หลายคนคงคุ้นหน้าตากันดีกับ สนูปี้ (Snoopy) แครักเตอร์สุนัขสีขาวแสนซน จากการ์ตูนช่องสุดคลาสสิกเรื่อง พีนัตส์ (Peanuts) สร้างสรรค์โดย ชาร์ลส์ เอ็ม. ชูลซ์ (Charles M. Schulz) นักวาดการ์ตูนชื่อดังของสหรัฐอเมริกา
พีนัตส์นำเสนอเรื่องราวชีวิตประจำวันของกลุ่มเด็ก ๆ ที่ประกอบด้วย ชาร์ลี บราวน์, ลูซี่, ไลนัส และสนูปปี้ สุนัขพันธุ์บีเกิลที่ในปัจจุบันแทบจะเป็นภาพจำของการ์ตูนเรื่องนี้ไปแล้ว
สนูปี้ เป็นสุนัขพันธุ์บีเกิลสีขาว ที่เติบโตมาจากการเป็นการ์ตูนช่อง Comic Strips ในหนังสือพิมพ์รายวัน ช่วงปี ค.ศ. 1950 โดย ชาร์ลส์ ชูลส์ ผู้สร้างการ์ตูนเรื่อง Peanuts ได้แรงบันดาลใจมาจาก สไปก์ (Spike) สุนัขพันธุ์ผสมตัวโปรดที่เขาเลี้ยงไว้
สไปก์และสนูปี้มีความเหมือนกันในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความขี้เกียจ, ความรักในการนอน, ความอยากรู้อยากเห็น และความไร้เดียงสาตามประสาลูกสุนัขทั่วไป แต่เดิมชาร์ลส์ตั้งใจจะตั้งชื่อตัวละครสุนัขในผลงานของเขาว่า สนิฟฟี (Sniffy) แต่เพราะชื่อนี้ดันไปซ้ำกับชื่อตัวละครในการ์ตูนเรื่องอื่น สุดท้ายจึงลงเอยที่ชื่อ สนูปี้ ซึ่งเมื่อแปลความหมายของชื่อนี้ออกมาแล้ว คำนี้จะมีความหมายถึง การสอดรู้สอดเห็น หรือ การสอดแนม ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของสนูปี้ที่ชาร์ลส์ตั้งใจสร้างขึ้นมานั่นเอง
ชาร์ลส์ตั้งใจออกแบบให้สนูปี้เป็นสุนัขที่มีจินตนาการกว้างไกลเกินสุนัขธรรมดา เราจึงมักเห็นภาพของสนูปี้นอนฝันกลางวันอยู่บนหลังคาบ้านสีแดงของตน และจินตนาการถึงตัวเองในบทบาทต่าง ๆ ตั้งแต่นักบินรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ตามไล่ล่าศัตรูตัวร้ายอย่าง เรดบารอน (Red Baron) การเป็นนักเขียนชื่อดังระดับโลก นักสืบ หรือนักบินอวกาศ
นอกจากนี้ สนูปี้ยังมีงานอดิเรกมากมาย ตั้งแต่การอ่านหนังสือ การเขียนนวนิยาย เล่นเปียโนไปจนถึงสะสมผลงานศิลปะ ซึ่งงานอดิเรกมากมายนี้ สะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการอันไร้ขอบเขต และตัวตนของสนูปี้ที่เป็นมากกว่าสุนัขธรรมดา
การ์ตูนพีนัตส์ได้รับความนิยมสูงสุดมาตั้งแต่ปี 1950-1960 โดยเฉพาะเจ้าสนูปี้ที่ได้กลายมาเป็นไอคอนในโลกแฟชั่นและพ็อปคัลเชอร์ (Pop culture) ที่มีอิทธิพลอย่างมาก สนูปี้ปรากฏอยู่บนสินค้าแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน สิ่งพิมพ์ ของเล่น ของขวัญ และอีกมากมาย
แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายสิบปี แต่ความนิยมในตัวสนูปี้กลับไม่เคยเสื่อมคลาย จากรายงานในปี 2566 โดย NPR สถานีวิทยุข่าวของสหรัฐอเมริกา พบว่า กระแสความนิยมตัวละครสนูปี้ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นในกลุ่ม Gen-Z โดยสินค้าที่มีลวดลายสนูปี้ขายดีจนหมดสต็อกในทั่วประเทศ หนึ่งในสินค้าที่ฮอตที่สุดคือ ตุ๊กตาสนูปี้สวมหมวกไหมพรมสีน้ำเงิน ราคา 13.99 ดอลลาร์ (498 บาท) ซึ่งเป็นสินค้ารุ่นพิเศษของ CVS Pharmacy ที่ได้ขายหมดในทุกสาขาทั่วประเทศ และมีการขายอัพในราคาที่สูงถึง 70 ดอลลาร์ (2,492 บาท) บนเว็บไซต์ออนไลน์
ไม่หมดเพียงเท่านี้ ความคลั่งไคล้ในตัวสนูปี้ ทำให้เหล่าวัยรุ่นยอมเข้าร่วมการบริจาคโลหิตเพื่อแลกกับเสื้อยืดสกรีนลายสนูปี้ ของขวัญที่ระลึกสำหรับผู้บริจาคโลหิต ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง สภากาชาดอเมริกัน (American Red Cross) และแบรนด์พีนัตส์ ที่หวังกระตุ้นกระแสการบริจาคโลหิตในกลุ่มคนรุ่นใหม่
ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ตามรายงานของชมรมกาชาดมหาวิทยาลัยมินนิโซตา (UMNRCC) พบว่า หลังจากการเปิดตัวเสื้อสนูปี้ จำนวนของกลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วมบริจาคโลหิตเพิ่มสูงขึ้นจากปกติ มีผู้บริจาคครั้งแรกร้อยละ 22 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 60 โดยเป็นกลุ่มผู้บริจาคโลหิตรายใหม่มากกว่า 70,000 ราย และมีอายุส่วนใหญ่ต่ำกว่า 35 ปี
ในขณะเดียวกัน บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok และ Instagram ก็เต็มไปด้วยมีม คลิป และภาพของสนูปี้ที่กลับมาโลดแล่นในโลกอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าสนูปี้จะเป็นลูกสุนัขโลกการ์ตูน แต่ข้อคิดดี ๆ ที่แฝงอยู่ในชีวิตประจำวันทำให้สนูปี้ไม่เคยล้าสมัย และยังคงเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม
ถึงแม้ว่าสนูปี้จะถูกออกแบบมาให้มีภาพลักษณ์ที่เรียบง่าย มักใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการนอนฝันกลางวันอยู่บนหลังคาบ้านสีแดง แต่ชาร์ลส์กลับมองว่า สนูปี้เป็นสุนัขที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ไม่ต่างจากมนุษย์ และมีมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัวลึกซึ้งอยู่เสมอ อีกทั้งความมั่นใจเกินตัวของสนูปี้ ยังเป็นคุณสมบัติเด่นที่ทำให้ใครหลายคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเอ็นดูเจ้าสุนัขบีเกิลตัวนี้
ความกล้าฝันของสนูปี้เป็นสิ่งที่ชารล์สคิดมาแล้ว เขากล่าวว่าสนูปี้เป็นเหมือนตัวแทนของใครหลายคนที่มีความฝันอยากเป็นอะไรสักอย่างที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนักบินอวกาศ นักเขียน หรือแชมป์กีฬาระดับโลก
และถึงแม้ว่าสนูปี้จะถูก ชาร์ลี บราวน์ บ่นอยู่บ่อยครั้งจากพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของเขา จนเกิดเป็นวลีดังอย่าง “ทำไมฉันถึงไม่มีสุนัขธรรมดา ๆ เหมือนคนอื่นบ้าง ?” แต่สนูปปี้กลับไม่ได้สนใจ และยังคงใช้ชีวิตอย่างเพ้อฝันต่อไป
สำหรับใครหลายคนสนูปี้จึงเป็นตัวอย่างของคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มากกว่าการแคร์สายตาของคนอื่น รู้จักยอมรับความเป็นตัวเองและภาคภูมิใจไปกับมัน มากกว่า ชาร์ลี บราวน์ ที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองและแคร์สายตาคนรอบข้างมากกว่า
สอดคล้องกับคำพูดของ Gina Huntsinger ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัย Charles M. Schulz ในรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวกับ เว็บไซต์ NPC ไว้ว่า ชาร์ลี บราวน์ เป็นเหมือนตัวแทนของเราทุกคน ที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกผิดหวังและล้มเหลวในแต่ละวัน แต่สำหรับสนูปี้เขาเป็นเหมือนฮีโร่ ที่สามารถรับมือกับทุกปัญหาด้วยจินตนาการอันล้ำเลิศ เขาไม่เคยยอมจำนนต่อกฎเกณฑ์หรือความคาดหวังของคนอื่น และใช้ชีวิตอย่างอิสระตามแบบฉบับของตัวเอง เขาคือตัวละครที่ทุกคนล้วนอยากเป็น
"ชาร์ลี บราวน์" อาจเป็นตัวแทนของเราทุกคน ที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกผิดหวังและความล้มเหลว แต่สำหรับสนูปปี้เขาเป็นเหมือนฮีโร่ ที่สามารถรับมือกับปัญหาด้วยจินตนาการอันล้ำเลิศ เขาไม่เคยยอมจำนนต่อกฎเกณฑ์หรือความคาดหวังของคนอื่น และใช้ชีวิตอย่างอิสระตามแบบฉบับของตัวเอง เขาคือตัวละครที่ทุกคนล้วนอยากเป็น ”
สำหรับใครหลายคนสนูปปี้จึงอาจไม่ใช่แค่ตัวละครหนึ่ง แต่เป็นแรงบันดาลใจ ที่สอนให้รู้จักรัก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง ด้วยเหตุนี้สนูปปี้จึงเป็นตัวละคนที่ยังคงครองใจผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้
ที่มา : NPR, Newyork Post, peanuts.com