ประชากรโลกกว่าครึ่งหนึ่งรับประทาน “ข้าว” เป็นอาหาร โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเราที่ข้าวถือเป็นอาหารจานหลัก ซึ่งนอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ส่วนต่าง ๆ ของข้าวสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เป็นทั้งอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ และผลิตภัณฑ์แปรรูป ต่าง ๆ ในวันนี้ ALTV ได้รวบรวมคุณประโยชน์ดี ๆ จากข้าวที่ไม่ได้เป็นแค่อาหารจากหลักมาฝากกัน

🍚แกลบข้าวสารพัดประโยชน์
แกลบข้าว (Rice Husk) คือส่วนของเมล็ดข้าวที่เหลือทิ้งจากขั้นตอนการสีข้าวเปลือก เป็นส่วนผสมของเปลือกหุ้มเมล็ด ขั้วเมล็ด และกลีบเลี้ยง มีขนาดเล็ก สีน้ำตาล สีเหลืองทองไปจนถึงสีเหลืองอ่อน หลายคนเข้าใจว่าแกลบเป็นสิ่งของเหลือทิ้งไร้ประโยชน์ แต่แท้จริงแล้วแกลบที่ดูไร้ค่านี้ สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้หลายด้านอย่างที่เรานึกไม่ถึง อาทิ
- เชื้อเพลิง แกลบเป็นหนึ่งในพืชที่นิยมนำมาแปรรูปเป็นทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อน หรือที่เรียกว่า ‘พลังงานชีวมวล’ (Biomass Energy) แกลบ 220 ตัน สามารถแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 90-125 kWh หรือ เทียบเท่าความจุแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน นอกจากนี้สามารถนำไปผ่านกระบวนการเผา เพื่อให้ได้เป็น ‘เชื้อเพลิงอัดแท่ง’ สำหรับใช้หุงต้มในครัวเรือน ซึ่งให้ความร้อนได้เทียบเท่ากับฟืนไม้
- วัสดุสำหรับปลูก ลักษณะทั่วไปของแกลบจะมีพื้นผิวที่เต็มไปด้วยรูพรุน สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี จึงนิยมนำมาผสมดินหรือปุ๋ยหมักสำหรับการปลูกไม้กระถาง เพื่อเพิ่มความร่วนซุยและรักษาความชุ่มชื้นของดิน ถือเป็นวัสดุปลูกที่หาได้ง่ายและราคาเป็นมิตร
- วัสดุก่อสร้าง หากนำแกลบไปผ่านกระบวนการเผาซ้ำ ๆ หลายครั้ง แกลบเหล่านั้นจะกลายเป็น ‘ขี้เถ่าแกลบ’ วัสดุที่นำมาใช้ผสมและหล่อแข็งเป็นอิฐสำหรับงานก่อสร้างได้ โดยอิฐที่ได้จาขี้เถ่าแกลบจะมีคุณสมบัติโดดเด่น คือ น้ำหนักเบา หยืดหยุ่นสูงและไม่ดูดความชื้น
- ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบำรุงผิว ประโยชน์ของแกลบไม่ได้เป็นเพียงวัสดุทางการเกษตรเท่านั้น แต่รวมถึงด้านความสวยความงาม แกลบนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางที่ใช้กับร่างกาย เช่น ครีมขัดผิว สบู่บำรุงผิว หรือครีมกันแดด เนื่องจากแร่ธาตุสำคัญอย่าง “ธาตุซิลิกา” (Silica) ที่พบได้ในธัญพืชบางขนิด เช่น ข้าวบาร์เลย์และข้าวสาลี มีคุณสมบัติช่วยเรื่องปัญหาผิวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารกันแดด สามารถใช้ทดแทนการ ‘พลาสติกไมโครบีดส์’ (Microbead) ที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

🍚รำข้าวไม่ได้มีดีแค่ปรุงอาหาร
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของ ‘รำข้าว’ (Rice bran) จากวัตถุดิบปรุงอาหารและอาหารเสริมชั้นดีอย่าง ‘น้ำมันรำข้าว’ รำข้าวที่เราคุ้ยเคยกันนี้คือส่วนเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวที่ได้จากขั้นตอนการขัดสีข้าว มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล เนื้อละเอียด อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น โปรตีน ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุและใยอาหาร นิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมันเพื่อบริโภค และเป็นส่วนผสมเคลือบเงาในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สบู่ ยาหม่อง เทียนไข และเครื่องสำอาง
- น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) รำข้าวอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งกรดไขมันและสารต้านอนุมูลอิสระ นิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมันสำหรับใช้ปรุงอาหารและแปรรูปเป็นอาหารเสริมในกลุ่มคนรักสุขภาพ
- ไขรำข้าว (Rice Bran Wax) คือวัสดุเหลือทิ้งที่ได้จากการสกัด ‘น้ำมันรำข้าว’ นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ต้องการเนื้อสัมผัสเข้มข้น เช่น ลิปสติก ลิปบาล์ม ผลิตภัณฑ์กันแดด ฯลฯ
- อาหารสัตว์ รำข้าวเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน นิยมใช้ในอาหารสุกรหรือสัตว์ปีก

🍚ฟางข้าวสร้างรายได้
ฟางข้าว (Rice straw) คือส่วนของลำต้นข้าวและใบข้าวที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวและนำเมล็ดข้าวออกแล้ว ส่วนใหญ่มักถูกเผาทำลายทิ้งเพราะถูกมองว่านำไปทำประโยชน์อะไรไม่ได้ และขายได้ไม่คุ้มราคา แต่ในความจริงแล้ว ฟางข้าวถือเป็นวัตถุดิบทางการเกษตรที่สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าได้อีกมากมาย อาทิ
- กระดาษจากเยื่อฟางข้าว ฟางข้าวเป็นหนึ่งในวัสดุที่สามารถผลิตกระดาษได้ เกิดจากการนำเศษฝางข้าวมาย่อยสลายให้กลายเป็นเส้นใยและหล่อขึ้นรูปเป็นแผ่นกระดาษ จะได้เป็นกระดาษ ที่มีสีน้ำตาล เนื้อหยาบ สามารถใช้งาน ขีดเขียนได้เหมือนกระดาษทั่วไป
- สีย้อมผ้าจากธรรมชาติ ฟางข้าวที่ได้จากข้าวหลายสายพันธุ์เมื่อผ่านกระบวนการหมักจนเปื่อยและต้มในน้ำร้อน จะได้ออกมาเป็นสีย้อมจากธรรมชาติ ที่สามารถสามารถใช้ทั้งย้อมผ้า ทำงานศิลปะ หรือใช้เป็นสีผสมอาหารที่ไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย
- บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ฟางข้าวยังสามารถแปรรูปเป็นภาชนะบรรจุอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น จาน ชาม แก้ว หรือกล่องข้าวกระดาษ มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ไม่แพ้พลาสติก และปลอดภัยต่อสุขภาพ
- วัสดุคลุมดิน ฟางข้าวนิยมนำมาใช้เป็นวัสดุคลุมดิน ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของหน้าดิน และเมื่อย่อยสายก็จะกลายเป็นเป็นปุ๋ยที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ทำให้พืชผักเจริญเติบโต แข็งแรง

🍚ผิวสวยด้วยน้ำซาวข้าว
เชื่อหรือไม่ว่าน้ำซาวข้าวที่หลายคนมักเททิ้ง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้สารพัดทั้งล้างทำความสะอาดคราบมันและกลิ่นคาวในภาชนะ ใช้รดน้ำต้นไม้ รวมถึงบำรุงผิวพรรณและเส้นผมด้วยการน้ำมาใช้ล้างทำความสะอาดใบหน้าหรือเส้นผม ทั้งนี้ในน้ำซาวข้าวอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 เกลือแร่และ สารเซราไมด์ (Ceramide) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการปกป้องและช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก
นอกจากนี้ งานศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับน้ำซาวข้าวยังตั้งข้อสังเกตว่ามีคุณสมบัติช่วยรื่องการชะลออายุผิว ในงานศึกษา Rice Water: A Traditional Ingredient with Anti-Aging Efficacy เมื่อปี 2018 พบว่า น้ำซาวข้าวมีส่วนช่วยลดการทำงานของ 'เอนไซม์อีลาสเทส' (Elastase) เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการแก่ชราและริ้วรอยบนผิวหนัง ซึ่งเป็นไปได้ว่าน้ำข้าวช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนผิวหนังได้
นอกจากข้าวจะเป็นอาหารเลี้ยงปากท้องของคนไทยแล้ว ยังเป็นพืชที่สามารถสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนไปจนถึงการสร้างรายได้เข้าประเทศ เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับข้าวยังไม่หมดเพียงเท่านี้ รับชมสาระน่ารู้เกี่ยวกับข้าว ได้ที่ รายการ สังคมสนุกคิด ตอน ทำไมคนไทยกินข้าวเป็นอาหารหลัก (คลิก) ทางเว็บไซต์ ALTV ช่อง 4 ทีวีเรียนสนุก
ที่มา: MDPI Open Access Journals ,มูลนิธิเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม (ประเทศไทย) Thaijo