ให้ดอกไม้นำทาง พาไปกินข้าวต้มพุ้ยแปดเซียนสีอัญชัน ที่หุบเขาคนโฉด
“ยศ พรุ่งนี้ฉันจะขับรถขึ้นไปหานะ จะขึ้นไปกินอาหารเช้า”
ฉันบอกยศ เจ้าของหุบเขาคนโฉด จังหวัดเชียงใหม่ ทางโทรศัพท์ หุบเขาคนโฉดเป็นสถานที่ลึกลับ ซึ่งอะไรก็ตามที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ มันจะเกิดขึ้นได้ที่นี่
ข้าวของทุกชิ้นที่อยุ่บนหุบเขาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเสาทุกต้น โต๊ะกินข้าว สัตว์สตาฟฟ์ เฟอร์นิเจอร์ตู้ตั่งเตียงโบราณของนักสะสม หรือแม้แต่รูปปั้นองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม ขนาดสูงกว่าคน ล้วนแล้วแต่ถูกยกขึ้นมาจัดวางบนหุบเขาแห่งนี้ด้วยกำลังคน ไม่เคยใช้รถเครนรถยกอะไรกับใครเขา
สำหรับคนที่ไม่เคยมีโอกาสได้แวะขึ้นมาบนหุบเขาคนโฉดมาก่อน หรือบางคนก็อาจเคยได้ยินชื่อบ้าง แต่ยังไม่เคยรู้จักที่มา หุบเขาคนโฉดตั้งอยู่ในชุมชนสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ถ้าขับรถจากตัวเมืองมายังที่นี่ ก็จะใช้เวลาประมาณ 20 -30 นาที ส่วนคนที่ไม่คุ้นทางก็อาจจะต้องเผื่อเวลาหลง ไว้สัก 15 นาที แต่ช่วงเวลาของการหลงทางที่เกิดขึ้นไม่ต้องกลัวว่าจะเซ็ง จะเบื่อ เพราะธรรมชาติสองข้างทางตลอดเส้นทางของหุบเขาในชุมชนแห่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลิน จนไม่รู้สึกว่าการหลงทางคือเรื่องเสียเวลา
หุบเขาคนโฉดมียศกับกุ่ยเป็นเจ้าของสถานที่ โดยยศ ดั้งเดิมเป็นคนจากเมืองสุพรรณบุรี มาจากครอบครัวไทยแท้ เติบโตในบ้านทรงไทยอายุ 200 ปี แม่ของยศทำงานเป็นผู้คุมนักโทษในเรือนจำ หนึ่งในหน้าที่ความรับผิดชอบของแม่คือการสอนวิชาชีพให้กับนักโทษ ยศถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เล็กจนโตด้วยเรื่องราวของอาหารที่ครอบครัวทำกินกันในบ้านด้วยทักษะและเทคนิกการทำอาหารในแบบฉบับของคนโบราณ กุ่ยเป็นคนจีนแต้จิ๋ว โตมากับวัฒนธรรมการกินการอยู่ในแบบฉบับของคนจีนจากเมืองตรัง
พื้นฐานเดิมของยศกับกุ่ย ก่อนจะมาเป็นหุบเขาคนโฉด ทั้งสองทำธุรกิจขายของเก่าและเป็นนักสะสมของเก่าด้วย เมื่อสิบกว่าปีก่อน เคยเปิดร้านชื่อโกแลนด์ในย่านนิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่
วันหนึ่ง ยศกับกุ่ยเกิดอาการเบื่อเสียงซุบซิบนินทาในกลุ่มวงการพ่อค้าของเก่าที่ประกอบด้วยคนหลายแบบ ทั้งสองซึ่งมีความชื่นชอบในการดูหนังจีนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยตัดสินใจแบบฝ่ายธรรมะในหนังจีน ว่า “เอาล่ะ พอกันที พวกเราจะไปให้ไกลจากพลังงานลบของคนเหล่านั้น ไปอยู่ตามประสาของพวกเราเองดีกว่า”
นั่นเองจึงเป็นที่มาของชื่อ หุบเขาคนโฉด (Badboy Valley)
หลังพาตัวเองอพยพย้ายถิ่นฐานจากชีวิตในเมือง ขึ้นมาสร้างพื้นที่ใหม่บนหุบเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก แวดล้อมด้วยความยิ่งใหญ่ของพลังธรรมชาติที่คอยขับเคลื่อนพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ การเปิดโอกาสให้คนภายนอกได้เข้ามาร่วมเสพในความลับของธรรมชาติก็เริ่มขึ้นในรูปแบบของที่พัก อาหารการกินแบบสุดพลัง และลิฟวิ่งมิวเซียม ที่ใครมาก็ต้องร้อง ว้าว มันเยอะไปหมด ไม่รู้จะมองอะไรก่อนดี
“ให้ดอกไม้นำทาง ดอกไม้คือตัวตั้งต้นโจทย์ให้กับชีวิตของฉัน”
นั่นคือสิ่งที่ยศอธิบายถึงการออกแบบเมนูอาหารในช่วงตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
เราถามยศกลับไปว่า ความคิดเคยตันบ้างไหม?
“ ไม่เลย เพราะดอกไม้ที่นี่บานตลอด และดอกเดิม ๆ ต้นเดิม ๆ ลักษณะการบานในแต่ละวันก็ไม่เท่ากันอีก บางวันแดดออกเยอะ นางก็บานแฉ่ง ถ้าช่วงอากาศหนาว นางก็จะบานแค่พองาม บางวันฝนตก นางก็จะบานเสียจนกลีบนางพัง แต่ก็ยังดูสวยชุ่มฉ่ำ ดอกไม้เหล่านี้คือวัตถุดิบในการนำมาทำอาหารทั้งหมดของเรา เป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นอาหารใหม่ๆ ที่นี่เราเลี้ยงผึ้งด้วยนะ เริ่มจากมันพากันมาเอง จนวันนี้กลายเป็นว่า ที่นี่มีผึ้งเป็นสิบ ๆ รัง โดยที่มันไม่เคยทำร้ายด้วย”
ระหว่างนั่งมองความเคลื่อนไหวในการทำอาหารของยศที่ยืนอยู่ตรงหน้า ในช่วงขณะที่ยศกำลังบรรจงปอกเปลือกอะโวคาโดด้วยน้ำหนักมือที่เบามาก ยศพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อดอกไม้ ฟังแล้ว เรารู้สึกว่ามันคือความจริงใจจากมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่พึงมีต่อธรรมชาติโดยแท้
“ดอกไม้เนี่ย เราต้องรักมันจริง ๆ นะ อย่างดอกไม้ในแจกันหรือดอกไม้ที่เราจัดตกแต่งไว้ตามมุมต่าง ๆ บนหุบเขาคนโฉด เวลาถ้าดอกมันร่วง เราก็จะเอาไปลอยน้ำ จนเวลาที่มันโรย เราก็จะไม่เอาไปใส่ลงถุงขยะดำแล้วทิ้ง ไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดเพราะเรารู้สึกว่าดอกไม้ประกอบด้วยสารอินทรีย์ มันมีชีวิตนะ ถ้าต้องจับดอกไม้ไปไว้ในถุงขยะดำ ดอกไม้ก็คงจะรู้สึกอึดอัด เราเลยใช้วิธีโยนดอกไม้ที่โรยแล้วลงดิน เพื่อให้มันไปเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ต้นอื่นต่อไป มันคือวัฏจักรของชีวิต เราต้องเคารพในชีวิตของมัน”
ถ้าใครเคยมีโอกาสได้มากินอาหารที่หุบเขาคนโฉดมาก่อน ก็คงจะต้องเคยผ่านประสบการณ์การกินอาหารเมนูซิกเนเจอร์ที่ชื่อ น้อยใจยา อันประกอบด้วย เมี่ยงดอกไม้นานาพันธุ์หลายสิบชนิด รวมไปถืงกุหลาบเวียงพิงค์ ซึ่งถือเป็นดอกไม้ชนิดแรกที่ยศนำมาใช้ในการประกอบอาหาร
อาหารของหุบเขาคนโฉดทุกจานล้วนประกอบด้วยชนิดของดอกไม้ที่แตกต่างกันไป และเวลาให้คนงานซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ไปเก็บดอกไม้มานี่ ยศจะกำชับเลยว่า ให้เก็บเท่าที่ใช้ ห้ามเอามาเกินเด็ดขาด ที่เป็นแบบนั้น เพราะไม่อยากให้เด็ดดอกไม้มาใช้แบบทิ้งๆ ขว้างๆ ใช้เท่าที่จำเป็น
ในแต่ละวันที่มีลูกค้าจองมื้ออาหารเข้ามา ยศจะคำณวนไว้ให้คนงานเลยว่า จะต้องใช้ดอกไม้ชนิดใดบ้างและจำนวนกี่ดอก หน้าที่ของคนงานคือถือกล่องพลาสติกที่ถูกแบ่งออกเป็นช่องเล็กๆ ติดตัวไปด้วยเพื่อเก็บดอกไม้เหล่านั้นกลับมาส่งให้กับในครัว
สำหรับเราแล้ว อาหารเช้าวันนี้ถือเป็นมื้ออาหารที่ดีที่สุดในรอบสองปีของเราเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากยศจะทำอาหารเช้าในแบบมังสวิรัติให้กินตามที่เรารีเควสต์แล้ว ครั้งนี้เรายังได้เข้ามานั่งกินถึงในครัวของหุบเขาคนโฉด ซึ่งโดยปกติ พื้นที่นี้ถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว เขาจะไม่ให้คนนอกเข้ามา
อาหารที่ดี เมื่อประกอบด้วยบทสนทนาที่ดีระหว่างผู้ปรุงอาหารและผู้รออาหาร มันก็ช่วยเสริมให้รสชาติอาหารในมื้อนั้น ๆ ยิ่งพิเศษ มีค่า และน่าจดจำ
ชุดข้าวต้มพุ้ยแปดเซียนหุบเขาคนโฉด ถูกจัดมาในถ้วยจานสวยงาม ใบเล็กใบน้อย ในเซ็ตประกอบด้วยข้าวกล้องเกษตรอินทริย์ที่ในช่วงของการต้มนั้นจะต้องใส่ดอกอัญชันจากสวนของหุบเขาคนโฉดลงไปด้วย
“ดอกอัญชันที่ใช้มาจากสวนของเราเอง ถ้าช่วงฤดูหนาว อัญชันจะออกดอกแบบเขียมมากๆ (เขียมแปลว่า น้อย) เพราะดอกอัญชันไม่ชอบความหนาว ดอกที่ออกจะบานไม่มาก สีไม่เข้ม”
“โอย ทำไมสวยแบบนี้” ฉันนั่งรำพึงรำพันกับตัวเองขณะมองสีข้าวต้มอมม่วงจากดอกอัญชัน ที่อยู่ในถ้วย
นอกจากความสวยแล้ว ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์ที่ว่านี้ยังเป็นข้าวที่ยศซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่โดยตรง เมล็ดข้าวมีสัมผัสที่นุ่มสุดชีวิต ยางข้าวเยอะกว่าข้าวโดยทั่วไป ซึ่งยางข้าวอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน
ใครอย่าถามนะคะว่าจะหาซื้อข้าวชนิดนี้ที่ไหนได้บ้าง คำตอบคือไม่มี เพราะเกษตรกรเจ้านี้ปลูกไว้เพื่อขายให้กับหุบเขาคนโฉดเท่านั้น ที่เหลือก็แบ่งไว้กินเอง ในไร่ปลูกข้าวเดียวกันยังมีพื้นที่ปลูกดอกบัวที่ปลูกไว้ให้กับเฉพาะหุบเขาคนโฉดอีกด้วย
“นี่ ลองกินอันนี้ก่อน น้ำผึ้งเดือนห้าใส่เลม่อน และใบสะระแหน่ ส่วนก้อนกลม ๆ นี้คืออินทผาลัมจากอำเภอชัยปราการ หวานธรรมชาติแบบไม่ผสมอะไรเลยนะ”
ในชุดข้าวต้มมังสวิรัติ ประกอบด้วย ยำเกี่ยมไฉ่ใส่ผักชีบ้าน ผสมด้วยพริกขี้นกหุบเขาคนโฉด และน้ำปลาดี ตรากระต่าย 3 ตัว ขึ้นมาบนหุบเขานี้ ถ้าใครเห็นกระต่ายในรูปแบบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะรูปปั้น กระต่ายตัวจริง โมบาย หรือหัวกระต่ายคอสเพลย์ ฯ ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเจ้าของหุบเขาคนโฉดเกิดปีเถาะทั้งคู่ เลยผูกพันกับเรื่องราวของกระต่าย
มาถึงบรรทัดนี้ เราคงไม่ต้องเขียนพรรณาอะไรต่อแล้ว ประโยคปิดท้ายบทความที่เราว่าน่าจะบอกความเป็นหุบเขาคนโฉดได้ตรงที่สุด
‘เมื่อเราให้ความรักกับสิ่งใด สิ่งนั้นจะเจริญงอกงาม’
ติดตามความน่าตื่นตาตื่นใจรายวันของหุบเขาคนโฉดได้ที่ IG : yousi_badboyvalley / จองมื้ออาหารหรือที่พัก 096 789 5619