บางครั้งการพูดว่า “ไม่” อาจดูแรงเกินไป สำหรับการพูดปฏิเสธออกมาตรง ๆ
แต่ในบางสถานการณ์ก็เป็นเรื่องยากที่จะตกปากรับคำ ซึ่งทำให้ผู้พูดลำบากใจ
ในภาษาอังกฤษการ “Say No”ทันที ถือเป็นวิธีปฏิเสธที่ไม่นิยมเท่าไหร่นัก
เพราะอาจทำให้อีกฝ่ายเสียใจ และเป็นการทำลายความสัมพันธ์อีกฝ่ายระยะยาว
การปฏิเสธไม่ว่าจะพูดภาษาอะไรก็เป็นเรื่องยากเสมอ แต่สำคัญ
ดังนั้นผู้พูดจึงต้องมีศิลปะการพูด หรือใช้วลีสำหรับตอบปฏิเสธแบบสุภาพ นุ่มนวล
อย่างจริงใจ ไม่โกหก เพื่อถนอมน้ำใจทั้งสองฝ่าย โดยที่คนปฏิเสธรู้สึกผิดน้อยที่สุด
และคนฟังเกิดความเคารพและเกรงใจกลับด้วย
กลวิธีการปฏิเสธในภาษาอังกฤษแบบสุภาพ มักไม่ใช้คำว่า No! ถ้าไม่จำเป็น
แต่จะใช้คำว่า I can not หรือ I can't เพื่อบอกว่าไม่สามารถทำตามความต้องการของอีกฝ่ายได้
ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ตามสถานการณ์เหล่านี้
1. ใช้คำชมเข้าช่วย
การปฏิเสธใครซักคน โดยใช้คำชม หรือกล่าวขอบคุณ เป็น “เทคนิคสุดคลาสสิค” ที่ใช้ได้ผลกับทุกสถานการณ์
ประมาณว่า “ฉันขอบคุณนะที่นึกถึงกัน” ซึ่งในภาษาอังกฤษมักใช้คำว่า Thank you for... ขึ้นต้นประโยคก่อน ตามด้วย But… เพื่อขอบคุณสำหรับโอกาสในครั้งนี้ เป็นการตอบว่า “ไม่” อย่างอ่อนโยน ทำให้ผู้ฟังรู้สึกดีแม้ถูกปฏิเสธ
ตัวอย่าง : เมื่อเพื่อนชวนไปปาร์ตี้ แต่อยากนอนดูซีรีส์มากกว่า
Q : Let’s go to the party tonight?
คืนนี้ไปปาร์ตี้กันไหม?
ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพว่า
A : Thanks for thinking of me, but I can’t.
ขอบคุณที่นึกถึงฉันนะ แต่ฉันไปไม่ได้
พูดขอบคุณก่อน เพื่อแสดงความจริงใจ พร้อมบอกว่าไม่สะดวก
A : Thanks, but no thanks.
ขอบคุณนะ แต่ไม่ดีกว่าจ้ะ
แสดงคำขอบคุณถึงการมีน้ำใจของอีกฝ่าย แต่ไม่ขอทำตามคำชวน
A : Sounds great, but I can’t commit.
ฟังดูน่าสนุก แต่ฉันไม่สามารถรับปากได้
แสดงความสนใจในสิ่งที่เพื่อนชวน พร้อมบอกปฏิเสธโดยไม่สร้างความหวัง
2.บอกเหตุผลที่จริงใจ
นอกจากคำขอบคุณแล้ว การปฏิเสธโดยบอกเหตุผลไปตรง ๆ ว่ากำลังยุ่ง หรือไม่มีเวลา
เป็นข้อดีที่อีกฝ่ายจะเข้าใจในข้อจำกัด โดยแสดงความจริงใจและตรงไปตรงมา
และมักกล่าวคำว่า Sorry ขอโทษ ขึ้นต้นประโยค หรือทิ้งท้าย เพื่อแสดงความเสียใจ หากไม่สามารถทำตามที่ขอได้
ตัวอย่าง : เพื่อนชวนไปดูหนัง แต่ “คุณไม่มีเวลาเลย”
Q : Let’s go to the movies !
ไปดูหนังกันเถอะ!
ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพว่า
A : I have something else. Sorry.
ฉันมีอย่างอื่นต้องทำ ขอโทษด้วยนะ
บอกความจำเป็นที่ทำให้ไม่ได้ พร้อมแสดงความเสียใจ
A : I’m just swamped right now, so I can’t.
ช่วงนี้งานฉันแทบล้นมือ ดังนั้นฉันจึงไปไม่ได้
อธิบายว่าเรายุ่งแค่ไหน เพื่อให้อีกฝ่ายเคารพเวลาส่วนตัวของเรา
(คำว่า swamped มีความหมายเดียวกันกับคำว่า overloaded แปลว่า ล้นมือ)
3.หาโอกาสครั้งต่อไป
หากตอนนี้คุณไม่สะดวก ไม่ควรปฏิเสธในทันที เพราะจะทำให้เสียน้ำใจของอีกฝ่าย สามารถหาโอกาสครั้งต่อไป
หรือระบุวันเวลาที่สะดวก เพื่อบอกว่าถ้าเป็นโอกาสหน้า คุณจะไม่พลาดแน่นอน
ตัวอย่าง : เมื่อเพื่อนชวนไปทำงานเสริมด้วยกัน แต่คุณยังไม่พร้อม
Q : Would you like to do a part-time Job with us?
สนใจไปทำงานพาร์ทไทม์กับพวกเราไหม?
ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพว่า
A : Let's do it another time.
ไว้โอกาสหน้านะ
พูดให้อีกฝ่ายรู้สึกมีความหวัง ว่าครั้งต่อไปว่าอาจได้คุยเรื่องนี้กันอีก
A : Circle back to me in a few weeks.
ไว้อีก 2-3 อาทิตย์ค่อยมาชวนใหม่นะ
ระบุช่วงเวลาที่คุณคิดว่าสะดวกไปเลย
4. ปฏิเสธสั้นๆ แบบไม่มีเหตุผล
บางครั้งคุณอาจลำบากใจ หรืออึดอัดใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายร้องขอ สามารถปฏิเสธด้วยประโยคสั้น ๆได้
โดยไม่ต้องมีเหตุผลมาสนับสนุน และยังคงรักษามิตรภาพไว้เหมือนเดิม
ตัวอย่าง : เมื่อเพื่อนขอยืมเงินบ่อยๆ และคุณไม่อยากให้ยืม
Q : Can I borrow your money, please?
ขอยืมเงินได้ไหม? ได้โปรด นะ นะ นะ!
ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพว่า
A : Sorry, I can’t
ขอโทษนะฉันให้ไม่ได้
แสดงความเสียใจที่ทำตามคำขอของอีกฝ่ายไม่ได้
A : I’m afraid I can’t.
ฉันเกรงว่าจะให้ไม่ได้
แสดงความลำบากใจ ถ้าต้องให้ตามที่ขอ
การปฏิเสธแบบสุภาพในภาษาอังกฤษ ทุกคนสามารถฝึกได้ง่าย ๆ
เทคนิค คือ ใช้คำว่า Thank you “ขอบคุณ”ก่อนที่จะตอบปฏิเสธ หรือคำว่า Sorry “เสียใจ”
ลงท้ายประโยคด้วยเสมอ เพื่อให้น่าฟังกว่าเดิม
อย่ากลัวว่าการปฏิเสธจะทำลายมิตรภาพ เพราะการปฏิเสธจะรักษาความสัมพันธ์ ได้ดีกว่าการรับปากทั้งที่ฝืนใจ
นอกจากประโยคปฏิเสธในรูปแบบที่ใช้ I can't แล้วยังมีประโยคอื่น ๆ อีก เช่น คำว่า don’t เป็นการลดรูปของ do not และมีโครงสร้าง ดังนี้ S. + don’t / doesn’t / didn’t + v.inf สามารถเรียนรู้เทคนิคการใช้ได้ใน
รายการ ENGLISH Level up เติมพลังอังกฤษ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ