พักสมอง ออกจากห้องเรียน แล้วไปไขข้อสงสัยด้านวิทยาศาสตร์กับ 3 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก ชมความงามของสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมเรียนรู้เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ จะมีอะไรบ้าง ? ตามมาดูกันได้เลย
สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง
สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) คือ อนุสรณ์สถาน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ กลางทุ่งราบกว้างใหญ่บนที่ราบซอลส์บรี (Salisbury Plain) ในบริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ตัวอนุสรณ์สถานประกอบด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง แท่งหินบางอันตั้งขึ้น บางอันวางนอนลง และบางอันก็ถูกวางซ้อนกัน
โดยนักโบราณคดีเชื่อว่ากลุ่มกองหินนี้ถูกสร้างขึ้นจากที่ไหนสักแห่งเมื่อประมาณ 3000 – 2000 ปีก่อนคริสตกาล จากการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีเมื่อ พ.ศ. 2551 เผยให้เห็นว่าหินก้อนแรกถูกวางตั้งเมื่อประมาณ 2400–2200 ปีก่อนคริสตกาล ในขณะที่ทฤษฎีอื่น ๆ ระบุว่ากลุ่มหินที่ถูกวางตั้งมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นถึง 3000 ปีก่อนคริสตกาลเสียด้วยซ้ำ
ทั้งนี้เอง นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ต่างก็สงสัยว่า คนในสมัยก่อนสามารถยกแท่งหินที่มีน้ำหนักกว่า 30 ตัน ขึ้นไปวางเรียงกันได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ปราศจากเครื่องทุ่นแรงอย่างที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน และบริเวณที่ราบดังกล่าวไม่มีก้อนหินขนาดมหึมานี้ ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่าผู้สร้างต้องทำการชักลากแท่งหินยักษ์ทั้งหมดมาจากที่อื่น ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจาก "ทุ่งมาร์ลโบโร" ที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 40 กิโลเมตรนั้นเอง
สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) และบริเวณโดยรอบได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1986 และยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางอีกด้วย ตามไปท่องเที่ยวเกาะอังกฤษ ชมความพิศวงของ สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) กันต่อได้เลย
ข้อมูลจาก : Wikipedia.org
โอวาคุดานิ (Owakudani) “หุบเขานรก” ที่ภูเขาไฟยังไม่ดับ และมีแร่กำมะถันจำนวนมาก
"โอวาคุดานิ" (Owakudani) แหล่งชมวิวของเมืองฮาโกเน่ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเราสามารถชมปล่องภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่ง หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) นี้ เกิดขึ้นจากการระเบิดของไอน้ำ และการหลากของเถ้าถ่านภูเขาไฟและหินร้อนเมื่อราว 3,000 ปีก่อน
เนื่องจากบริเวณโดยรอบปกคลุมไปด้วยกลิ่นกำมะถัน และยังมีทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อก่อนคนญี่ปุ่นจึงเรียกที่นี่กันว่า “จิโกกุดานิ (หุบเขานรก)” นั้นเอง
ของขึ้นชื่อของที่นี่ คือ “ไข่ดำ” ที่เปลือกไข่ถูกย้อมไปด้วยสีดำสนิทจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างความร้อนใต้พื้นดินและก๊าซภูเขาไฟ มาชมความงามของ หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) กันต่อได้เลย
ข้อมูลจาก : Hakonenavi
สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge) สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก !
สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอมรปุระ ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมัณฑะเลย์มากนัก สะพานไม้อูเบ็งนั้นมีความยาวถึง 1.2 กิโลเมตร ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมาน มุ่งตรงไปยังเจดีย์เจ๊าตอว์กยี สร้างขึ้นเมื่อราวปี ค. ศ. 1850 นอกจากนจะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกแล้ว ยังเก่าแก่ที่สุดในโลกอีกเช่นกัน
สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge) เป็นสะพานสร้างจากไม้สักที่เหลือจากการรื้อพระราชวังเก่ากรุงอังวะ เมื่อตอนที่ย้ายเมืองหลวงจากอังวะ มายังอมรปุระ ก็ได้นำไม้สักจำนวน 1,086 ต้นมาด้วย และชื่อ “อูเบ็ง” ก็มาจากชื่อของขุนนางที่มีนามว่า “อูเบียน” ซึ่งพระเจ้าปดุงโปรดฯ ให้มาทำหน้าที่เป็นแม่กองงานสร้าง
หลักในการสร้างสะพานนั้น ใช้หลักการสร้างแบบสะพานระบบคาน ซึ่งจะมีเสาตอหม้อตั้งรับน้ำหนักตัวสะพานไม้เอาไว้ ปัญหาของสะพานไม้แบบนี้ก็คือแรงจะไม่ค่อยกระจายตัว ซึ่งถ้ามีน้ำหนักไปอยู่บนสะพานมากจะทำให้สะพานหักกลางได้ โดยวิธีที่นำมาแก้จุดบกพร่องของสะพานนั้นก็คือการวางตอหม้อรับน้ำหนักถี่ ๆ ทำให้น้ำหนักกระจายตัวได้ดีขึ้น ชมความน่าทึ่งของระบบวิศวกรรมในอดีตจาก สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge) กันต่อได้เลย
ข้อมูลจาก : Palanla