ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วนะ เตรียมเสื้อกันหนาวอุ่น ๆ ไว้ซักตัวกันแล้วหรือยัง? ปกติฤดูหนาวในบ้านเราเริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน (November) จนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ (February)
แม้ว่าหน้าหนาวในไทยไม่ถึงขั้นหนาวจัดเหมือนประเทศอื่นที่มีหิมะตก แต่ก็มีลมพัดผ่านเย็นสดชื่น ชวนให้ออกไปท่องเที่ยว ต้อนรับลมหนาวกันได้บ้าง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ “ฤดูหนาวในไทย”
ฤดูหนาวโดยทั่วไปใช้คำว่า “Winter season” (วิน'เทอะ ซี'เซิน) แต่สำหรับฤดูหนาวในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศเย็นสบาย เรียกว่า “Cool season” (คูล ซี'เซิน) หรือ “Cold season” (โคลด ซี'เซิน) ก็ได้
คำศัพท์ที่เกี่ยวหน้าหนาวของไทย เช่น
ภาพภูทับเบิก : www.hellowinter.60เส้นทางความสุข.com
สำหรับหน้าหนาวก็มีสำนวนเก๋ ๆ ที่มีความหมายน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในการเรียนและชีวิตประจำวันได้ตามความเหมาะสม
Cold snap (n.) คือ ปรากฏการณ์ที่อากาศหนาวฉับพลัน หรือฤดูหนาวช่วงสั้นๆ
สำหรับหน้าหนาวในบ้านเราที่มีเพียง 2-3 วัน ยังไม่ทันได้ใส่เสื้อกันหนาว อากาศหายหนาวซะแล้ว
แบบนี้ก็เรียกว่า Cold snap ได้นะ
สามารถนำมาแต่งประโยคได้แบบนี้
ตัวอย่าง : Rose wasn't prepared for the cold snap. All of her coats were still in storage.
โรสยังไม่เตรียมพร้อมรับลมหนาวนี้ เสื้อโค้ทของเธอยังเก็บอยู่ในตู้อยู่เลย
สำนวนนี้หมายถึง การสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย เป็นกันเอง
เช่น การเจอเพื่อนใหม่ที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้เกิดอาการเกร็ง ๆ ดูปิดกั้น เปรียบเสมือนน้ำแข็ง
แต่เมื่อมีคนใดคนหนึ่งชวนคุยเรื่องตลก เฮฮา ก็ช่วยละลายพฤติกรรมให้เปิดใจคุยกันง่ายขึ้น
เหมือนกับการละลายน้ำแข็งนี่เอง วลีนี้ยังใช้ได้ในสถานการณ์ที่เมื่อเราออกไปนำเสนองานหน้าห้องเรียน
หรือการประชุมที่ตึงเครียด แล้วทำการ Break the ice ให้บรรยากาศดูอบอุ่น ผ่อนคลายมากขึ้น
ตัวอย่าง : Ploy breaks the ice at the meeting by talking jokes.
พลอยทำให้การประชุมดูชิลขึ้น ด้วยการเริ่มคุยเรื่องตลก
หมายถึง งานที่ทับถมมาก จนไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไร
เหมือนกับหิมะที่สูงจนท่วมหัว ขยับตัวไม่ได้
ถ้าเปรียบกับสำนวนไทยก็ความหมายเดียวกันกับ ดินพอกหางหมู
ซึ่งสำนวนนี้สามารถใช้พูดคุยเกี่ยวกับงาน การเรียนก็ได้
ตัวอย่าง : I’d love to go shopping with you, but I’m snowed under with housework.
ฉันอยากไปช้อปปิ้งกับเธอใจจะขาด แต่ฉันมีงานบ้านที่ท่วมหัวเลย
อธิบายเพิ่มเติม I’d love to ย่อมาจาก I would love to แปลว่า อยากจะ…..มาก ๆ
หมายถึง อาการไม่รับรู้, ไม่รู้สึกตัว, ไม่ตื่นเต้นกับอะไรทั้งสิ้น
หรือการถูกดึงความสนใจไปเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง คล้ายกับว่าใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
สำนวน in a fog ก็เปรียบเสมือนหมอกควันที่บดบังทัศวิสัยทำให้มองไม่เห็นอะไร
ตัวอย่าง : Judy always seems to be in a fog ; she never knows what's going on.
จูดี้น่าจะไม่รู้สึกตัวอยู่ตลอด เพราะเธอไม่เคยรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย
Put ........ on ice หมายถึง การประวิงเวลาไว้ชั่วคราว หรือพักเรื่องนี้ไว้ก่อน
หากอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ในภาษาพูด ก็คือ เอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที
สำนวนนี้มาจากวิธีการถนอมอาหาร เช่น การวางเนื้อพักไว้บนน้ำแข็งเพื่อให้สดอยู่เสมอก่อนนำมาทำอาหาร
วลีนี้มักได้ยินกลุ่มคนวัยทำงานนำมาใช้กันบ่อย ๆ เมื่อพูดถึงไอเดีย โครงการ ในที่ทำงานต่าง ๆ
ตัวอย่าง : Let’s put this project on ice until we hire more people to work on it.
พักโครงการนี้ไว้ก่อนนะ จนกว่าเราจะรับสมัครคนงานเพิ่มเพื่อมาทำงานนี้
สำนวนนี้นำสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันสุดขั้ว
อย่างความร้อนและความเย็น
อธิบายถึงพฤติกรรมหรือความคิดของคนที่ตัดสินใจไม่ได้
ถ้าเป็นภาษาพูด หมายถึงผีเข้าผีออก, ไม่อยู่กับร่องกับรอย
มักนำไปใช้ในเรื่องของมิตรภาพและความรัก หรือความสัมพันธ์ที่ต้องมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
อย่างเพลง Hot N Cold ของ Katy Perry ที่พูดถึงผู้ชายที่รักง่ายหน่ายเร็ว ใจโลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ตัวอย่าง : I really like him, but I’m confused.
He seems to run hot and cold – one minute he likes me, and the next, he’s ignoring me!
ฉันชอบเขามากนะ แต่ฉันก็รู้สึกสับสน
เพราะเขาดูเหมือนใจโลเล เดี๋ยวเขาก็ชอบฉัน เดี๋ยวเขาก็เมินใส่ฉันซะงั้น!
การใช้สำนวนภาษาอังกฤษแทนการใช้คำพูดตรงๆ ลองเปลี่ยนมาใช้วลีหรือสำนวน มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้การสื่อสารภาษาอังกฤษดู Cool ขึ้นมาอีกเลเวล ซึ่งแต่ละวลีก็มีความหมายแฝงที่น่าสนใจสามารถเลือกใช้ได้ถูกกาลเทศะ
อยากแน่นปึกในเรื่องของสำนวนภาษาอังกฤษมากกว่าเดิม
ชวนมาติวภาษาอังกฤษสุดปังปุริเย้กับคุณครูเลดี้ เก๋เก๋ ใน Smart Idioms
นอกจากการติวสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว
ยังมีเป็นแนวทางในการสอบด้วย
ขอบคุณภาพประกอบและข้อมูล
www.hellowinter.60เส้นทางความสุข.com