“โตมาในบ้านต่างจังหวัดที่ค่อนข้าง conservative ค่ะ มีความสงสัยตั้งแต่เด็กมาตลอดในเรื่องคำสอนจากผู้ใหญ่ในแง่ของความเป็นเด็กผู้หญิง เช่นคนในหมู่บ้านเราจะชอบพูดถึงเด็กผู้หญิงในมุมของการท้องก่อนเรียนจบ ทุกบ้านจะพยายามปลูกฝังลูกในการรักนวลสงวนตัว หรือความสงสัยของเราต่อเรื่องของการมีประจำเดือนซึ่งถือว่าเลือดเป็นสิ่งสกปรก

ขนาดที่บางศาสนาในสมัยก่อนหรือแม้แต่ปัจจุบันเอง ถ้าผู้หญิงคนไหนอยู่ในช่วงมีประจำเดือนก็จะถูกสั่งห้ามเข้าโบสถ์ จนวันหนึ่งเราเข้ามาเรียนสาขาภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ เรารีเสิร์ชเรื่องนี้ในทางประวัติศาสตร์เพื่อจะทำหนังสั้นก็พบว่า ศาสนาคือไอเดียสำคัญที่ควบคุมความ conservative เรื่องเพศและเรื่องประจำเดือน

สำหรับบ้านเราแล้ว ศาสนามีความอภินิหารอยู่มาก เหล่านี้คือสิ่งที่หล่อหลอมให้เราสนใจในศาสตร์แห่งความเชื่อมีผสมไว้ด้วยความแฟนตาซี พูดง่ายๆ คือเราเป็นพวกสายมู”

นี่คือบทสนทนาแรกในการแนะนำตัวเองของ ปูนปั้น กมลลักษณ์ สุขชัย ศิลปินภาพถ่ายร่วมสมัยที่ผลงานของเธอมักจะมากับความเชื่อและศาสนาด้วยเทคนิคของการคอลลาจผ่านตำนานเรื่องเล่า ทว่าสิ่งที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ไม่ใช่เรื่องของภาพถ่ายค่ะ แต่เป็นเคสโทรศัพท์มงคล ผลงานล่าสุดของเธอตลอดในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา

ต้องบอกว่า ถ้านี่เป็นเคสโทรศัพท์สวยงามทั่วไป เราก็คงไม่ติดใจอะไรนัก เพราะทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ก็มีให้เลือกสารพัดสไตล์ แต่ความพิเศษของเคสโทรศัพท์นี้เต็มไปด้วย ความเชื่อ ดวงดาว ราศี ที่ตัวเลขและเทพแต่ละองค์ซึ่งติดตกแต่งอยู่บนเคสนั้นใม่ได้เหมาะกับทุกคน เราต่างมีเทพและตัวเลขที่เหมาะสมต่างกันไป

นอกจากเป็นเด็กต่างจังหวัดที่โตมากับวัฒนธรรมการตีกรอบในความเป็นเพศหญิงซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ปูนปั้นหลงใหลในเรื่องราวของความเชื่อแล้ว อีกปัจจัยที่ทำให้เธอใฝ่รู้และหมกมุ่นในเรื่องเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ คือการที่เธอได้เดินทางไปเมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย เมืองเก่าแก่อายุสี่พันกว่าปีซึ่งเป็นสถานที่เกิดของพระโพธิสัตว์ในพุทธศาสนาหลายองค์

“เราว่าตำนานเก่าแก่ของอินเดียเองมีความน่าอัศจรรย์ มีความแข็งแรงในตัวเอง ตอนขากลับจากอินเดียเราได้สติ๊กเกอร์เทพกลับมาจำนวนหนึ่งก็ลองเอามาทำเคสโทรศัพท์ดู บวกด้วยตัวเราเองเคยป่วยแบบไม่รู้สาเหตุ จะเรียกว่าเป็นเนื้องอกก็ได้ มันเกิดขึ้นที่บริเวณหนึ่งของร่างกาย หมอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจหกเจ็ดครั้งก็หาข้อสรุปไม่ได้ ในหนึ่งปีเราจะมีเนื้องอกนี้อยู่กับเราสักหกเดือน

เราไปหาทุกอาจารย์หมอที่จะหาได้แต่ก็ไม่มีใครฟันธงอะไรให้เราได้เลย ท้ายที่สุดคุณป้ามาเห็นเลขเบอร์โทรศัพท์เรา ซึ่งมี 0 อยู่สองที่ ซึ่งตามหลักเลขศาสตร์พยากรณ์ เขาจะบอกว่าเลขศูนย์คือเลขเนื้องอก

ฟังทีแรกเราก็ไม่เชื่อหรอก จนป้าบอกให้ลองเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ดูไหมเผื่ออะไรจะดีขึ้น ขณะเดียวกันตอนนั้นเราก็ศึกษาเรื่องหินมงคลเพื่อทรีตตัวเองไปด้วยในช่วงกำลังดาวน์ หลังเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ปรากฏ เอ้า เนื้องอกยุบลง ไม่มาอีกเลย จากวันนั้น นอกจากศึกษาเรื่องเทพแล้วเราก็เลยศึกษาเรื่องตัวเลขด้วย”

สองปีก่อน ในช่วงเริ่มต้นสถานการณ์โควิดที่ประเทศเปิด ๆ ปิด ๆ ปูนปั้นหันมาลองหารายได้เพิ่มจากการ ทำเคสโทรศัพท์มงคลขาย นำเสนอออกมาในรูปแบบของงานคอลลาจที่บอกเลยว่าคิวยาวเป็นหางว่าว

เคสมงคลทุกชิ้นคือ งานแฮนด์เมดชิ้นเดียวในโลก ที่ต้องใช้เวลาและการรอคอย เป็นเคสมงคลที่สนุก และเทพที่ดูจะเป็นที่นิยมที่สุดคือพระพิฆเนศ

“คนไทยอาจจะเคยชินกับพระพิฆเนศในฐานะเทพแห่งศิลปะ ในความหมายทางฮินดูยังเป็นเทพแห่งความสำเร็จและการขจัดอุปสรรค อย่างที่อินเดียเองในวันคล้ายวันประสูติของพระพิฆเนศ จะมีพิธีกรรมลอยพระพิฆเนศในแม่น้ำคงคาที่ชื่อ เทศกาลคเณศจตุรถี

ถ้าเป็นลูกค้ากลุ่มที่มาจากสายศิลปะก็เลยจะชอบรีเควสต์พระพิฆเนศกัน หรือบางคนจะขอเป็นพระแม่สุรัสวดี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการแสดง การดนตรี ส่วนตัวเราเองนิยมบูชาพระศิวะ โดยปกติจะเข้าวัดเพื่อบูชาท่านเป็นประจำอยู่แล้ว พระศิวะเป็นเทพแห่งการทำลายสิ่งชั่วร้าย เรามักจะแนะนำให้กับลูกค้ากลุ่มสายงานทนายความและแพทย์”

ใครสนใจเคสโทรศัพท์มงคลเพื่อเสริมความมั่นใจในชีวิต ลองเข้าไปส่องผลงานของปูนปั้นได้ที่อินสตาแกรม Plastic.lunatic บอกไว้ล่วงหน้าเลยว่า ความแพรวพราววิบวับของเคสโทรศัพท์มงคลจะทำเอาคุณหัวใจเต้นแรง