คิด ออก ครั้งนี้ เราพาลัดฟ้าทิพย์ ไปที่ประเทศเม็กซิโกกันค่ะ จะชวนไปดูผู้หญิงชนเผ่าเม็กซิกันกับเรื่องของเสื้อผ้า
เสื้อผ้าที่ว่านี้มาในรูปแบบของชุดผ้ากันเปื้อนที่ได้ถูกออกแบบมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวดแล้วว่า เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้หญิงชนเผ่าเม็กซิกันที่มีความอึด ถึก ทำงานเทียบเท่าผู้ชาย พวกเธอจำนวนมากมีสถานะเป็นหัวหน้าของครอบครัวเสียด้วยซ้ำ
สำหรับพวกเธอแล้ว ชุดผ้ากันเปื้อนชุดเดียวเอาอยู่ทุกสถานการณ์ ถึงไหนถึงกัน ตั้งแต่ตื่นมา ซักผ้า เลี้ยงลูก เข็นรถเข็นออกไปขายเครื่องในย่างในตลาด ซ่อมท่อประปาของหมู่บ้าน รวมไปถึงการสวมใส่เพื่อไปร่วมงานสังสรรค์ในเทศกาลและปาร์ตี้
เวลาที่เราไปประเทศเม็กซิโก เราจะสามารเห็นผู้หญิงชนเผ่าในชุดผ้ากันเปื้อนได้ที่รัฐวาฮากา (OAXACA) ทางตอนใต้ของเม็กซิโก โดยรูปแบบชุดผ้ากันเปื้อนของผู้หญิงแต่ละชนเผ่าในรัฐวาฮากานั้น จะมีความแตกต่างกันในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ
บางกลุ่มเน้นเป็นงานปักดอกกุหลาบดอกโต บางกลุ่มนิยมสีสันแรง ๆ บางกลุ่มมากับโทนสีอบอุ่นละมุนแต่งเติมด้วยดอกไม้ดอกน้อย บางกลุ่มเน้นเฉพาะงานปักมือที่ต้องใช้เวลาปักกันต่อชิ้นไม่ต่ำกว่าสองเดือน นำมาซึ่งธุรกิจของชนเผ่านั้น ๆ ที่หากลูกค้าต้องการชุดผ้ากันเปื้อน พวกเขาจะต้องว่าจ้างตัดกันล่วงหน้าโดยต่อคิวยาวนานประมาณ 3-6 เดือน ฯลฯ ตัวอย่างของรูปแบบชุดผ้ากันเปื้อนที่พูดมาเหล่านี้ ถือเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์สำคัญที่บ่งบอกว่าผู้หญิงเม็กซิกันแต่ละคนนั้น มาจากชนเผ่ากลุ่มใด
อย่างบ้านไหนที่มีลูกสาว ผู้เป็นแม่ก็จะเตรียมเย็บชุดผ้ากันเปื้อนชุดแรกในชีวิตไว้ไห้กับลูกตั้งแต่เล็ก ๆ จนพอลูกสาวอายุได้สักหกเจ็ดขวบ แม่ก็จะมอบชุดสำคัญนี้ให้กับลูกเพื่อเป็นการบอกว่า ถึงเวลาที่เธอจะได้รับรู้สถานะของการเป็นสมาชิกชนเผ่าโดยแท้แล้ว ซึ่งลูกสาวเอง พอโตขึ้นแต่งงาน มีครอบครัว ก็จะส่งต่อชุดผ้ากันเปื้อนนี้ให้กับลูกสาวของเธอ ชุดผ้ากันเปื้อนสำหรับผู้หญิงในรัฐวาฮาก้าจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องแต่งกายสวยงาม แต่ยังถือเป็นมรดกตกทอดชิ้นสำคัญ
ยิ่งถ้าใครมีโอกาสได้ไปเปิดตู้เสื้อผ้าของผู้หญิงในรัฐวาฮากาดูละก็ จะพบว่า ผู้หญิงทุกคนจะต้องมีชุดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้ในตู้คนละไม่ต่ำกว่า 5 ชุด สำหรับการหยิบมาสวมใส่ในหนึ่งอาทิตย์ เพราะบางวันพวกเธอก็อาจจะไม่ได้สวมแค่ชุดเดียว แต่ต้องมีไว้ผลัดเปลี่ยนถึงสองหรือสามชุด ในกรณีที่เธอต้องทำหลายงาน หลายหน้าที่ต่อวัน ซึ่งอาจทำให้ชุดผ้ากันเปื้อนสกปรก
ส่วนถ้าบ้านไหนจัดงานปาร์ตี้ ตัวเจ้าของบ้านเองที่ต้องทำหน้าที่ทั้งรับแขกและทำอาหาร ก็จะสั่งตัดชุดผ้ากันเปื้อนชุดใหม่ที่มากับลายปักอลังการเป็นพิเศษ ไม่ซ้ำใคร สำหรับไว้สวมใส่ในงาน เรียกว่าชุดเดียวใช้ทั้งยืนหั่นหอมหั่นกระเทียมในครัว ใช้ทั้งนั่งจิบไวน์ในสถานะของแม่งานอยู่ตรงโต๊ะอาหารกลางสวน เทียบได้กับหญิงสาวในโลกสากลที่นิยมตัดชุดราตรีชุดใหม่จากร้านเจ้าประจำเพื่อเตรียมไว้เข้างานสังคม เพื่อบอกรสนิยมของตนเอง
ครั้งนึงเรามีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวบ้านของครอบครัวซาราเต ในรัฐวาฮากา ซึ่งเป็นเป็นครอบครัวที่ทำธุรกิจชุดผ้ากันเปื้อน โดยธุรกิจถูกส่งไม้ต่อมาจนรุ่นที่ห้าแล้ว
เราถาม อโรร่า คุณป้าวัย 55 ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจคนปัจจุบันว่า “พอหมดรุ่นพวกคุณแล้ว ลูกสาวคุณก็คงจะเป็นผู้รับช่วงต่อสินะ”
“ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะพ่อแม่ยุคนี้ก็ไม่ได้เห็นความสำคัญว่าต้องให้ลูกสาวใส่ชุดผ้ากันเปื้อนตั้งแต่เล็ก นับวันเด็กสมัยนี้เลยไม่ค่อยผูกพันอะไรกับชุดผ้ากันเปื้อนสักเท่าไหร่ และถ้าถามจริง ๆ ฉันก็อยากให้ลูกฉันได้เรียนหนังสือสูง ๆ มากกว่าที่จะมาสืบทอดกิจการ นั่งขายของอยู่ในตลาด”
ฟังคำตอบของอโรร่าในวันนั้นแล้วก็ได้แต่นึกภาวนาว่า ขอให้วัฒนธรรมการสวมใส่ชุดผ้ากันเปื้อนอย่าหายไปจากสังคมชนเผ่าในรัฐวาฮากาเลย เพราะสำหรับเราแล้ว ชุดผ้ากันเปื้อนของผู้หญิงชนเผ่าในรัฐวาฮาก้าคือมรดกทางวัฒนธรรม คือเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ และที่มาของชาติพันธุ์