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Cell Therapy) วิธีนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง เป็นการใช้ยารักษาเฉพาะเซลล์ที่เป็นมะเร็งนั้นโดยตรง เพื่อยับยั้งการส่งสัญญาณที่เกี่ยวข้องต่อการเจริญเติบโต และการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ผู้เข้ารับการรักษาจำเป็นต้องตรวจหา “มะเร็งเป้าหมาย” จากก้อนเนื้อหรือเลือดของผู้ป่วยก่อน เพื่อเลือกใช้ยาต้านมะเร็ง โดยมุ่งเป้าที่เหมาะสมกับชนิดของมะเร็งในผู้ป่วยแต่ละราย

ผลข้างเคียง : โดยทั่วไปมีน้อยกว่ายาเคมีบำบัดมาก มีอาการไม่รุนแรงและแก้ไขได้ เช่น ลมพิษ อาการคันผิวหนัง, ปฏิกิริยาภูมิแพ้, ท้องเสีย, อาการอ่อนเพลีย เป็นต้น

“ตัดเพื่อต่อความสุข” การบริจาคเส้นผมทำวิกให้ผู้ป่วยมะเร็ง

“วิกผม” เป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเติมเต็มความมั่นใจสำหรับ “ผู้ป่วยมะเร็ง” ที่ “ผมร่วง ผมบาง” จากการรักษาด้วย “คีโม” (Chemotherapy) ทำให้ผู้ป่วยหลายคนหดหู่ต่อภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อจิตใจในใช้ชีวิตประจำวัน

สำหรับการหา “วิกผมคุณภาพดี” เพื่อเสริมความมั่นใจสักชิ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะราคาค่อนข้างสูงมาก เฉลี่ยประมาณ 3,000 - 13,500 บาท ซึ่งผู้ป่วยบางรายไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะซื้อมาใช้งานได้ ดังนั้น “การบริจาคเส้นผม” เพื่อทำวิก จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยผู้ป่วยมะเร็งเข้าถึงวิกผมได้ฟรี ๆ

ข้อควรรู้ก่อนบริจาคเส้นผม

เส้นผมแบบไหน สามารถบริจาคได้?

หากคุณมีแพลนจะบริจาคเส้นผม ควรศึกษา “คุณสมบัติของเส้นผม” ที่เหมาะกับความต้องการของศูนย์รับบริจาคเสียก่อน ซึ่งมีเงื่อนไขเรื่องความยาว การดูแลรักษา ไปจนถึงลักษณะทรงผม ดังนี้

✅เส้นผมที่ใช้ได้

เส้นผมสุขภาพดี เงางาม สีธรรมชาติ
สำหรับผมตรง รับความยาวตั้งแต่ 6 นิ้วขึ้นไป หรือตามที่ศูนย์กำหนด
สำหรับผมหยักศก ผมลอน รับความยาว 10 - 12 นิ้วขึ้นไป
งดการย้อม ดัด กัด ด้วยเคมีบนเส้นผมก่อนบริจาค 3 เดือนขึ้นไป

❌เส้นผมที่งดรับบริจาค

ผมแห้งเสียแตกปลายมาก ๆ
ผมที่สั้นกว่าความต้องการ (ส่วนมากรับตั้งแต่ 6 - 10 นิ้ว)
ผมที่ทำสีผิดธรรมชาติ เช่น สีส้ม สีฟ้า สีม่วง
ผมมีเหา
ผมเดรดล็อก (Dreadlocks) ผมที่มีถัดพันกันเป็นหลอด ๆ
ผมต่อ
เศษผมที่ร่วงลงพื้น
ผมที่เปียกชื้น

แนะนำโครงการวิกผมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง

ปัจจุบันหลายหน่วยงานผุดโครงการดี ๆ เปิดรับบริจาคเส้นผมและเงินสมทบ เพื่อนำทำวิกมอบให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งที่ขาดกำลังทรัพย์ สำหรับใครที่สนใจบริจาคเส้นผมสามารถนำส่งได้ด้วยตัวเองและทางไปรษณีย์ หรือหากต้องการบริจาคเป็นเงินก็สามารถทำได้ ตามเงื่อนไขของแต่ละสถานที่

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ *เปิดรับบริจาคเงินสมทบ*

เนื่องจากมีผู้บริจาคเส้นผมจำนวนมาก บวกกับการทำวิกมีต้นทุนสูง ทางสถานบันจึงเปิดรับบริจาคเป็นเงินสมทบเพื่อทำวิกให้ผู้ป่วยมะเร็งผู้ยากไร้

รายละเอียดเพิ่มเติม

มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ

📞โทร. 02 202 6800 ต่อ 1509

🌐เว็บไซต์ >คลิก<

มูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่

เปิดรับบริจาคเส้นผมรอบ 1/2566 ลงทะเบียนบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้ - 25 มีนาคม 2566

โดยระบบลงทะเบียนมี 2 ประเภท

1.ลงทะเบียนในระบบ + สมทบค่าทอวิก 350 บาทขึ้นไป

สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ >คลิก<

2.ลงทะเบียนในระบบ + สมทบค่าทอวิก ด้วยการ Pre-order สินค้าที่ระลึกเริ่มต้นเพียง 359.- บาท

สามารถลงทะเบียนและสั่งสินค้าได้ที่นี่ >คลิก<

รายละเอียดเพิ่มเติม

📍มูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่

📞066 085 6712 ถึง 6

จันทร์-ศุกร์ 09.00-17.00

🌐facebook : FromAngelFoundation >คลิก<

โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ *เปิดรับเป็นช่วง*

โรงพยาบาลจุฬาภรณ์มักมีโครงการรับบริจาคเส้นผมช่วง ๆ โดยเป็นความร่วมมือกับหน่วยงานภายใน เช่น คลินิกการแพทย์ผสมผสานผู้ป่วยมะเร็งและญาติ เพื่อนำไปทำวิกผมให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ผมร่วงจากการใช้เคมีบำบัด ผู้ที่สนใจสามารถติดตามการเปิดรับบริจาคได้ที่นี่ >คลิก<

รายละเอียดเพิ่มเติม

📍ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิต โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

ที่อยู่ : 54 หมู่ 4 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.10210

📞โทร.02 576 6074-6 Call Center 1141 กด 4949

โครงการจัดหาวิกผมเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง *จัดหาเฉพาะวิกผมปลอม*

โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคม โดยสถาบันเตรียมความพร้อมสู่อาชีพแอร์โฮสเตส-สจ๊วต Cabin Crew Maker ปัจจุบันโครงการได้ “ปิดรับบริจาคผมจริง” เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากการทำวิกมีต้นทุนสูง จึงหันมาจัดหาวิกผมที่ทำจากใยสังเคราะห์เท่านั้น เพื่อผู้ที่กำลังรับคีโมเทอร์ราพีเป็นเวลา 3 เดือน โดยส่งมอบวิกผมไปแล้วในโครงการของหน่วยงานที่ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง เช่น ศูนย์มหาวชิราลงกรณ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ คลอง10, ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิต โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, โรงพยาบาลสกลนคร เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม >คลิก<

ร้านแฮร์อินเทรนต์.คอม โฮมซาลอน *ไม่รับบริจาคเส้นผมทางไปรษณีย์*

ร้านตัดผมที่ทำการกุศลต่อเนื่องมานานหลายปี โดย คุณเต้ คงยศ มะโนน้อม ช่างผมและเจ้าของร้านแฮร์อินเทรนด์ดอทคอม เปิดรับบริจาคเส้นผมทำวิกเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง พร้อมรับออกแบบสั่งทำวิกผมโดยตรงให้เหมาะกับใบหน้าของผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย ใช้ผมธรรมชาติแท้ 100% ทุกเส้น โดยทางร้านให้บริการตามคิวนัดเท่านั้น📞โทรนัดเวลาล่วงหน้าที่เบอร์ 02 320 2020, 083 720 3232

เงื่อนไข : เส้นผมที่จะตัดบริจาคต้องมีความยาวตั้งแต่ 10 นิ้วขึ้นไป และมีค่าบริการตัดแต่งทรงผมใหม่ 850บาท

หรือร่วมบริจาคสมทบทุนผ่านบัญชีธนาคารของทางร้าน โดยจะรวบรวมนำไปทำวิกเพื่อบริจาคให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ยากไร้ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไป

รายละเอียดเพิ่มเติม

facebook : hairintrend >คลิก<

ขั้นตอนการตัดผมเพื่อบริจาค

1.ล้างผมให้สะอาด งดใช้ครีมนวดผมหรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม จากนั้นเป่าให้แห้งสนิท

2. มัดผมเป็นห้างม้าแล้วตัดออก ถ้าผมหนามาก สามารถมัดผมออกเป็นช่อ ๆ ก่อนตัดได้

3. ผึ่งแดดให้แห้งสนิท ก่อนบริจาคประมาณ 1 - 3 วัน เพื่อป้องกันเชื้อรา

4. เมื่อผึ่งเส้นผมแห้งแล้ว ให้เปลี่ยนหนังยาง เพื่อลดความชื้นที่อยู่ใต้หนังยางเก่า

5. ติดต่อศูนย์รับบริจาค หากส่งทางไปรษณีย์ควรบรรจุเส้นผมในถุงพลาสติกที่สะอาดและปิดถุงให้สนิท บรรจุใส่ซองหรือกล่อง เพื่อป้องกันเส้นผมจากสิ่งสกปรก

วิธีเลือกวิกผมที่ “ใช่” ให้ผู้ป่วยมะเร็ง

ปัจจุบันมีวิกผมให้เลือกมากมาย ทั้งวิกผมแท้ ผมเทียม ต่างรูปทรง สีสัน และคุณภาพของเส้นผม ขึ้นอยู่กับรสนิยมและกำลังทรัพย์ของแต่ละคน สำหรับชนิดของเส้นผมที่ใช้ทำวิก เป็นสิ่งสำคัญที่ควรเลือกให้เหมาะแก่การใช้งาน ซึ่งมีทั้งข้อดี - ข้อจำกัด ดังนี้

วิกผมแท้ ทำจากเส้นผมจริงของมนุษย์ มีความเป็นธรรมชาติ 100%

ข้อดี

วิกผมไม่เงาจนเกินไป ดูสุขภาพดี เนียนเป็นธรรมชาติ ดูไม่หลอกตา
ผิวสัมผัสเป็นธรรมชาติ เบาสบาย ระบายความร้อนได้ดี
สามารถทำสี ดัด หรือจัดแต่งทรง ให้เข้ากับใบหน้าในแบบที่ผมธรรมชาติทำได้
มีอายุการใช้งานยาวนาน หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีสามารถใช้งานได้เป็นปี

ข้อจำกัด

ค่อนข้างมีน้ำหนักเมื่อเทียบกับเส้นผมแบบใยสังเคราะห์
ต้องใช้ความพิถีพิถันในการบำรุงรักษาและจัดแต่งทรงไม่ต่างจากผมจริง ๆ บนหนังศีรษะ ตั้งแต่การสระผม ลงครีมนวด และการหวีในทุกวันที่มีการใช้งาน
การจัดแต่งทรงต้องใช้ “ผู้เชี่ยวชาญด้านวิกผมโดยเฉพาะ” เพราะการเสริมสวยเส้นผมจริง ๆ กับการจัดแต่งวิกผมก็มีขั้นตอนต่างกัน
ราคาสูง เพราะกว่าจะได้วิกผมแท้คุณภาพดีต้องผ่านขั้นตอนมากมาย โดยวิกผม 1 หัวใช้เส้นผมจริงจาก 4 - 5 คน ต้องคัดสรรเส้นผมที่มีลักษณะใกล้้เคียงกันมากที่สุด อีกทั้งขั้นตอนการทำวิกยังผ่านการ “ทอด้วยมือ” เพื่อให้เส้นผมเรียงเส้นสวย เงางาม ใช้แล้วดูเป็นธรรมชาติ
อ่อนไหวในทุกสภาพอากาศ เมื่อเจออากาศร้อน ฝุ่น ควัน อาจทำให้เส้นผมอ่อนลง เปราะ แตกปลาย และขาดหลุดร่วงได้

วิกผมเทียม เส้นผมทำจากใยสังเคราะห์ (Polymers) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “วิกผมไหม” (silk) บางครั้งอาจใช้ขนสัตว์ เช่น ขนม้า ขนจามรี หรือวัสดุสังเคราะห์ที่ใช้เทคโนโลยีพิเศษ ซึ่งมีความคล้ายเส้นผมจริงของมนุษย์

ข้อดี

เส้นผมเรียงตัวสวย นุ่ม เงา มีประกาย
จัดแต่งได้ตามต้องการ
วัสดุบางชนิดสามารถทนความร้อนได้ดี เช่น Kanekalon Fiber
น้ำหนักเบา ไม่ใส่แล้วหนักศีรษะ
ราคาถูกกว่า
มีแบบสีและทรงผมให้เลือกมากมายตามแฟชัน

ข้อจำกัด

อายุการใช้งานสั้น เหมาะกับการใช้งานเป็นครั้งคราว
เส้นผมพันกันง่าย สางยาก จัดทรงยาก บางครั้งหากเก็บรักษาไม่ดีอาจเป็นรอยพับหรือชี้ฟู
ไม่สามารถย้อมสีได้
การดูแลรักษาค่อนข้างยาก

ผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รับผลกระทบทั้งกายและใจ สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดมิใช่สิ่งของหรือเงินทอง แต่เป็น “กำลังใจ” จากคนรอบข้างที่ปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ผู้ป่วยจึงมีความหวังในการดำเนินชีวิตต่อไป

เรียนรู้เส้นทางของการบริจาคเส้นผมไปกับหนุ่มน้อยผู้ไว้ผมยาวเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ในรายการ “เรียนสนุก” >คลิก< รายการที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้นอกห้องเรียน เน้นปฏิบัติจริง ลงลึกทุกขั้นตอน

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : hualandaiwee.com, สถาบันมะเร็งแห่งชาติ National Cancer Institute, bangkokbiznews.com

, phyathai.com