“เราควรจะให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลวาฬและโลมาอยู่อาศัยในมหาสมุทรอย่างสงบสุขหรือไม่?”
คน “ยุคนี้” รวมถึงตัวเราที่คุ้นเคยดีกับการรณรงค์เรื่องการดูแลธรรมชาติและพันธุ์สัตว์ทั้งหลายก็คงจะมีคำตอบในใจไม่ต่างกันนัก
หน่วยงานที่โฟกัสเรื่องการรักษ์โลกระดับสากลต่างก็ส่งเสียงไปในทิศทางเดียวกัน อย่างเช่น องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าโลโก้แพนด้าอย่าง WWF (World Wide Fund for Nature) หรือองค์กร Greenpeace ที่มุ่งเป้าไปที่การคงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพและโดยพยายามลดผลกระทบต่อธรรมชาติที่เกิดจากมนุษย์ และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนับไม่ถ้วนต่างก็เคยยกเอาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นเด่น
ยังไม่รวมเรื่องความเชื่อด้านศาสนาปรัชญามากมายที่ยึดหลักความเมตตา การไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไปจนวิธีคิดร่วมสมัยอีกหลายแนวที่ยึดถือวิถีชีวิตแบบลด ละ เลิกการเบียดเบียนชีวิตร่วมโลกเข้าไปอีก
เอาเป็นว่าน่าจะเห็นภาพตรงกันว่าคะแนนฝั่งอนุรักษ์วาฬน่าจะล้นหลาม
อย่างที่สะท้อนออกมาในสารดคีเรื่อง “The Cove” ที่ออกฉายเมื่อปี 2009
เดอะโคฟเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับชาวอเมริกันกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งที่ลอบเข้าไปสืบสวนกิจการการล่าวาฬในประเทศญี่ปุ่น
ก่อนหน้านั้นก็มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวตะวันตกเดินทางมาปักหลักที่เมืองเล็ก ๆ อันห่างไกลเกือบใต้สุดของภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่นนี้แล้ว โดยประกาศชัดต่อชาวบ้านที่มีกันอยู่เพียงไม่กี่พันคนในขณะนั้นว่าพวกเขามาเพื่อปกป้องดูแลธรรมชาติและเหล่าสัตว์ทั้งหลายในท้องทะเลให้พ้นจากเงื้อมมือนักล่าวาฬ
สารคดีเลนส์อเมริกันเรื่องเดอะโคฟดำเนินไปอย่างเร้าใจ ให้ผู้ชมได้ติดตามทีมงานไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงอันตรายในเมืองแปลกหน้า ด้วยความตั้งใจเพื่อที่จะเปิดโปงการล่าวาฬและโลมาอย่างโหดร้ายของชาวญี่ปุ่นให้ทั่วโลกได้เห็น
ภาพขั้นตอนการล่าที่ถูกนำมาเปิดเผยนั้นสร้างความช็อคให้กับทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์มากจนคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมประจำปี 2010 มาครอง
การเข้าชิงและชนะรางวัลจากหลายสถาบันนั้นส่งให้สารคดีเรื่องนี้ยิ่งสร้างแรงกระเพื่อมออกไปได้ไกลแบบข้ามทวีป โดยเฉพาะสร้างคลื่นกระแทกกลับไปถึงเมืองไทจิ จังหวัดวากายามะ เมืองแห่งการล่าวาฬซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำ
“ทรงพลัง สะเทือนใจ” ...แม้แต่ Jay Alabaster นักข่าวผู้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นอย่างคุ้นเคยมาหลายปีก็ยังต้องยอมรับว่าเดอะโคฟตีแผ่อุตสาหกรรมนี้ออกมาได้แบบถึงเป้า เขาสนใจในประเด็นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนเข้าไปสำรวจและถึงกับกลายเป็นผู้อาศัยในเมืองไทจิอยู่ช่วงใหญ่ และก็เป็นหนึ่งในตัวเดินเรื่องของสารคดี A Whale of A Tale นี่เอง
“เรามาในฐานะ “ผู้พิทักษ์อ่าว” (Sea Shepherd – กลุ่มพิทักษ์ทะเล)”
“การไปรบกวน จับ และฆ่าพวกวาฬและโลมาเป็นความป่าเถื่อนและไม่มีอารยธรรม”
“นี่คือประเพณีและมีมานานแล้ว ก่อนอเมริกาจะก่อตั้งประเทศเสียอีก”
“อเมริกาที่กินวัวกินแกะเรียกว่ามีมนุษยธรรมหรือ”
“การล่าโลมาและวาฬไม่ใช่วิถีที่มนุษย์พึงทำ เรามีปศุสัตว์ เช่น วัวและหมู ไก่และไก่งวง และทั่วโลกมีวิธีฆ่าสัตว์เหล่านี้โดยมีมนุษย์ธรรมอย่างเข้มงวด”
“มันคือมุมมองที่บิดเบี้ยวที่โลกตะวันตกมีต่อวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น”
“ไทจิเป็นเมืองล่าวาฬ การล่าวาฬเป็นมรดกตกทอดของเรามา 400 ปีแล้ว
ไม่ถูกต้องที่คนนอกพยายามจะทำลายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเรา”
“ผมเข้าใจเรื่องประเพณีและวัฒนธรรม แต่การที่เราทำบางอย่างมายาวนานไม่ได้แปลว่ามันถูกต้อง ตัวอย่างเช่นการค้าทาส เมื่อถึงจุดหนึ่งมันก็เป็นประเพณีที่จำเป็นต้องยุติลง ถ้าแคว้นคาตาโลเนียเลิกประเพณีสู้วัวได้ และถ้าอังกฤษเลิกการล่าจิ้งจอกได้ ก็แน่นอนว่าชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างญี่ปุ่นจะแสดงความมีเมตตาและเคารพ ด้วยการยุติประเพณีโหดร้ายอย่างการล่าวาฬและโลมาได้ ไทจิจะเลิกธรรมเนียมน่าอายนี้เมื่อไหร่”
“นี่คือปัญหาของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่เรื่องกินเนื้อวาฬ
ไม่ควรมีใครมาบอกว่าคนญี่ปุ่นกินอะไรได้บ้าง”
“เพื่อความอยู่รอด บรรพบุรุษของเราต้องเสี่ยงล่าวาฬตั้งแต่ 400 ปีก่อน
...มีคำพูดที่พูดกันบ่อยว่า “หนึ่งวาฬเลี้ยงเจ็ดหมู่บ้าน” แปลว่าวาฬหนึ่งตัวเป็นอาหารของคนจำนวนมาก
พวกเขากินและใช้ประโยชน์ทุกส่วนของวาฬ ไม่มีอะไรเสียเปล่า”
“ประเทศตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกาและเนเธอแลนด์ต่างหากที่ล่าแบบไม่คิด
พวกเขาเอาเฉพาะชั้นไขมันของวาฬหัวทุยแล้วก็ทิ้งซากที่เหลือลงทะเล”
“เพราะว่าที่นี่คือเมืองของวาฬและการล่าวาฬ เราจึงมีรูปวาฬอยู่ทุกที่เพื่อให้เราเห็นพวกมันอยู่เสมอ
และสำนึกขอบคุณ นี่คือวิธีแสดงออกของพวกเรา”
“พวกฝ่ายขวาคลั่งขาติ”
“ผิดตรงไหนที่เราจะห้ามชมการฆ่าชำแหละสัตว์ มันใช่สิ่งที่ควรจะอวดต่อสาธารณะเหรอ
ชาวต่างชาติพวกนี้หาเงินจากโชว์การฆ่าสัตว์ ซึ่งเป็นการเหยียดหยามสัตว์ยิ่งกว่าอีก”
“สำหรับเมืองไทจิ โลมาก็แค่ปลาตัวใหญ่ แต่โลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลวาฬ พวกมันใกล้เคียงมนุษย์มากกว่าสัตว์”
“โลมามันร้องเพลงเป็น มันสื่อสารด้วยภาษาสัญลักษณ์ได้ และการกินมันไม่ถูกต้อง ในสหรัฐอเมริกาเราไม่กินโลมาหรือวาฬ”
“พวกเขาพยายามจะบอกว่าพวกเขาเคารพและนับถือพวกสัตว์เหล่านี้ แต่ที่เห็นนี้ไม่มีเลย”
“คนญี่ปุ่นเท่านั้นที่จะหยุดเรื่องนี้ได้ ไม่ใช่ชาวตะวันตก เราไม่ได้มาเพื่อหยุดสิ่งนี้ คนสับสนว่าเรามาทำอะไรโครงการโลมาเราเป็นนักท่องเที่ยว เราแค่แบ่งปันข้อมูลและหวังว่าคนที่ซื้อตั๋วเข้าชมโชว์โลมาในอียิปต์หรือตุรกีหรือรัสเซียที่รับโลมาจากที่นี่ไป เราหวังว่าลูกค้าจะไม่ซื้อตั๋วอีก”
“พวกเขาไม่ใช่นักท่องเที่ยว พวกเขามาเพื่อคุกคามเรา
พวกเขาอัปโหลดวีดีโอเพื่อบอกชาวโลกว่า “ช่วยให้เงินเราหน่อย” มันคือธุรกิจ”
“...ต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะปล่อยโลมาพวกนี้ ถ้าพวกเขาบอกตัวเลขมา เราจะพยายามระดมทุนและจ่ายให้เขาปล่อยโลมาไป”
“คุณคิดว่าเรารับเงินที่ได้จากการบริจาคแบบนี้ได้เหรอ”
“...แต่พวกเขาคิดเหรอว่าเงินที่ได้จากการฝึกโลมาเป็นเงินสุจริต นั่นมันผลจากการค้าทาสชัด ๆ”
“โลมาตัวนั้นกำลังจะมีชีวิตขมขื่นเยี่ยงทาส”
“ไทจิเป็นเมืองระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมโชว์โลมา โลมาส่วนใหญ่ที่จับจากทะเล เพื่อไปแสดงโชว์ว่ายน้ำกับโลมามาจากที่นี่เลย ดังนั้นถ้าเรายุติการฆ่าและการขังโลมาที่ตรงนี้ได้ เราก็อาจจะยุติการทำแบบนี้ทั่วญี่ปุ่นและส่วนอื่น ๆ ของโลกได้”
“ที่พิพิธภัณฑ์วาฬไทจิ เราเลี้ยงและจัดนิทรรศการเกี่ยวกับ 7 สายพันธุ์นี้
ทั้งหมดไม่จัดอยู่ในสายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์”
“ญี่ปุ่นจำกัดการจับวาฬเล็กและโลมาอยู่ที่ปีละ 20,000 ตัว
แต่เฉพาะในวากายามะเราจับได้ไม่เกิน 2,000 ตัว
เราไม่คิดว่าการล่าเกินขอบเขตเป็นเรื่องดี เราจึงทั้งล่าด้วยและอนุรักษ์ไปด้วย
ไม่ใช่ล่าจนเกลี้ยงแต่เราล่าอย่างพอเพียงเพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติ”
“นี่ไม่ใช่เรื่องของกลุ่มพิทักษ์ทะเลทะเลาะกับญี่ปุ่น ไม่ใช่ตะวันตกทะเลาะกับญี่ปุ่น นี่เป็นเรื่องของคนที่พยายามปกป้องทะเล”
“กลุ่มพิทักษ์ทะเลจะช่วยคุณขับเคลื่อนเมืองไทจิไปข้างหน้าอย่างมีความหวังได้อย่างไรบ้าง”
“ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ชาวเมืองไทจิตัดสินใจ ไม่ใช่คนนอก คุณสามารถขอถิ่นที่อยู่แล้วค่อยเสนอความคิดเห็น”
“เราอยากคงวิถีชีวิตของเราไว้ พร้อมกับปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
วันนี้ยืนยันว่าทัศนคติที่ต่างกันของเราจะไม่มีวันบรรจบกัน”
นี่คือตัวอย่างความคิดเห็นในสารคดีของทั้งฝ่ายที่ต้องการให้เลิกการกระทำที่ทรมานป่าเถื่อนต่อวาฬและโลมา และฝ่ายที่มองว่าทุกอย่างมีที่ไปที่มาและก็คือวิถีชีวิตที่ปฏิบัติกันอย่างมีหลักการ ไม่ใช่การล่าที่ไร้แบบแผน
ป่านนี้คุณคนอ่านคงส่ายหน้าและบอกว่ารู้แล้ว ๆ ก๊อปมาซะแน่นจนเหมือนคัดเอาทั้งเรื่องมาวางให้อ่านแล้วเนี่ย
ที่โควตมายืดยาวขนาดนี้เพราะในหลายเรื่อง เราไม่สามารถตัดสินอะไรจากการเถียงกันเพียงสั้น ๆ ได้จริง ๆ และมันก็ยังมีเหตุและผลและจุดมุ่งหมายอีกมากที่เป็นปัจจัยให้มุมมองของทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถ “บรรจบกัน” ได้จนถึงปัจจุบัน
ไม่ว่าคุณจะคิดว่าชีวิตหรือวิถีชีวิตสำคัญกว่า เราก็อยากให้ลองไปฟังไปมองในมุมต่าง ๆ ในสารคดีเรื่องนี้ดู และถ้าหากมีเวลาอีกสักหน่อยก็อยากจะให้คิดเล่น ๆ แล้วลองแทนคำว่า “วาฬและโลมา” ด้วยอย่างอื่น
ดูซิ... ว่าคุณจะเลือกคำไหน แล้วคะแนนของคุณเอนเอียงเปลี่ยนฝั่งบ้างหรือเปล่า
“ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้
มนุษย์น่ะไม่สามารถอยู่รอดได้หรอก
หากไม่มีการเสียสละของสิ่งมีชีวิตอื่น”
“เราแค่อยากใช้ชีวิตปกติอย่างคนทั่วไป”
สามารถชมสารคดีเรื่อง “A Whale of A Tale” << คลิก ได้แล้ววันนี้ทาง VIPA.me
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารคดีเรื่อง “The Cove” โดย Louie Psihoyos ทาง wikipedia
บทความเกี่ยวกับที่มาที่ไปเกี่ยวกับการล่าวาฬและโลมาของญี่ปุ่น
เรื่อง : พัดชา เอนกอายุวัฒน์ // ภาพประกอบ : ณภัค ภูมิชีวิน