นิโคลา เทสลา (Nicola Tesla) เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 1856 เขาเป็นที่รู้จักในฐานะอัจฉริยะด้านฟิสิกส์และวิศวกรรมไฟฟ้า และขึ้นชื่อว่าเป็นนักประดิษฐ์ที่คิดค้นนวัตกรรมล้ำสมัยมากที่สุดคนหนึ่ง จนใคร ๆ ต่างขนานนามเขาว่า 'Mad scientist'
เทสลาคิดค้นสิ่งประดิษฐ์มากมายและเป็นเจ้าของสิทธิบัตรกว่า 300 รายการ แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้เขา คือ ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1880 -1890 นับว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ ทอมัส เอดิสัน (Thomas Edison) ผู้ที่พยายามผลักดัน ทฤษฎีไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ในขณะนั้น โดยทั่วโลกนิยามเหตุการณ์นั้นไว้ว่า “สงครามกระแสไฟฟ้า” หรือ The Current War
หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับเทสลามากที่สุดคือการคิดค้นและพัฒนา 'ไฟฟ้ากระแสสลับ' (Alternating current) ระบบไฟฟ้าที่เราใช้กันตามบ้านเรือนในทุกวันนี้นี่เอง
กระแสไฟฟ้าบนโลกเรามีอยู่ 2 แบบ คือ กระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) ที่พัฒนาโดย ทอมัส เอดิสัน และ กระแสไฟฟ้าแบบสลับ (AC) ของ เทสลา โดยกระแสไฟฟ้าแบบสลับของเทสลานั้นมีความพิเศษตรงที่สามารถส่งออกไฟฟ้าในระดับแรงดันสูง ๆ ได้โดยที่แรงดันไฟฟ้าไม่ตก เพราะไฟฟ้ามีการการเคลื่อนที่กลับกันไปมาตลอดเวลา และยังสามารถส่งออกกระแสไฟฟ้าได้ในระยะไกลกว่าในราคาที่ถูก อีกทั้งยังสามารถปรับลด-เพิ่มแรงดันไฟฟ้าได้ตามต้องการผ่านหม้อแปลงไฟฟ้า ในแบบที่ไฟฟ้ากระแสตรงทำไม่ได้
ระบบไฟฟ้าของเทสลาได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและราคาถูก จนในท้ายที่สุดก็เอาชนะระบบไฟฟ้าของเอดิสันไปได้ นอกจากนี้เทสลายังเป็นคนแรกที่ริเริ่มประดิษฐ์มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ และระบบมอเตอร์เหนี่ยวนำที่นำมาใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็กต่าง ๆ เช่น พัดลม เครื่องซักผ้า ฯลฯ อีกด้วย
ในช่วงชีวิตของเทสลาเขามีความใฝ่ฝันถึงโลกที่กระแสไฟฟ้าสามารถเดินทางไปในที่ห่างไกลได้ โดยใช้เพียง 'อากาศ' เป็นที่มาของสิ่งประดิษฐ์ในตำนานอย่าง 'เทสลา คอยล์' (The Tesla coil) หรือ 'ขดลวดเทสลา' ขดลวดชนิดพิเศษที่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงได้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นระบบวิทยุ โทรทัศน์ และการส่งสัญญาณแบบไร้สายอย่างบลูทูธ (ฺBluetooth) ที่เราใช้กันอยู่ปัจจุบัน
ตลอดช่วงชีวิตของเทสลาเขาได้ทุ่มเทให้กับพลังงานไร้สายอย่างมาก ในปี ค.ศ. 1901 เทสลาเริ่มโครงการก่อสร้างสถานีถ่ายโอนพลังงานแบบไร้สายที่แรกของโลก มีชื่อเรียกว่า 'Wardenclyffe Tower ' ลักษณะเป็นหอคอยความสูงกว่า 57 เมตร ตั้งอยู่ที่ลองไอแลนด์ (Long Island) รัฐนิวยอร์ก
เป้าหมายของเทสลาคือการส่งกระแสไฟฟ้าข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ที่มีระยะทางหลายหมื่นไมล์ โดยใช้เพียงอากาศเป็นตัวกลางแทนที่การใช้สายไฟ แต่ก่อนที่เขาจะพิสูจน์ให้ทั้งโลกประจักษ์ โครงการก็ต้องถูกพับเก็บลงไปในปี ค.ศ. 1906 เพราะนักลงทุนปฏิเสธที่จะให้เงินทุนเพิ่มสำหรับโครงการนี้
แต่ความพยายามของเทสลาก็ใช่ว่าสูญเปล่าทีเดียว เพราะสิ่งที่ค้นพบจากโครงการนี้คือการค้นพบวิธีการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ ซึ่งภายหลังถูกพัฒนามาเป็นระบบคลื่นวิทยุโทรทัศน์ และสัญญาณบลูทูธในโลกปัจจุบันนั่นเอง
เชื่อว่าหลายคนอาจคุ้นเคยกันอยู่บ้างกับ น้ำตกไนแองการา (Niagara Falls) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งสถานที่นี้เองที่เทสลาได้ก่อตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขึ้นเป็นแห่งแรกของโลก รู้จักกันในชื่อโครงการ 'Tesla-Westinghouse Niagara Falls Power Plant'
ปี ค.ศ. 1895 คือช่วงเวลาที่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกก่อตั้งขึ้น โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท เวสติงเฮ้าส์ อิเล็กทริก ที่ว่าจ้างให้เทสลาเป็นผู้ออกแบบและที่ปรึกษาในโครงการนี้ ซึ่งการเกิดขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่น้ำตกไนแองการา นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ระบบไฟฟ้ากระแสสลับกลายมาเป็นระบบไฟฟ้าที่ทั่วโลกนำมาใช้ โดยเริ่มจ่ายไฟฟ้าครั้งแรกใน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1896
เราเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักกับ 'รีโมตคอนโทรล' อุปกรณ์ไว้สั่งการเปิด-ปิดโทรทัศน์หรือเครื่องปรับอากาศภายในบ้านคุณ ซึ่งต้นแบบของมันก็ไม่ได้มาจากไหนแต่เป็น 'รีโมตสัญญาณวิทยุ' (Radio Remote Control) หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นโดยเทสลานั่นเอง
เทสลาได้ประดิษฐ์รีโมตคอนโทรลสัญญาณวิทยุสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ในช่วงปี ค.ศ. 1898 ก่อนหน้าที่โลกเราจะได้รู้จักกบรีโมตโทรทัศน์ถึง 60 ปี โดยเป็นการนำมาใช้สำหรับโมเดลเรือบังคับวิทยุ ขนาดราว 3 ฟุต ที่เทสลาเรียกว่า 'Teleautomaton' หรือที่แปลได้ว่า 'เครื่องยนตร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยการควบคุมระยะไกล'
Teleautomaton สาธิตครั้งแรกที่เมดิสันสแควร์การ์เดน (Madison Square Garden) ในรัฐนิวยอกร์ก และได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้พบเห็น จนหลายคนเชื่อว่าเทสลาสามารถใช้เวทมนตร์ได้ ความโด่งดังของมันทำให้ในภายหลัง Teleautomaton ได้กลายมาเป็นต้นแบบของรีโมตคอนโทรลในยุคต่อมาด้วย
หลังจากใช้เวลาทั้งชีวิตอุทิศให้กับการคิดค้นและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์มากมาย ในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1943 เขาได้ถูกพบว่าเสียชีวิตอย่างสงบ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก และหลังจากนั้น 10 ปี ได้มีการก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์นิโคลา เทสลา ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย เพื่ออุทิศแด่ชีวิตและผลงานของเขาในฐานะนักประดิษฐ์คนสำคัญของโลก