แซนด์วิช เจเนอเรชัน (Sandwich Generation) คือคำนิยามกลุ่มคนที่ต้องแบกรับภาระหน้าที่ในการเลี้ยงดูและสนับสนุนทางด้านการเงิน ร่างกายและจิตใจให้กับ 'พ่อแม่ที่แก่ชรา' และ 'เด็กเล็ก' ในคราวเดียวกัน กลุ่มคนในวัยนี้จึงเหมือนถูกประกบด้วยภาระหน้าที่จากสองทิศทางเหมือนแซนด์วิช ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในหมู่หนุ่มสาววัยทำงานทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
แซนด์วิช เจเนอเรชัน ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เคยถูกพูดถึงมาก่อนแล้วในปี 1980 โดย นักสังคมสงเคราะห์ชาวอเมริกัน โดโรที มิลเลอร์ (Dorothy Miller) และนักอายุรแพทย์ชาวอเมริกัน อีเลน โบรดี (Elaine Brody) ทั้งคู่เริ่มใช้คำนี้ อธิบายถึงหญิงวัยกลางคน อายุราว 30-59 ปี ที่ต้องแบกรับหน้าที่จากหลายทิศทาง ทั้งเลี้ยงดูพ่อแม่ที่เข้าสู่วัยชรา ไปพร้อมกับบรรดาลูกหลานที่กำลังเติบโต จึงทำให้แซนด์วิช เจเนอเรชัน เป็นกลุ่มคนที่ต้องเผชิญกับความกดดันและความเครียดสูง นำมาซึ่งปัญหาด้านสุขภาพจิต
การเกิดขึ้นของแซนด์วิช เจเนอเรชัน มาจากหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่วัยทำงานมีจำนวนเท่าเดิมหรือลดน้อยลง ทำให้คนหนุ่มสาววัยทำงานตอนต้นต้องรับหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งมาจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ราคาข้าวของแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและการเก็บออมที่ทำได้ลำบากมากขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก สำนักข่าว BBC รายงานไว้ว่า จากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ยิ่งส่งผลให้ แซนด์วิช เจเนอเรชัน เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว มีความหลาหลายมากขึ้น และส่วนมากเริ่มมีอายุเฉลี่ย ‘น้อยลง’ กว่าที่คาดการณ์ไว้ กรณีตัวอย่าง ในประเทศสหรัฐอเมริกา ‘Gen Y’ หรือ คนรุ่นมิลเลนเนียม กว่าร้อยละ 40 ต้องตกอยู่ในกลุ่มแซนด์วิช เจเนอเรชันในจำนวนที่มากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาด (Pre-Pandemic) และมากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่ม Gen X และ Baby boomer
แซนด์วิช เจเนอเรชัน ล้วนมีช่วงอายุแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ในอังกฤษมักเป็นกลุ่มคนอายุ 40-55 ปี ส่วนใหญ่จัดอยู่ใน 'Gen X' ในประเทศฟิลิปปินส์ มักเป็นผู้หญิง อายุระหว่าง 30-35 ปี ส่วนในประเทศไทยอ้างอิงจากข้อมูลจากงานวิจัย ในปี พ.ศ.2560 แซนด์วิช เจเนอเรชัน ส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ย 55.67 ปี
เพราะแซนด์วิช เจเนอเรชัน เป็นกลุ่มที่ต้องดูแลผู้คนหลายวัยทั้งในด้านการเงิน สุขภาพร่างกายและจิตใจ สิ่งที่จะละเลยไม่ได้สำหรับคนกลุ่มนี้ คือ การวางแผนการเงิน และ การดูแลสุขภาพกายและใจของตนเอง
วางแผนการเงินให้เหมาะสม
การวางแผนการเงินที่เหมาะสม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแซนด์วิช เจอเนอเรชัน โดยอาจเริ่มจากการวางแผนภาระค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับรายรับ และให้ความสำคัญกับรายจ่ายที่จำเป็นมาเป็นอันดับแรก
วางแผนประกัน
เพราะชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน เราจึงไม่อาจรู้ว่าวันไหนที่เราหรือคนในครอบครัวจะเจ็บป่วย การวางแผนประกันสุขภาพสำหรับพ่อแม่หรือตัวเราเอง อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแบ่งเบาภาระหนักจากค่ารักษาพยาบาลในยามที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่สามารถลดผลกระทบต่อรายรับของเราได้
วางแผนชีวิตหลังเกษียณ
เพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องกลายมาเป็นแซนด์วิช เจเนอเรชัน ในวันข้างหน้า และตัวเราเองจะไม่ต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้งในการดูแลคนรอบข้างรวมถึงตัวเองที่เริ่มอายุมากขึ้น การคำนวนเงินที่คาดว่าจะใช้ในชีวิตหลังเกษียณจะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ในช่วงบั้นปลายชีวิตได้
ไม่ลืมให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเอง
ด้วยตารางชีวิตที่อัดแน่น เวลาในการให้ความสำคัญกับตัวเองของเหล่าแซนด์วิช เจเนอเรชัน อาจมีไม่มากนัก เแต่การดูแลตัวเองก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ โดยอาจสละเวลาเล็กน้อยมาเริ่มดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ ได้ที่บ้านด้วยการ คอร์สพัฒนาตัวเองแบบออนไลน์ เช่น การจัดการความเครียด การฝึกทำสมาธิ หรือการปรึกษานักจิตบำบัดแบบออนไลน์
นอกจากสาระความรู้ที่เรานำมาฝากแล้ว สามารถเรียนรู้วิธีการดูแลจิตใจสำหรับคนในวัย แซนด์วิช เจเนอเรชัน ได้ที่ รายการ สูงวัยวาไรตี้ ตอน ดูแลใจวัย Sandwich Generetion เมื่อต้องเป็นเดอะแบก