พบแต่ละปีทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำประมาณ 236,000 คน โดย 1 ใน 4 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งในกลุ่มเด็กอายุ 5 - 14 ปี พบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ส่วนประเทศไทย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2556 - 2565 มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 36,403 คน เฉลี่ยปีละ 3,640 คน หรือวันละกว่า 10 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 6,992 คน สาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยคือ ขาดทักษะการเอาชีวิตรอดและการช่วยเหลือคนตกน้ำ และจมน้ำที่ถูกต้อง
อุบัติเหตุทางน้ำ หรือการตกน้ำและการจมน้ำ เป็นสาเหตุอันดับ 3 ของการเสียชีวิตในเด็กมากที่สุด
หากเรารู้ทักษะวิธีช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุจมน้ำเบื้องต้น อาจช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางน้ำได้ กรณีที่พบเห็นคนจมน้ำ สิ่งที่ควรทำอาจไม่ใช่การกระโดดลงน้ำในทันที เพราะอาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความสูญเสียที่มากขึ้นได้ ก่อนตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือ ควรประเมินความลึกและความแรงของกระแสน้ำ
จากนั้นจึงเข้าช่วยเหลือด้วยวิธีช่วยคนที่ยังมีสติ ขณะตกน้ำมี 3 เทคนิค เรียกง่ายๆ ว่าการ “ตะโกน โยน ยื่น”
ส่วนวิธีการช่วยเหลือคนที่ไม่มีสติขณะที่ตกน้ำ ผู้ที่ช่วยเหลือจำเป็นจะต้องว่ายน้ำเป็น และมีประสบการณ์ในการพาผู้ประสบภัยเข้าฝั่งเป็นอย่างดี แต่หากไม่มีประสบการณ์ หรือ ไม่เคยช่วยเหลือ สามารถทำได้โดยการดึงผู้ประสบภัยเข้าฝั่งด้วยการกอดไขว้หน้าอก ให้ผู้ช่วยเหลือเข้าประชิดด้านหลังผู้ประสบภัย จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งพาดบ่าด้านหลังในแนวไขว้ทแยงหน้าอก และจับลำตัวด้านข้างของผู้จมน้ำ แล้วใช้มืออีกข้างว่ายกึ่งท่ากบเข้าหาฝั่ง ที่สำคัญจะต้องให้ใบหน้า ปาก และจมูกของผู้ประสบภัยอยู่เหนือผิวน้ำเสมอ
สำหรับอุปกรณ์ช่วยคนจมน้ำ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนใช้อุปกรณ์ในการช่วยคนจมน้ำ ให้มองหาอุปกรณ์ใกล้ตัวของที่จะสามารถลอยน้ำได้ ยกตัวอย่างเช่น ขวดน้ำพลาสติก หลายๆ ใบ ทริคคือใส่น้ำไว้ในขวดเล็กน้อยเพื่อการโยนที่แม่นมากขึ้น ถังแกลลอนผูกเชือก หรือถุงเชือก เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้เกาะไว้ นำไม้ หรือ ท่อมาให้ผู้ประสบภัยจับไว้ เพื่อที่จะดึงเข้ามาหาฝั่ง
บ่อยครั้งที่คนจมน้ำ มักจะมีอาการตกใจ พร้อมดึง และตะเกียกตะกายเข้าหาผู้ช่วยเหลือ จนทำให้ผู้ช่วยเหลือไม่สามารถว่ายน้ำต่อไปได้ และกลายเป็นความสูญเสียโดยไม่ตั้งใจเกิดขึ้นตามมา ดังนั้น เมื่อสามารถช่วยเหลือคนจมน้ำจนขึ้นฝั่งได้ สิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วนคือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ยิ่งเราช่วยเหลือคนจมน้ำได้ไว ความปลอดภัยในชีวิตก็ยิ่งมีโอกาสสูง เพราะคนจมน้ำหรือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางน้ำมักมีอาการสำลักน้ำ หายใจ หรือกลืนเอาน้ำเข้าปอดเป็นจำนวนมาก จนร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดออกซิเจนและเลือดเป็นกรดในเวลาต่อมา ก่อนจะหมดสติไปในที่สุด
เมื่อเราช่วยเหลือคนจมน้ำขึ้นมาได้ให้รีบโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ พร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้
จัดท่านอนตรงบนพื้นราบ พร้อมตรวจสอบว่าผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางน้ำยังมีสติหรือไม่ กรณีที่ผู้ประสบอุบัติเหตุทางน้ำหมดสติ ให้ทำการช่วยหายใจฟื้นคืนชีพโดยการเป่าปาก 2 ครั้ง สลับกดหน้าอก 30 ครั้ง ซึ่งควรกดให้ยุบประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาหน้าอก ด้วยความเร็วอย่างน้อย 100 ครั้งต่อนาที จนกว่าผู้ประสบเหตุจะรู้สึกตัว หรือหายใจได้เอง หรือจนกว่าทีมแพทย์จะมาถึงที่เกิดเหตุ เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล
นอกจากวิธีช่วยคนจมน้ำ เราควรเฝ้าระวังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจมน้ำให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอุบัติเหตุในเด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างเต็มที่ ด้วยการสอนว่ายน้ำ ฝึกทักษะการช่วยชีวิตเบื้องต้น และคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หรือแม้แต่การสวมเสื้อชูชีพในผู้ใหญ่เมื่อจำเป็นต้องใช้บริการหรือเดินทางโดยสารทางเรือ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นต้องทำกิจกรรมทางน้ำ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยอยู่เสมอ