การที่เราจะฟังหรืออ่านได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ นอกจากการจับใจความสำคัญแล้ว การเข้าใจเจตนาและจุดประสงค์ของผู้ส่งสาร จะยิ่งทำให้เรารู้เท่าทันสิ่งที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอมากขึ้น โดยเราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากลักษณะถ้อยคำที่ใช้ เจตนา หรือน้ำเสียงและอารมณ์ของผู้เขียน ที่ ALTV ได้สรุปมาไว้ให้แล้ว
การเขียนที่มีจุดประสงค์เพื่ออธิบาย
การเขียนเพื่ออธิบาย เป็นการเขียนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้อ่าน 'เข้าใจ' หรือเกิดความ 'กระจ่างแจ้ง' ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ลักษณะเป็นการ อธิบายเรื่องที่เป็นวิธีการ มีลำดับขั้นตอน ไปจนถึง การให้คำจำกัดความ การขยายความโดยให้เหตุผล
⭐ตัวอย่างการเขียนเพื่ออธิบาย: การทำให้หมูจับตัวเป็นก้อน เทคนิคการทำคือการใส่ไข่ไก่ลงไป ซึ่งไข่ไก่จะช่วยให้หมูจับตัวกันเป็นก้อน หากใช้หมูบะช่อจะทำให้หมูแข็งเกินไป ให้ใส่หมูสับ วุ้นเส้นลงไปด้วย จะเพิ่มความละมุนของหมูหมัก
การเขียนที่มีจุดประสงค์เพื่อโน้มน้าวใจ
การเขียนเพื่อโน้มน้าวใจมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกคล้อยตาม หรือทำให้ผู้อ่านรู้สึก ‘เชื่อ’ มักใช้ถ้อยคำในเชิงบวก ชี้ให้เห็นถึงข้อดี สรรพคุณ หรือประโยชน์ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้อ่านยอมรับในสิ่งที่ผู้เขียนเสนอ ไปจนถึงพยายามทำให้เกิดการเปลี่ยนทัศนคติ ความเชื่อ และการกระทำ เช่น การโฆษณาสินค้า
⭐ตัวอย่างการเขียนเพื่อโน้มน้าวใจ: โซฟาหนังแท้ นั่งสบาย ไม่ปวดหลัง พร้อมให้คุณทดลองนั่งฟรีแล้ววันนี้ ซื้อวันนี้แถมฟรีส่วนลดสุดพิเศษอีกมากมาย
การเขียนที่มีจุดประสงค์เพื่อแนะนำ/ชี้แนะ
การเขียนเพื่อแนะนำหรือชี้แนะ เป็นการเขียนที่มีจุดมุ่งหมายให้เกิดการกระทำ คล้ายกับการเขียนโน้มน้าวใจ แต่การแนะนำจะมีการนำเสนอสิ่งใหม่ พร้อมสอดแทรกสาระความรู้ หรือเปรียบเทียบให้เห็นถึงข้อดี-ข้อเสีย
⭐ตัวอย่างการเขียนเพื่อแนะนำ/ชี้แนะ: ชามีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้มีพลังานตื่นตัวได้ยาวนานกว่า ทั้งยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย
การเขียนที่มีจุดประสงค์เพื่อตักเตือน
การเขียนเพื่อตักเตือน มีจุดมุ่งหมายเพื่อบอกให้ผู้อ่านรับรู้ว่ากำลังทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง หรือการกระทำนั้นอาจนำไปสู่ความเสียหายในภายหลัง หรือกล่าวถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น
⭐ตัวอย่างการเขียนเพื่อตักเตือน: การที่เชื่อว่า การดื่มชาปลอดภัยกว่ากาแฟนั้นไม่เป็นความจริง เพราะในความจริง ชาและกาแฟปลอดภัยเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากปริมาณคาเฟอีนในกาแฟ มีมากกว่าชา ดังนั้นจึงต้องจำกัดปริมาณการดื่ม เพื่อป้องกันการรับคาเฟอีนมากเกินไป
การเขียนที่มีจุดประสงค์เพื่อตำหนิ
การเขียนเพื่อตำหนิ หลายคนอาจสับสนกับการตักเตือน การตำหนิมักใช้กับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ใด ที่มีการกระทำความผิดไปแล้ว
⭐ตัวอย่างการเขียนเพื่อตำหนิ: อย่าลดคุณค่าของตัวเอง เพียงเพราะยากให้เขาห็นคุณค่าในตัวเรา วันใดที่เราออกวิ่งตามใครสักคน วันนั้นเป็นวันที่คุณค่าในตัวเราลดลงด้วยเช่นกัน นอกจากเขาจะไม่เห็นคุณค่า เรายังต้องเหนื่อยกายและใจ คนเราถ้าเขาเห็นค่ายืนเฉยเขาก็เห็น
เจตนาแจ้งให้ทราบ: ประโยคที่ผู้เขียนต้องการแจ้งให้รับรู้เนื้อหาสาระ อาจอยู่ในลักษณะประโยคบอกเล่า หรือประโยคปฏิเสธก็ได้
เจตนาถามให้ตอบ: ประโยคที่ผู้เขียนต้องการ ‘คำตอบ’ จะมีการแสดงคำถามอยู่ในประโยคด้วย เช่น คำว่า หรือไม่, ที่ไหน, อย่างไร, ทำไม, อะไร, อย่างไร เป็นต้น
เจตนาบอกให้ทำ: ประโยคที่ผู้เขียนใช้ถ้อยคำเชิงคำสั่ง ตักเตือน หรือขอร้องให้ปฏิบัติตาม มักมีคำว่า ต้อง... อย่า…. จง… โปรด...
น้ำเสียงที่ใช้ในงานเขียน เป็นสิ่งที่สะท้อนความรู้สึกและทัศนคติของผู้เขียนที่มีต่อเรื่องที่เขียน ไปจนถึงต่อตัวผู้อ่านเอง การจับอารมณ์และน้ำเสียงของผู้เขียนได้ จะช่วยให้เข้าใจงานเขียนนั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อได้ทำความเข้าใจถึงหลักการจำแนกน้ำเสียงและอารมณ์ของผู้เขียนไปบ้างแล้ว ALTV ยังมีสรุปเนื้อหาสำคัญข้อสอบด้านการอ่านและการวิเคระห์จุดประสงค์ จาก ครูพี่แป้ง มณฑิชา บูรพิสิทฐิกุล มาฝากกันอีกด้วย โดยสามารถรับชมต่อได้ที่รายการ ห้องเรียนติวเข้ม ม.ปลาย วิชา A-Level ภาษาไทย ตอน การวิเคราะห์จุดประสงค์ ทางเว็บไซต์ ALTV ช่อง 4 ทีวีเรียนสนุก