ALTV All Around
ALTV News
บทความอื่นจาก Thai PBS
ALTV All Around
ALTV News
บทความ Thai PBS
ทำไมถึงชื่อนี้?  รวมเรื่องเบื้องหลังชื่อดังในโลกออนไลน์
แชร์
ชอบ
ทำไมถึงชื่อนี้? รวมเรื่องเบื้องหลังชื่อดังในโลกออนไลน์
15 ธ.ค. 65 • 12.12 น. | 401 Views
ขนาดอักษร : กลาง
ALTV CI

ทุกวันนี้มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนขาดไม่ได้ และกลายเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นั่นคือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในการเสพข้อมูลข่าวสาร ความบันเทิง ช่องทางการสร้างเงิน หรือการติดต่อสื่อสารกัน โดยในปี 2554 ได้มีผลสำรวจจาก We Are Social รายงานว่า

คนไทยใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการอัพเดทข่าวสาร ติดอันดับ 1 ของโลก คิดเป็น 78 % ของผู้ใช้ทั้งหมด

วันนี้ ALTV จะพาไปไขข้อสงสัย และทำความรู้จักกับแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันที่เราคุ้นเคยกันอยู่ทุกวันนี้ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และจะน่าทึ่งมากแค่ไหน ? เริ่มกันเลย

📍Google

บริษัทยักษ์ใหญ่ เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักกับ Google และมักจะมีใครหลาย ๆ คน เคยพูดติดปากกันว่า “อยากรู้อะไรให้ถามกู๋” เปรียบเสมือนจักรวาลของความรู้ เป็นมากกว่ากระเป๋าโดเรม่อนซะอีก ไม่ว่าต้องการข้อมูลอะไร เพียงเข้าไปศึกษาหาข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ ทุกคนอาจจะได้รับคำตอบ และความช่วยเหลืออย่างง่ายดาย และประหยัดเวลามากขึ้น

ที่มาของ Google เกิดจาก แลร์รี เพจ (Larry Page) และ เซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) ร่วมกันก่อตั้งบริษัทขึ้นในวันที่ 4 กันยายน 2541 โดยก่อนที่จะตั้งชื่อบริษัทเป็น Google นั้น ทั้งสองใช้เวลาคิดอยู่หลายวัน จึงมีเพื่อนคนหนึ่งเสนอคำว่า “Googleplex” ซึ่งหมายถึง จำนวนทางคณิตศาสตร์ ที่ใช้เรียกหมายเลข 1 ตามด้วยหมายเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว หรือ 10100 เพื่อแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายของบริษัทที่จะจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล แต่เมื่อถึงเวลาจดโดเมนเนม ทั้งสองกลับจดผิดเป็น Google.com จดกลายเป็นเว็บไซต์ที่ยิ่งใหญ่ในโลกออนไลน์มาจนถึงทุกวันนี้

📍Youtube

เรียกว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มอบความบันเทิงอย่างครบครัน จากเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดังมากมายทั่วโลก และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างตัวตน ที่ใครหลาย ๆ คน ผลันตัวกลายมาเป็น Youtuber และประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน

Youtube ถูกก่อตั้งขึ้นโดย ชาร์ด เฮอร์เลย์ (Chad Hurley) สตีฟว์ เชน (Steve Chen) และ จาร์เวด การิม (Jawed Karim) ซึ่งพวกเขาเป็นเพียงอดีตพนักงานฝึกหัดของบริษัท PayPal เท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาสามารถคิดค้น และพัฒนาจนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยการตั้งชื่อของ Youtube ไม่ได้มีความหมายซับซ้อนมากเกินกว่าที่จะเข้าใจ เริ่มจากคำว่า “You” เปรียบเสมือนครีเอเตอร์ที่คอยสร้างสรรค์เนื้อหา หรืออัปโหลดคลิปวีดีโอลงบนแพลตฟอร์มนี้ ส่วนคำว่า “Tube” มาจากตัวประกอบหนึ่งของจอทีวีสมัยก่อน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลอดภาพในการแสดงผล เพื่อให้เกิดภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เราเห็นบนหน้าจอ ซึ่งอาจมีความคล้ายกันกับการใช้งานของ Youtube ที่อาจเป็นความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เปิดประสบการณ์ใหม่ ในการรับชมวีดีโอเช่นเดียวกับการดูทีวีนั่นเอง และเมื่อเว็บไซต์นี้เปิดตัวได้ไม่นาน บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ได้ทำการซื้อไปในราคา 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2548 และพัฒนาฟีเจอร์มากมาย จนมีผู้เข้าใช้บริการมากเป็นอันดับ 2 ของโลก

📍Twitter

เป็นแพลตฟอร์มที่มาอย่างยาวนาน โดยถูกก่อตั้งเมื่อปี 2006 โดยบริษัท Obvious Corp ในสหรัฐอเมริกา ที่มี แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Patrick Dorsey) เป็นผู้ให้กำเนิดแอปพลิเคชันนี้ ซึ่งคำว่า Twitter มีความหมายที่ตรงตามวิธีการใช้งาน และวัตถุประสงค์ที่ทางบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Tweet” ที่แปลว่า เสียงของนกร้อง นั่นหมายถึง Unified Message ชนิดหนึ่ง ที่เป็นข้อความสั้น ๆ กระชับได้ใจความ เสมือนเป็นการระบายความรู้สึก อารมณ์ต่าง ๆ ของเราได้ตลอดเวลา

จนทำให้ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และยังมีอีกหลายคนที่เพิ่งเริ่มใช้งาน เพราะอาจเป็นกระแสยอดฮิตของคนรุ่นใหม่ ที่หันไปใช้ Twitter ในการอัพเดทข่าวสารที่กำลังเป็นที่นิยม หรือที่เรียกกันว่า “ติดเทรนด์ทวิตเตอร์” นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ ถึงแม้จะส่งข้อความได้อย่างจำกัดตัวอักษรก็ตาม


📍LINE

อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่อยู่คู่ใจของใครหลายคน เรียกว่าต้องมีติดไว้ในมือถือเพื่อใช้ติดต่อสื่อสารแทนการโทรแบบสมัยก่อนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นการติดต่อพูดคุยกับผู้คน ครอบครัว คนรัก หรือที่ทำงาน ได้อย่างครบครัน รวดเร็ว และสะดวกสบายแบบไร้รอยต่อ แถมในปัจจุบันได้พัฒนาฟีเจอร์ให้เล่นมากมายแบบไม่มีเบื่อ แต่กว่าจะมาเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ทั้งโลกได้ขนาดนี้ ไม่ง่ายเลย

ปี 2011 เกิดเหตุการณ์สึนามีที่โทโฮกุ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในขณะนั้นด้านโทรคมนาคมล่มทั้งประเทศ มีเพียงสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้นที่ใช้งานได้ ทำให้ผู้ประสบภัยจำนวนมาก ไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากครอบครัวได้เลย เหตุการณ์นี้จึงเป็นจุดฉนวนให้บริษัท NHN Japan Corporation ได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเวลาคับขันก็ตาม ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย "จุงโฮ ชิน" โดยการตั้งชื่อ “LINE” เกิดจากเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ในการสื่อสารกันได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาแอปพลิเคชันนี้

📍Instagram

อินสตราแกรม หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ไอจี” ย่อมาจากคำว่า Instant + telegram ซึ่งหมายถึง แอปพลิเคชันที่ใช้ในการถ่ายภาพ แต่งภาพ แบ่งปันเรื่องราวให้กับผู้คน โดยจะเน้นแต่งภาพในแนวย้อนยุค เสมือนกล้องโพลาลอยด์สมัยก่อน ที่มีความเก๋ซ่อนอยู่ และถึงแม้ว่าช่วงแรกจะใช้งานได้แค่บน ไอโฟน, ไอแพด และ ไอพอดทัช แต่ปัจจุบันเรียกได้ว่ารองรับได้ทุกระบบจนมีผู้ใช้งานนับล้านทั่วโลก

โดยเริ่มคิดค้นจาก เควิน ซิสตรอม (Kevin Systrom) ที่ใช้เวลาเพียง 8 สัปดาห์ในการสร้าง พัฒนา และคิดค้น จนเป็นแอปพลิเคชันขวัญใจมหาชนที่มีผู้ใช้งานมากมายทั่วโลก ต่อมาในปี 2553 Facebook เข้าซื้อกิจการกว่า 30,000 ล้านบาท ทำให้เขาได้กลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่เพียงข้ามคืน และใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี ในการที่ได้มาโลดแล่นบนเส้นทางความสำเร็จ 

📍Tinder

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ปัดขวา” กันมาบ้าง ซึ่งเป็นคำเกิดจาก Tinder หนึ่งในแอปพลิเคชันหาคู่ที่ได้รับความนิยมระดับโลก ที่สร้างมาเพื่อให้เราได้ค้นหาคนที่ถูกใจโดยการปัดขวานั่นเอง และหากว่าคน ๆ นั้นปัดขวาให้เราด้วยเช่นกัน จะเกิดการจับคู่ที่สำเร็จขึ้น นำไปสู่ประตูด่านแรกในการพูดคุย ทำความรู้จัก จนเกิดเป็นคู่รักบนโลกแห่งความจริงมากมาย

โดย “Tinder” มีชื่อเดิมที่เรียกกันว่า Matchbox ที่เปิดใช้งานภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาที่จะเปิดตัวออกสู่สาธารณะได้ใช้บริการ ผู้ก่อตั้งอย่าง วิตนีย์ โวลฟี เฮิร์ด (Whitney Wolfe Herd) ได้ผุดไอเดียที่อยากจะเปลี่ยนชื่อใหม่ โดยนึกย้อนไปถึงความทรงจำในวัยเด็กที่เคยได้ก่อกองไฟกับคุณพ่อ จึงเป็นจุดเปลี่ยนต้องการให้เป็นเสมือนประกายไฟ และเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ จึงเกิดเป็นแอปพลิเคชันหาคู่ที่ชื่อว่า Tinder ตั้งแต่ปี 2012 และประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน

📍TikTok

เรียกได้ว่ากระแสของ TikTok มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ทั่วโลกถูกล็อกดาวน์ หลายคนต้องอาศัยอยู่แต่บ้าน จนผลันตัวมาเป็น Tiktoker สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดนใจ ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และอาจกลายเป็น “ดาวติ๊กต็อก” เพียงชั่วข้ามคืนเลยก็ว่าได้

TikTok (ติ๊กต็อก) หรือ Douyin (เตาอิน) ที่เรียกในจีนนั้น ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 แต่ยังไม่ได้ความนิยมมากนัก จนได้รับการพัฒนาจากบริษัท ByteDance โดยมีวิศวกรซอฟต์แวร์ชาวจีน Zhang Yiming เป็นผู้คิดค้น เขาใช้เวลาเพียง 200 วัน จนกลายเป็นตำนานในที่สุด มีผู้ใช้งานภายใน 1 ปี มากถึง 100 ล้านคน และแม้แพลตฟอร์มนี้จะเปิดตัวได้ไม่นาน แต่เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นแอปพลิเคชันนี้ เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของคนในทั่วโลกโดยเฉพาะในแทบเอเชียอย่างล้นหลาม

📍Netflix

สำหรับคอภาพยนตร์ หรือซีรีส์ คงไม่มีใครรู้จักกับ เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหนังยอดฮิตที่สุดในโลก ที่รวบรวมสุดยอดเรื่องราวจากทุกที่ไว้มากมาย ด้วยการบริการด้านภาษาที่เข้าถึงคนทั่วโลก และถึงแม้จะมีค่าบริการ แต่หลายคนก็พร้อมที่จะแลกกับการที่ได้รับชมเนื้อหาสนุก ๆ ตามไลฟ์สไตล์บนแพลตฟอร์มนี้ เรียกได้ว่าดูถึงเช้าก็ไม่มีเบื่อ

แต่กว่าจะก้าวสู่การเป็น Netflix ผู้นำบนแพลตฟอร์มที่ติดอันดับโลกได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเริ่มในปี 1997 เปิดตัวจากการเป็นเว็บไซต์ผู้ให้เช่า DVD ที่สามารถยืมผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ และระบบจะจัดส่งให้คุณถึงบ้าน แต่แล้วเกิดปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ รีด ฮาสติงส์ (Reed Hastings) ประธานบริษัทต้องหันมาอุดรอยรั่วด้วยการทุ่มเงินกับระบบ Movie Recommendation จนพัฒนามาสู่การเป็น Netflix ที่เปิดให้บริการครั้งแรกในประเทศแคนาดา และเริ่มเดินทางสู่โลกกว้างมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคำว่า Netflix มีความหมายมาจากคำว่า Net ที่แสดงให้อย่างชัดเจนว่าคือ อินเทอร์เน็ตที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และส่วนคำว่า Flix เป็นคำสแลงมาจากคำว่า Flicks ที่มีความหมายว่า หนัง หรือ ภาพยนตร์ นั่นเอง 

📍VIPA

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคอนเทนต์คุณภาพ สาระความบันเทิงมากมาย พร้อมให้ทุกคนได้เลือกรับชมได้ตามใจชอบ และมีเนื้อหาภาพยนตร์ ซีรีส์ ละคร การ์ตูน และสารดคีทั้งไทย และต่างประเทศ เรียกได้ว่าตอบโจทย์สำหรับคนทุกช่วงวัย

โดย VIPA หรือ VIPA.me เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งจากไทยพีบีเอส และเป็นศูนย์รวมเนื้อหาคุณภาพไว้มากมาย ที่สำคัญดูฟรีแบบไม่มีโฆษณาคั่นให้ขัดจังหวะ ส่วนจุดเริ่มต้นของคำว่า VIPA (วิภา) เกิดจากที่ตั้งขององค์กรที่อยู่บนถนนเส้นวิภาวดีรังสิตแล้ว ยังเป็นคำที่ย่อมาจาก Vision and Passion นั่นเอง เรียกว่าเป็นหนึ่งในบริการ OTT (Over the top) ที่สามารถดูได้ทุกที่ สนุกทุกเวลาแบบไม่มีข้อจำกัด

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย💡

  1. Google มีคำที่คนไทยส่วนใหญ่ค้นหาบนเว็บไซต์นี้มากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่คำว่า Facebook , แปลภาษา, YouTube, ตรวจหวย และ Google
  2. Youtube ช่องทางการสร้างเงิน โดยต้องมีผู้ติดตามช่องของเราอย่างน้อย 1,000 คน และมียอดวิวแบบสาธารณะอย่างน้อย 4,000 ชั่วโมง
  3. Twitter มีผู้ใช้งานที่มียอดติดตามจากคนทั่วโลกมากที่สุด คือ บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยใช้ชื่อบัญชีว่า @BarackObama มีผู้ติดตามมากถึง 131.8 ล้านคน
  4. Instagram เป็นช่องทางที่การทำธุรกิจกลุ่มสินค้าแฟชั่น และความงามที่รุ่งเรืองมากที่สุด
  5. Netflix ไม่มีการให้บริการในประเทศ จีน ไครเมีย เกาหลีเหนือ รัสเซีย และ ซีเรีย
  6. VIPA คือ บริการสตรีมมิงครบครันทุกสาระความบันเทิง ดูได้ทุกที่ทุกเวลา และที่สำคัญดูได้ฟรี ไม่มีโฆษณาคั่น

 

อ้างอิงข้อมูลจาก : The History Now, Thai Were, Thumbsup, Techhub, LUPAS, Marketingoops, vogue, VIPA

แท็กที่เกี่ยวข้อง
#แอปพลิเคชัน, 
#ประวัติความเป็นมา, 
#บริษัท, 
#บริษัทยักษ์ใหญ่, 
#Google, 
#อยากรู้อะไรถามกู๋, 
#กูเกิ้ล, 
#Youtube, 
#Youtuber, 
#Tiktok, 
#Line, 
#IG, 
#Instagram, 
#Twitter, 
#เทรนทวิต, 
#ดาวติ๊กต็อก, 
#ความหมาย, 
#ความหมายของชื่อแพลตฟอร์ม, 
#แพลตฟอร์มออนไลน์, 
#สถิติ, 
#โซเชียลมีเดีย, 
#แอประดับโลก, 
#แอปชื่อดัง, 
#เว็บไซต์ยอดฮิต, 
#โลกออนไลน์, 
#เบื้องหลังความสำเร็จ 
ผู้เขียนบทความ
avatar
PHAKAWAN PHOCHAROEN
PANGRAM
หลงใหลการตั้งแคมป์ในฤดูหนาว คลั่งรักธรรมชาติระดับ 10
ALTV CI
Interest Thing
Interest Thing
ALTV All Around
ผู้เขียนบทความ
avatar
PHAKAWAN PHOCHAROEN
PANGRAM
หลงใหลการตั้งแคมป์ในฤดูหนาว คลั่งรักธรรมชาติระดับ 10
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#แอปพลิเคชัน, 
#ประวัติความเป็นมา, 
#บริษัท, 
#บริษัทยักษ์ใหญ่, 
#Google, 
#อยากรู้อะไรถามกู๋, 
#กูเกิ้ล, 
#Youtube, 
#Youtuber, 
#Tiktok, 
#Line, 
#IG, 
#Instagram, 
#Twitter, 
#เทรนทวิต, 
#ดาวติ๊กต็อก, 
#ความหมาย, 
#ความหมายของชื่อแพลตฟอร์ม, 
#แพลตฟอร์มออนไลน์, 
#สถิติ, 
#โซเชียลมีเดีย, 
#แอประดับโลก, 
#แอปชื่อดัง, 
#เว็บไซต์ยอดฮิต, 
#โลกออนไลน์, 
#เบื้องหลังความสำเร็จ 
แชร์
ชอบ
ติดตามเรา