ALTV All Around
ALTV News
บทความอื่นจาก Thai PBS
ALTV All Around
ALTV News
บทความ Thai PBS
โสดอย่างสตรอง! Self-Partnered รูปแบบความสัมพันธ์ที่มีตัวฉันเป็นคู่ใจ
แชร์
ชอบ
โสดอย่างสตรอง! Self-Partnered รูปแบบความสัมพันธ์ที่มีตัวฉันเป็นคู่ใจ
19 ก.ค. 65 • 12.10 น. | 830 Views
ขนาดอักษร : กลาง
ALTV CI

หากคุณเคยคิดอยากเป็นแฟนกับตัวเอง เพราะกว่าจะหาคนที่นิสัยใจคอเข้ากันได้ช่างยากเย็นเหลือเกิน ความสัมพันธ์แบบ Self-Partered หรือ การมีตัวเองเป็นคู่ใจ อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณเอ็นจอยชีวิตโสดได้อย่างเป็นสุข และพิสูจน์ให้เห็นว่าความโสดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่เป็นเส้นทางที่ฉันเลือกเอง 

'Self-partnered' สอนให้คุณโอบกอดหัวใจตัวเอง

เมื่อพูดถึง "ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ" ตามค่านิยมของสังคมสมัยก่อน หลายครั้งที่มักลงเอยด้วยวงจรชีวิตแบบ เรียน ทำงาน และแต่งงานสร้างครอบครัว คำว่า "โสด" จึงเป็น คำสั้น ๆ ที่ฟังแล้วเจ็บสำหรับหนุ่มสาวที่ยังไร้คู่ ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างความอึดอัดใจให้คนโสดจำนวนไม่น้อยจากการถูกตัดสินในเชิงลบว่าล้มเหลวในชีวิต แต่ทว่าสำหรับยุคนี้อาจไม่ใช่อีกต่อไป เพราะแนวคิด "มองความโสดในแง่บวก (Single Positivity Movement)" กำลังเข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจวางแผนอนาคตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการครองตัวเป็นโสดมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

ท่ามกลางกระแสการมองชีวิตโสดแบบเป็นมิตร คำว่า Self-partnered หรือ มีตัวเองเป็นคู่ใจ กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ ตั้งแต่ที่ เอ็มมา วัตสัน (Emma Watson) นักแสดงนำสาวจากภาพยนตร์ เรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารโว้ก (VOUGE) ไว้ว่า เธอเรียนรู้ที่จะโอบกอดความโสดอย่างไม่เขินอาย และกำลังขึ้นสถานะความสัมพันธ์แบบมีตัวเองเป็นคู่ใจอยู่

 

หัวใจของแนวคิด Self-Partnered ไม่ใช่การหันหลังให้ความรักความสัมพันธ์ แต่คือการที่ตัวเราสามารถเติมเต็มความสุขให้ตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น รวมไปถึงการรู้จักมีเมตตาต่อตนเอง การเยียวยาตัวเองเมื่อเผชิญกับความทุกข์ ไปจนถึงวิถีทางอะไรก็ได้ที่นำพาความสุขมาสู่ตัวเรา

 

แม้ว่าฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่ Self-partnered ต้องอาศัยความเข้าอกเข้าใจตัวตนของตัวเราเองสูงมาก ซึ่งสร้างได้จากการฝึกฝนทำความเข้าใจตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เราให้คุณค่ากับอะไร เป้าหมาย ความสุข ความต้องการลึก ๆ ในใจของเราคืออะไร ถ้าหากตอบคำถามเหล่านี้ การมีตัวเองเป็นคู่ใจก็ไม่ใช่เรื่องยาก

งานวิจัยชี้ ความโสดมีดีกว่าที่คิด

แน่นอนว่าความรักความโรแมนติกมันดีต่อใจเราก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าการเป็นโสดเป็นสิ่งเลวร้าย มิหนำซ้ำยังมีข้อดีอีกมากมายทีคุณอาจไม่ทันนึกถึง ซึ่งเรารวบรวมข้อดีของความโสดเพียงส่วนหนึ่งมาไว้ให้แล้ว

ร่างกายฟิตกว่าคนมีคู่

วารสาร Social Science and Medicine ในปี 2015 เปรียบเทียบดัชนีมวลกายของคนประมาณ 4,500 คนใน 9 ประเทศแถบยุโรป พบว่าคนโสดส่วนใหญ่จะมีค่าดัชนีมวลกาย (ฺBMI) ต่ำกว่าคนที่แต่งงานแล้ว โดยคนโสดจะมีน้ำหนักน้อยกว่าคู่สมรสเฉลี่ยประมาณ 5 ปอนด์ นอกจากนี้ในการสำรวจผู้คนมากกว่า 13,000 คนอายุระหว่าง 18-64 ปี พบว่าคนที่ครองโสดและไม่เคยแต่งงานมักจะออกกำลังกายฟิตหุ่น อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งบ่อยกว่าคู่แต่งงาน

มีอิสระในการกำหนดเส้นทางชีวิตตัวเอง

Bella DePaulo นักจิตวิทยา จากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) เผยว่า ในปี 2016 เธอได้ศึกษากลุ่มคนโสด จำนวน 814 คนพบว่า คนโสดมีแนวโน้มที่จะพัฒนาการทางด้านจิตใจสูงเช่น มีทักษะการตัดสินใจที่เฉียบขาดกว่า หรือ อำนาจในการกำหนดชีวิตตัวเองได้มากกว่าคู่สมรส

ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น

งานศึกษา Journal of Family Issues เสนอให้เห็นว่า การมีปฏิสัมพันธ์และความคิดสร้างสรรค์มีส่วนเชื่อมโยงกัน จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,529 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นเมื่อได้อยู่ตามลำพัง เมื่อเทียบกับช่วงที่ต้องใช้เวลาร่วมกับผู้อื่น

คนโสดมีแนวโน้มเข้าสังคมมากกว่า

ในปี 2015 นักสังคมวิทยานามว่า Natalia Sarkisian และ Naomi Gerstel ได้สำรวจความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวชาวอเมริกันที่ทั้งโสดและแต่งงานแล้ว พวกเขาพบว่า คนโสดมีพฤติกรรมเข้าสังคมพบปะสังสรรค์มากกว่ากลุ่มคนที่แต่งงานแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มคนที่แต่งงานแล้วมักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับคู่ครอง หรือบุตรหลานของพวกเขามากกว่านั่นเอง

สร้างการตระหนักรู้ในตัวเอง (Self-awareness)

คุณไม่สามารถเป็นคู่ใจที่ดีให้ตัวเองได้ หากคุณยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ ซึ่งประตูบานแรกสู่ความเข้าใจในตัวตนของเรานั้นเริ่มจาก การตระหนักรู้ในตัวเอง หรือ Self-Awareness ทักษะที่ช่วยให้เรารู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเราในทุกขณะเวลา ไปจนถึงการรับรู้ถึงการมีอยู่ สภาวะอารมณ์ ความคิด ความสามารถ ความต้องการ ของตัวเราอันเป็นผลมาจากการหมั่นสังเกตพฤติกรรมตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

 

John Duffy นักจิตวิทยาคลินิกชาวอเมริกัน กล่าวกับ สำนักข่าว บีบีซี ไว้ว่า Self-Awareness เสมือนเวทย์มนตร์ที่ช่วยเติมเต็มความุสุขให้ชีวิตคุณได้ เพราะเมื่อคุณเข้าใจตัวเองมากพอ จะนำไปสู่ความสามารถในจัดการอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ก้าวข้ามผ่านปัญหาอุปสรรคในชีวิตได้ด้วยตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตประจำวันในทุกมิติไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน การเข้าสังคม หรือความสัมพันธ์

ไม่ลืมที่จะดูแลตัวเอง (Self-care)

การใช้ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบตลอดเวลาท่ามกลางมรสุมโรคระบาด และอีกสารพัดปัญหาชีวิตอาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ได้ไม่ยาก ซึ่งการหันมาใส่ใจดูแลตัวเอง (Self-care) เป็นวิธีสุดเบสิกที่นักจิตวิทยาแนะนำว่าสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียด และเติมเต็มความสุขให้กับชีวิตเราได้มากกว่าที่คิด

 

การดูแลตัวเอง คำที่ฟังดูง่ายยแต่ต้องอาศัยวินัยและพลังใจมาก ๆ นี้ ทำให้หลายคนละเลยการให้ความสำคัญกับตัวเองไป แต่ในความเป็นจริง Self-Care ไม่ได้ยุ่งยากและสามารถเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวที่ทำแล้วเกิดความสุข ความสบายใจได้ ไม่ว่าจะเป็น การดูซีรีส์ตอนใหม่ก่อนนอน เล่นกับสัตว์เลี้ยง กินอาหารที่ชอบ ก็จัดเป็นการดูแลตัวเองเช่นกัน

 

Kelsey Patel ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในลอสแองเจลิส กล่าวไว้ว่า การดูแลตนเองเป็นวิธีรับมือกับความเครียดและความวิตกกังวลที่ต้องพบเจอในแต่ละวันได้อย่างดี เพราะนอกจากช่วยลดความเร็วของตัวเราจากสภาวะที่ต้องเร่งรีบตลอดเวลาแล้ว การใส่ใจดูแลตัวเองยังส่งผลต่อสุขภาวะโดยรวม (Well-being) และมีพลังงานเหลือเฝือไปดูแลคนสำคัญใกล้ตัวได้อีกด้วย

เลิกแบกรับความคาดหวังของคนอื่น

หลายครั้งที่เราปล่อยให้ความคาดหวังของใครสักคนมีผลต่อการตัดสินใจของเรามากเกินไป คงจะดีไม่น้อยหากเราโฟกัสไปที่เป้าหมายที่แท้จริงของเราเอง แทนการเดินตามความคาดหวังของคนอื่น เริ่มจากการซื่อสัตย์กับตัวเองก่อน ถามตัวเองว่าอะไรคือความต้องการที่แท้จริงของเรา และเมื่อรู้แล้วก็ควรเคารพความต้องการของตัวเราเองด้วย ถ้าหากความต้องการนั้นไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร นอกจากนี้ควรกล้าที่จะยึดหมั่นในเส้นทางของตนเอง และรู้จักแสดงออกถึงความต้องการของเรา (Speak out) ออกมาให้คนอื่นทราบ เพื่อเป็นการขีดเส้นกั้นไม่ให้ใครมายัดเยียดความปรารถนาหรือกำหนดสิ่งที่คุณควรเป็นได้

สนุกกับการอยู่คนเดียวบ้าง

Enjoy your own company! สำนวนคุ้นหูนี้กำลังบอกว่าในบางครั้งการอยู่คนเดียวบ้างก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน ซึ่งการมีเวลาอยู่กับตัวเองบ่อย ๆ ช่วยให้คุณตระหนักถึงความคิดความรู้สึกของตัวเอง โดยปราศจากแรงกดดันหรือการตัดสินของใคร

 

มีกิจกรรมมากมายที่เราสามารถสนุกได้ตามลำพัง อาจเริ่มจากการค้นหาสิ่งที่อยากทำมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ อย่างการฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ เช่น ทำอาหาร สร้างงานศิลปะ เรียนภาษา ก็ถือเป็นอีกวิธีที่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือจะเป็นกิจกรรมยอดฮิตอย่างการออกเดตกับตัวเอง (Self-dating) เทรนด์ที่กำลังมาแรงเรื่อย ๆ ในกลุ่มคนยุคใหม่ เช่น การออกไปดูงานศิลปะคนเดียว กินข้าวคนเดียว หรือก้าวที่ใหญ่กว่านั้นกว่านั้นอย่างการออกไปเที่ยวต่างจังหวัดคนเดียว ก็ช่วยให้คุณก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนไปได้อีกก้าว

 

มีงานศึกษาจำนวนไม่น้อยแสดงให้เห็นว่าความสามารถในการอยู่คนเดียวได้ ส่งผลต่อระดับความสุขและความพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น งานศึกษาชิ้นใหม่ในปี 2020 ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications พบว่าความโดดเดี่ยวทางสังคม (Social isolation) จะนำไปสู่การพัฒนาเครื่อข่ายระบบประสาทส่วนที่เกี่ยวข้องกับ 'จินตนาการ' ซึ่งหากเราปล่อยมันไว้เฉย ๆ ไม่กระตุ้นมันด้วยการเข้าสังคม สมองจะเพิ่มเครือข่ายความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นด้วยตัวมันเอง

 

 

จัดบ้านให้น่าอยู่

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 คาร์ล จุง จิตแพทย์ชื่อดัง กล่าวไว้ว่า 'บ้าน' มีความสำคัญทางด้านจิตใจมากกว่าเป็นแค่ที่พักพิง สภาพแวดล้อมในบ้านตั้งแต่ สีผนัง แสงไฟ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ล้วนมีอิทธิพลต่อการประมวลผลทางสติปัญญาและพฤติกรรมของเราทั้งสิ้น คาร์ล ยังบอกไว้อีกว่ามันสามารถเชื่อมโยงเข้ากับ 'Inner Narative' หรือ 'เสียงพูดในใจ' ของคนเราได้อีกด้วย ซึ่งเสียงในใจของคนเราถือเป็นเป็นกลไกลทางสมอง ในการสะท้อนมุมมองความคิดและความรู้สึกเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มีส่วนช่วยให้การตัดสินใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันของเราเป็นไปอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น 

 

สรุปได้ว่านอกจากการปรับเปลี่ยนทัศนคติแล้ว 'การจัดบ้านให้น่าอยู่' หรือ 'การมีมุมโปรดสวย ๆ ภายในบ้าน' ยังเป็นอีกหนทางที่ช่วยให้การใช้เวลาอยู่ตัวคนเดียวเป็นเรื่องไม่น่าเบื่อ มิหนาซ้ำยังดีต่อสุขภาพจิตของคุณอีกด้วย อาจเริ่มจากการเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน หรือการสร้างมุมโปรดเล็ก ๆ ภายในห้องนอน ประดับด้วยของที่ชอบ เช่น ผลงานศิลปะ ตุ๊กตาฟิกเกอร์ ต้นไม้เล็ก ๆ สักต้น ก็สามารถช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้

 

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หวังว่าหลายคนเอาจจะอยากเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่าความโสดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว และดีต่อใจไม่แพ้กับการมีแฟนเลย นอกจากนี้แล้วสามารถรับชมเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคนเดียวในช่วงบั้นปลายของผู้สูงอายุ ได้ที่รายการ สูงวัยวาไรตี้ ตอน ผู้สูงวัย โสดอย่างสตรอง ทางเว็บไซต์ ALTV ช่อง 4 ทีวีเรียนสนุก

 

ที่มา: NBC News Business insider Hindustan times BBC News VOGUE

 

 



แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ชีวิตโสด, 
#ความโสด, 
#ความสัมพันธ์, 
#Self-partnered, 
#ครอบครัว, 
#คู่ชีวิต, 
#อยู่เป็นโสด, 
#มีความสุขกับความโสด, 
#Single, 
#Singleshaming, 
#ความโสดแง่บวก, 
#Positivity 
ผู้เขียนบทความ
avatar
THANATCHA SUVIBUY
นับถือแมวเป็นศาสนา มีไอดอลเกาหลีเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ALTV CI
LearnMore
LearnMore
ALTV All Around
ผู้เขียนบทความ
avatar
THANATCHA SUVIBUY
นับถือแมวเป็นศาสนา มีไอดอลเกาหลีเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ชีวิตโสด, 
#ความโสด, 
#ความสัมพันธ์, 
#Self-partnered, 
#ครอบครัว, 
#คู่ชีวิต, 
#อยู่เป็นโสด, 
#มีความสุขกับความโสด, 
#Single, 
#Singleshaming, 
#ความโสดแง่บวก, 
#Positivity 
แชร์
ชอบ
ติดตามเรา