ALTV All Around
ALTV News
บทความอื่นจาก Thai PBS
ALTV All Around
ALTV News
บทความ Thai PBS
เรื่องรอบรู้เกี่ยวกับ “พายุลูกเห็บ”
แชร์
ฟัง
ชอบ
เรื่องรอบรู้เกี่ยวกับ “พายุลูกเห็บ”
01 พ.ค. 66 • 05.11 น. | 1,082 Views
ขนาดอักษร : กลาง
ALTV CI

         สภาพอากาศที่แปรปรวนมักเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านของฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน และในบางครั้งหลายพื้นที่คงได้พบเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวนสุดแปลกที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน ทั้งอากาศเย็นในช่วงเช้า อากาศร้อนช่วงกลางวัน และบางครั้งอาจจะเกิดฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ทำให้เกิดลูกเห็บจำนวนมากตกลงมา และสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ วันนี้ ALTV ขอเสิร์ฟเรื่องรอบรู้เกี่ยวกับ “พายุลูกเห็บ” กับวิธีรับมือเมื่อเกิดขึ้นในบ้านเรา

🔹ทำความรู้จักกับพายุลูกเห็บ

         ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า “ลูกเห็บ” หรือ Hail มันคือ เม็ดฝนที่ตกลงมาในลักษณะที่เป็นก้อนน้ำแข็ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-50 มิลลิเมตร ขนาด 0.2 – 2 นิ้ว โดยการน้ำกลายเป็นน้ำแข็งนั้นเกิดจากมวลอากาศร้อนที่ลอยตัวสูงขึ้น และพัดพาเม็ดฝนลอยขึ้นไปปะทะกับมวลอากาศเย็นด้านบนที่สูงจากชั้นบรรยากาศขึ้นไปอีก มักเกิดขึ้นในเมฆที่ชื่อว่า “คิวมูโลนิมบัส” หรือ cumulonimbus clouds จากนั้นเมื่อเกิดการควบแน่นเม็ดฝนจะจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง และตกลงมาปะทะกับมวลอากาศร้อน ทำให้ความชื้นจะเข้าไปห่อหุ้มเม็ดน้ำแข็งให้มีขนาดที่เพิ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนเกินกว่าที่กระแสลมพายุจะพยุงเอาไว้ได้ มันจะตกลงมาจากอากาศลงสู่พื้นดินนั่นเอง และเมื่อเราหยิบก้อนน้ำแข็งที่พึ่งตกพื้นมาผ่าครึ่ง จะเห็นว่าภายในน้ำแข็งจะเป็นวงแต่ละชั้นจนก่อตัวมาเป็นลูกเห็บ

         โดยส่วนใหญ่แล้วพายุลูกเห็บมักจะเกิดในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงฤดูร้อน หรือ พายุฤดูร้อน ประมาณช่วงเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นยาวนานไปจนถึงช่วงก่อนเข้าฤดูฝนเลยก็ว่าได้ ซึ่งทุกคนสามารถติดตามข่าวสาร และเฝ้าระวังความเสี่ยงจากการเกิดพายุได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา โดยขึ้นอยู่กลับสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงเวลานั้น ๆ และสาเหตุการเกิดพายุอาจเกิดขึ้นมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การทรงตัวของอากาศต้องเป็นแบบไม่เสถียรภาพ อากาศยกตัวขึ้นในแนวดิ่ง และอากาศมีความชื้นค่อนข้างสูง ซึ่งในประเทศไทยของเรานั้น มักจะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดใน ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2551 สาเหตุที่เกิดพายุลูกเห็บที่รุนแรงนี้ขึ้น เพราะว่าเกิดจากความกดอากาศสูงที่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยปะทะกับมวลอากาศร้อนชื้นที่บริเวณภาคเหนือ ในขณะเดียวกันได้เกิดลมพัดเวียนเข้าสู่กลาง หรือ Cyclonic Vortex ลมจากใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดผ่าน ประกอบกับกระแสลมทางตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้อากาศเกิดการยกตัวจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง และเกิดลูกเห็บตกเป็นจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ทำกินของชาวบ้านกว่า 6,000 ไร่ เสียหายเป็นจำนวนมาก

         และในเดือนเมษายนปี 2566 ได้เกิดเหตุการณ์ฝนฟ้าคะนองท่ามกลางฤดูร้อน ทำเอาชาวเมืองอึ้งไปตาม ๆ กันกับพายุลูกเห็บถล่มกลางกรุงเทพมหานครในหลายพื้นที่ นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดไม่บ่อยมากนักที่ลูกเห็บจะตกในภาคกลาง เรียกได้ว่านาน ๆ ทีหลายปีหนก็ว่าได้ และคนส่วนใหญ่ก็เอ่ยปากเป็นเสียงเดียวกันว่า “เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น และสัมผัสกับพายุลูกเห็บที่ตกในกทม.” สาเหตุอาจมาจากสภาพอากาศของกรุงเทพฯ มีความร้อนสะสมสูง ชนิดที่ว่าร้อนอบอ้าว ร้อนจนแสบผิว เนื่องจากการจราจรที่แออัด โรงงานต่าง ๆ ที่เผาพลาญความร้อนสูง รวมกับทิศทางลมกระโชกแรง ทำให้เกิดความเสียหาย และในบางที่มีน้ำขังรอการระบาย ส่งผลให้จราจรบนท้องถนนติดชงักถึงแม้จะตกลงมาเพียงไม่นาน

🔹เหตุการณ์ลูกเห็บตกสุดแปลก

         นอกจากเรื่องราวธรรมชาติสุดแปลกที่ลูกเห็บจะตกในกรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศในโซนเขตร้อนจัด ที่อยู่ท่ามกลางทะเลทรายแต่ก็ยังเกิดพายุลูกเห็บได้ โดยในปี 2558 เกิดเหตุการณ์กระแสลูกเห็บพัดผ่านทะเลทราย หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พายุลูกเห็บได้ซัดถล่มในหลายประเทศเช่น อิรัก และภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ อียิปต์ อิสราเอล ซาอุดิอาระเบีย และจอร์แดน สาเหตุมาจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักติดต่อกันตลอดวัน รวมถึงระบบโครงสร้างที่เสื่อมโทรมจากเหตุความรุนแรงในประเทศด้วยเช่นกัน

และในปี 2559 หนึ่งในประเทศที่มีสภาพอากาศร้อนที่สุดในโลกอย่างประเทศคูเวต เกิดพายุลูกเห็บตกท่ามกลางฤดูหนาวจัดในรอบ 15 ปี ทำเอาบรรดาเด็ก ๆ ในประเทศคูเวตต่างตื่นตาตื่นใจ และตะลึงไปกับเหตุการณ์ในสภาพอากาศที่หายากมากสำหรับในประเทศเขตร้อนแห่งนี้ ซึ่งสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำเอาเหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาคาดเอาว่าหลายพื้นที่สิ่งมีชีวิตอาจไม่สามารถอยู่ในได้ในอนาคต เพราะสภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัด หรือที่เราคุ้นหูกันนั่นก็คือภาวะโลกร้อนนั่นเอง

🔹ความเป็นที่สุดของสถิติพายุลูกเห็บ

         แม้ว่าพายุลูกเห็บอาจจะเกิดขึ้นน้อยครั้ง ตกไม่นาน น้ำหนักเบา หรือมีขนาดก้อนเล็กก็ตาม แต่สำหรับที่เมือง คอฟฟีย์วิลล์ (Coffeyville) รัฐแคนซัส (Kansas) สหรัฐอเมริกา มีสถิติที่ลูกเห็บหนักที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2513 ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 770 กรัม มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 14.5 เซนติเมตร แต่ไม่ใช่ขนาดที่ทำลายสถิติที่ใหญ่ที่สุดไปได้ เพราะลูกเห็บที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนั้นตกที่เมือง ออโรรา (Aurora) รัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2546 ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 17.8 เซนติเมตร และหากว่าตกใส่ร่างกายโดยเฉพาะหัวก็อาจจะทำให้ได้รับการบาดเจ็บ มากไปกว่านั้นอาจเสี่ยงถึงชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามน้ำหนักของลูกเห็บมีมวลน้อยกว่าที่เมืองคอฟฟีย์วิลล์ อาจเป็นเพราะว่ามีลูกเห็บบางส่วนหลุดแตกระหว่างตกกระทบบ้านเรือนในชุมชน

🔹ห้ามกินลูกเห็บ

         อย่างไรก็ตามเมื่อหลายพื้นที่เกิดพายุลูกเห็บ มักมีกลุ่มคนจำนวนมากที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจ สนุกสนาน และคงจะเป็นความรู้สึกเดียวกับเราที่ได้สัมผัสกับเมืองหิมะ บ้างก็หยิบมาลองชิม บ้างก็หยิบมาใช้แทนน้ำแข็งผสมกับน้ำชนิดต่าง ๆ เช่นเดียวกับความเชื่อผิด ๆ ของคนไทยที่ว่า “กินลูกเห็บจะช่วยป้องกันการเจ็บป่วย” แต่ความจริงแล้วไม่ควรเก็บมากินเป็นอันขาด ในทางวิทยาศาสตร์ได้ย้ำว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคที่อยู่พื้นดิน ท้องถนน รวมไปถึงเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในชั้นบรรยากาศ และยิ่งในปัจจุบันค่าฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างสูงอย่างมาก ทำให้ผู้ที่เก็บลูกเห็บมากินอาจเกิดโรคอุจจาระร่วงอย่างรุนแรงได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเจอลูกเห็บตกไม่ควรเก็บมากิน และควรหาวิธีรับมือไว้ให้ดีที่สุด

🔹วิธีรับมือพายุลูกเห็บ

         เมื่อทุกคนตกอยู่ในท่ามกลางสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง หรือแม้แต่การเกิดพายุลูกเห็บก็ตาม ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เสี่ยงภัยและอันตราย โดยเฉพาะเมื่อพายุลูกเห็บตก เพียงก้อนน้ำแข็งที่ตกลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงควรปฏิบัติตามวิธีแนะนำ เพื่อลดการเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และลดการบาดเจ็บต่อตัวเราและคนรอบข้างได้

  1. ควรอยู่ในบ้านหรือในอาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเห็บตกมาใส่ตัวเรา
  2. ไม่ควรอยู่ใกล้กระจก หากมีลมพายุที่พัดแรง อาจพัดพาลูกเห็บมากระแทกกระจกแตก ซึ่งทำให้ได้รับอันตราย
  3. ไม่เก็บลูกเห็บมากิน เพราะเสี่ยงอาจติดเชื้อและได้รับสารปนเปื้อนในอากาศ
  4. ดูแลเด็กเล็กให้อยู่ที่ปลอดภัย
  5. ไม่ควรขับรถต่อ เพราะทัศนวิสัยไม่ดีอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  6. ควรหาที่จอดที่ปลอดภัยและใกล้ที่สุด ไม่ใกล้ต้นไม่ใหญ่และป้ายโฆษณา
  7. ไม่ควรออกจากตัวรถเมื่อเกิดพายุลูกเห็บ เพราะทำให้ได้รับบาดเจ็บ

         อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าตกอยู่ในท่ามกลางสถานการณ์ใด ALTV เตรียมพร้อมค้นคว้าหาข้อมูลมาเสิร์ฟให้ทุกคนผ่านข่าวสารบนเว็บไซต์ ALTV ช่อง 4 ทีวีเรียนสนุก (คลิกเลย)


อ้างอิง Wikipedia, Thairath, TrueID, PPTV, โรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์

แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ลูกเห็บ, 
#พายุลูกเห็บ, 
#กรมอุตุนิยมวิทยา, 
#ฝนตก, 
#ลมกระโชก, 
#ฝนฟ้าคะนอง, 
#สภาพอากาศ, 
#อากาศวันนี้, 
#พายุฤดูร้อน, 
#ร้อน, 
#สุดแปลก, 
#สถิติ, 
#สถิติลูกเห็บ, 
#ลูกเห็บเกิดจากอะไร, 
#ก้อนน้ำแข็ง, 
#น้ำแข็ง, 
#กินลูกเห็บได้หรือไม่, 
#โรคอุจจาระร่วง, 
#เชื้อโรค, 
#ฝุ่นPM2.5, 
#ALTV, 
#ช่อง4, 
#ทีวีเรียนสนุก, 
#ข้อห้าม, 
#ประเทศไทย, 
#สภาพอากาศวันนี้, 
#ลูกเห็บตก 
ผู้เขียนบทความ
avatar
PHAKAWAN PHOCHAROEN
PANGRAM
หลงใหลการตั้งแคมป์ในฤดูหนาว คลั่งรักธรรมชาติระดับ 10
ALTV CI
Interest Thing
Interest Thing
ALTV All Around
ผู้เขียนบทความ
avatar
PHAKAWAN PHOCHAROEN
PANGRAM
หลงใหลการตั้งแคมป์ในฤดูหนาว คลั่งรักธรรมชาติระดับ 10
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ลูกเห็บ, 
#พายุลูกเห็บ, 
#กรมอุตุนิยมวิทยา, 
#ฝนตก, 
#ลมกระโชก, 
#ฝนฟ้าคะนอง, 
#สภาพอากาศ, 
#อากาศวันนี้, 
#พายุฤดูร้อน, 
#ร้อน, 
#สุดแปลก, 
#สถิติ, 
#สถิติลูกเห็บ, 
#ลูกเห็บเกิดจากอะไร, 
#ก้อนน้ำแข็ง, 
#น้ำแข็ง, 
#กินลูกเห็บได้หรือไม่, 
#โรคอุจจาระร่วง, 
#เชื้อโรค, 
#ฝุ่นPM2.5, 
#ALTV, 
#ช่อง4, 
#ทีวีเรียนสนุก, 
#ข้อห้าม, 
#ประเทศไทย, 
#สภาพอากาศวันนี้, 
#ลูกเห็บตก 
แชร์
ฟัง
ชอบ
ติดตามเรา