ALTV All Around
ALTV News
บทความอื่นจาก Thai PBS
ALTV All Around
ALTV News
บทความ Thai PBS
5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ 'พริก'
แชร์
ฟัง
ชอบ
5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ 'พริก'
30 มิ.ย. 66 • 22.30 น. | 423 Views
ขนาดอักษร : กลาง
ALTV CI

ALTV ชวนมาไขความลับความเผ็ดของ 'พริก' พืชผักสวนครัวที่ขาดไม่ได้ในอาหารไทยแทบทุกมื้อ พร้อมบอกข้อดี-ข้อเสียของการกินเผ็ด และวิธีแก้เผ็ดที่ทำแล้วได้ผลเร็ว

ที่มาของ 'ความแซ่บ' มนุษยฺรู้จักพริกได้อย่างไร

ความเผ็ดร้อนของ 'พริก' เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเมนูอาหารของคนหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะบ้านเราที่ติดอันดับท็อปประเทศที่กินเผ็ดที่สุดในโลก แต่ทราบกันหรือไม่ว่า เราอาจไม่ได้ลิ้มลองความเผ็ดร้อนจากพริกเลยก็เป็นได้ ถ้าหาก คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือคนสำคัญของโลกไม่ได้ค้นพบทวีปอเมริกา

 

จากการเหยียบแผ่นดินทวีปอเมริกาครั้งแรกของโคลัมบัสและลูกเรือ ในปี ค.ศ. 1492 พวกเขาได้นำพืชพรรณและเครื่องเทศแปลก ๆ มากมายกลับมายังยุโรป หนึ่งในนั้นก็คือ 'พริกแดง' (Chilli) พืชพื้นเมืองในแถบอเมริกาใต้ที่มีจุดเด่นตรงรสชาติเผ็ดร้อน โดยลูกเรือของโคลัมบัสได้นำพริกแดงเหล่านี้มาเพาะปลูกไว้ที่ประเทศสเปนจนเจริญงอกงามจนกลายเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารที่แพร่หลายในยุโรป หลังจากนั้นไม่นานก็แพร่หลายไปยังประเทศ อินเดีย จีน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างประเทศไทยเราอีกด้วย

 

มีการคาดคะเนว่ากว่าคนไทยจะรู้จักนำพริกมาปรุงอาหาร ก็น่าจะตรงกับช่วงกรุงศรีอยุธยา หรือในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยมีชาวโปรตุเกสที่เข้ามาอาศัยในสยามนำเข้ามามีตั้งแต่ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกหยวก ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นจะเรียกกันว่า 'พริกเทศ' นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่พริกได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมการกินของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน

คนเรากินเผ็ดได้ไม่เท่ากัน

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมบางคนถึงกินพริกได้เป็นเม็ด ๆ โดยไม่สะทกสะท้าน แต่กับบางคนแค่พริกเม็ดเดียวก็ทำเอาน้ำหูน้ำตาไหลได้ ?

 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า 'ความเผ็ด' ไม่นับเป็นรสชาติที่ลิ้นของคนเรารับได้ เพราะลิ้นของคนเรารับรสได้เพียง 4 รสชาติเท่านั้น คือ เปรี้ยว หวาน ขม และเค็ม ส่วนความเผ็ดจากการกินพริกเข้าไปนั้น จัดเป็นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายที่มีสาเหตุมาจาก 'สารแคปไซซิน' ที่พบได้ตามธรรมชาติในพริก

 

สารแคปไซซินจะเข้าไปกระตุ้นหน่วยรับความรู้สึกแสบร้อนในร่างกาย ที่เรียกว่า VR1 (Vanilloid Receptor Subtype 1) ทำให้เรารู้สึกแสบร้อนหรือรู้สึกถึงความเผ็ดขึ้นมา ซึ่งใครจะรู้สึกเผ็ดมากน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนว่าสามารถตอบสนองต่อแคปไซซินได้ไวมากน้อยแค่ไหน ถ้าน้อยก็ย่อมกินเผ็ดได้มากกว่าคนที่มีตัวรับรู้ความรู้สึกไวนั่นเอง

 

นอกจากนี้ ความสามารถในการกินเผ็ดของแต่ละคนขึ้นอยู่กับชั่วโมงบินอีกด้วย เพราะโดยปกติเมื่อร่างกายคนเราถูกกระตุ้นด้วยสารแคปไซซินซ้ำ ๆ ก็มักคุ้นชินและทนทานกับสารแคปไซซินได้มากขึ้น ดังนั้นยิ่งเราทานอาหารรสเผ็ดบ่อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรับมือกับความเผ็ดได้มากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง

 

เบื้องหลังพฤติกรรมเสพติดความเผ็ด

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมการกินเผ็ดที่ทำให้ลิ้นแสบร้อนจนเหงื่อท่วมตัว กลับทำให้เรารู้สึกติดใจจนเลิกไม่ได้ ทั้งที่ดูแล้วน่าจะเป็นการทรมาณตัวเองมากกว่าเสียด้วย ?

 

นักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายคนหาคำตอบจนได้ข้อสรุปว่า ความเผ็ดทำให้คนเรา 'รู้สึกตื่นเต้น' เนื่องจากสารแคปไซซินที่ทำให้เรารู้สึกแสบร้อน จะเตือนให้สมองสั่งการว่าร่างกายกำลังตกอยู่ในอันตราย ซึ่งตามกลไกลปกติของร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกตื่นตัว นั่นคือ อะดรีนาลีน ทำให้เรารู้สึกมีพลัง อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอาการเดียวกันหลังจากคนเราได้ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เล่นกิจกรรมผาดโผนนั่นเอง

 

กินเผ็ดมีข้อดี-ข้อเสีย ต่อร่างกายบ้าง?

นอกจากพริกจะช่วยเพิ่มความแซ่บนัวในอาหารแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมายอย่างที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก 'สารแคปไซซิน' ที่พบในพริกนั่นเอง โดยสารแคปไซซินจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา บรรเทาอาการปวด ชะลอวัยเพราะมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ความเผ็ดร้อนของพริกยังช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร บรรเทาอาการไข้หวัด ลดเสมหะ รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวได้ 

 

แต่ถึงพริกจะมีคุณประโยชน์มากมายอย่างไรก็ตาม แต่การกินเผ็ดที่มากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้เช่นกัน ตั้งแต่ก่อให้เกิดความระคายเคืองเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร นำมาซึ่งการเกิดกรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน ลำไส้อักเสบเรื้อรัง และอาจรุนแรงขึ้นจนพัฒนาเป็นมะเร็งลำไส้ได้

 

นอกจากนี้ ในวารสาร BMJ Case Reports ได้เคยรายงานไว้ว่า การกินเผ็ดในปริมาณมากอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหดตัวของหลอดเลือดหัวใจตีบและอาการหัวใจวายเฉียบพลันได้ ซึ่งเป็นการอ้างอิงมาจากเหตุการณ์ที่ของชายอายุ 34 ปี ได้กินพริก "แคโรไลนา รีเปอร์" (Carolina Reaper) ซึ่งเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก ในงานแข่งขันกินพริกของรัฐนิวยอกร์ก เมื่อในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งหลังจากนั้นได้ 2-3 วัน เขาได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงเฉียบพลัน หรือที่เรียกว่า 'อาการปวดหัวแบบสายฟ้าฟาด' (Thunderclap headache) จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งนับเป็นกรณีแรกที่ทำให้ต้องมีการออกเตือนถึงการบริโภคพริกชนิดนี้

อยากแก้เผ็ดแบบทันที ต้องกินอะไร?

เราเชื่อว่าตัวเลือกแรกที่ใครหลายคนใช้แก้เผ็ดต้องเป็นน้ำเปล่าเย็น ๆ ชื่นใจ หรือไม่ก็น้ำอัดลมหวาน ๆ ซักแก้ว แต่เราคงต้องปรับความเข้าใจกันใหม่ว่า การดื่มน้ำไม่สามารถลดอาการเผ็ดร้อนได้ และอาจทำให้เผ็ดยิ่งขึ้น นั่นเป็นเพราะสารแคปไซซินไม่ละลายน้ำ มิหนำซ้ำจะยิ่งทำให้สารแคปไซซินกระจายทั่วปากมากขึ้นอีกด้วย


ในความจริงแล้วสารแคปไซซินละลายได้ดี ในอาหารจำพวกนมและแป้ง การดื่มนม หรือ รับประทานอาหารจำพวก ข้าว ข้่าวเหนียว ขนมปัง จะเป็นวิธีที่ช่วยให้บรรเทาอาการเผ็ดได้มากที่สุด ละนอกจากอาหารที่กล่าวมายังมี น้ำมะนาว หรือ น้ำมะเขือเทศสด ที่มีภาวะเป็นกรดจะช่วยบรรเทาความเผ็ดร้อนจากสารแคปไซซินที่มีภาวะเป็นด่าง

 

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับพริก เพื่อน ๆ ยังสามารถติดตามรับชมสาระน่ารู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของพริกเพิ่มเติมได้ที่ รายการ สังคมสนุกคิด ตอน พริก ทางเว็บไซต์ ALTV ช่อง 4 ทีวีเรียนสนุก

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
#พริก, 
#ความเผ็ด, 
#วิธีแก้เผ็ด, 
#อาหารเผ็ด, 
#สุขภาพ, 
#ดูแลสุขภาพ 
ผู้เขียนบทความ
avatar
THANATCHA SUVIBUY
นับถือแมวเป็นศาสนา มีไอดอลเกาหลีเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ALTV CI
LearnMore
LearnMore
ALTV All Around
ผู้เขียนบทความ
avatar
THANATCHA SUVIBUY
นับถือแมวเป็นศาสนา มีไอดอลเกาหลีเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#พริก, 
#ความเผ็ด, 
#วิธีแก้เผ็ด, 
#อาหารเผ็ด, 
#สุขภาพ, 
#ดูแลสุขภาพ 
แชร์
ฟัง
ชอบ
ติดตามเรา