เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบรรยากาศของสถานที่ต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้สัมผัสถึงความสวยงามในมุมมองที่แตกต่างออกไป การท่องเที่ยวแบบ 'น็อคทัวริซึม' (Noctourism) หรือ การท่องเที่ยวยามค่ำคืน จึงกลายเป็นเทรนด์ของนักเดินทางในปีนี้
จากผลการสำรวจแนวโน้มการท่องเที่ยว โดย Booking.com จากการสอบถามนักเดินทางกว่า 27,713 คน ใน 33 ประเทศ ชี้ให้เห็นว่า 'การท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์' เป็นหนึ่งในกิจกรรมมาแรงเป็นอันดับต้น ๆ โดย 72% ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการดูดาวสักครั้งหนึ่งในชีวิต
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการตั้งแคมป์ในป่า การชมปรากฏการณ์แสงเหนือ นั่งรถชมเมืองในเวลากลางคืน สวนสัตว์กลางคืน (์Night Safari) และการเยี่ยมชมเทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night Museum)
โดยเหตุผลที่นักเดินทางหลายคนหันมาเที่ยวในช่วงกลางคืนนั้น ก็เพราะต้องการหลีกเลี่ยงแสงแดดและอากาศที่ร้อนอบอ้าวในตอนกลางวัน ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น แถมยังได้สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกไปอีกแบบ
ความเครียดและความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบ ปราศจากคนพลุกพล่าน กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวหลายคน แทนการเดินทางฝ่ารถติดและผู้คนมหาศาลเพื่อไปเช็คอินยังจุดแลนด์มาร์คหรือสถานที่ยอดนิยม ที่อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้การท่องเที่ยวแบบ 'Destination Dupes' หรือ 'จุดหมายปลายทางแฝด' กลายเป็นกระแสในกลุ่มนักเดินทางรุ่นใหม่ โดยคำว่า 'Destination Dupes' คือการผสมคำระหว่าง Destination ที่แปลว่า 'จุดหมายปลายทาง' และคำว่า Dupes ที่ย่อมาจาก Duplicate แปลว่า การสำเนา, การจำลอง เมื่อรวมกันแล้วจะหมายถึง การไปยังสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่สามารถมอบประสบการณที่ใกล้เคียงกับจุดท่องเที่ยวยอดนิยมได้ ซึ่งส่วนมากมักจะมีผู้คนน้อย และราคาถูกกว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
ในปี 2025 นี้เป็นปีแห่งนักท่องเที่ยวกลุ่มวัยเกษียณ ที่ต้องการท้าทายอายุด้วยการเดินทางท่องเที่ยว เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยเกือบ 1 ใน 4 หรือประมาณ 23% ของผู้สูงอายุ ให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวแบบผจญภัย (Adventure) โดยมีเหตุผลหลัก ๆ คือ ต้องการท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง
ซึ่งกิจกรรมที่อยู่ใน Bucket List ของกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัยนี้ จึงมักเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ เช่น การขี่ม้า, พายเรือแคนนู การเดินป่าและปีนเขา เป็นต้น
ในการจัดทริปแต่ละครั้ง เราอาจไม่ต้องเกี่ยงกันว่าใครต้องเป็นคนหาข้อมูลอีกต่อไป เพราะเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคตชี้ให้เห็นว่า นักเดินทางรุ่นใหม่มีแนวโน้มใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อลดระยะเวลาในการวางแผนการเดินทางมากขึ้น
ซึ่งจากผลการสำรวจของบริษัทเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวอย่าง Amadeus พบว่า ภายในปี 2024 ลูกค้าเกือบครึ่งหรือราว 50% ใช้ AI สร้างสรรค์แพ็คเกจท่องเที่ยวที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล ไปจนถึงการใช้ AI ค้นหา เปรียบเทียบข้อมูลที่พัก ราคาตั๋วเครื่องบิน และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ในปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาโลกร้อน และสภาพอากาศแปรปรวน นอกจากความสวยงามและกิจกรรมที่น่าสนใจแล้ว สภาพอากาศจึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักท่องเที่ยวใช้ในการตัดสินใจเลือกสถานที่พักผ่อน ซึ่งในขณะนี้ การท่องเที่ยวในประเทศที่มีฤดูหนาวยาวนาน และอากาศเย็นสบาย ที่เรียกว่า 'Coolcation' กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวประเทศฝั่งตะวันตก ที่ฤดูร้อนในแต่ละปีมีทีท่าว่าจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
โดยคำว่า Coolcation เป็นการผสมคำระหว่างคำว่า 'Cool' ที่แปลว่าเย็น เข้ากับ 'Vacation' ที่หมายถึงวันหยุด ซึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวส่วนมากก็หนีไม่พ้นประเทศในภูมิภาคนอร์ดิก ที่ขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็น โดยกิจกรรมที่พวกเขาสนใจมีตั้งแต่การชมหิมะ การตั้งแคมป์ และการเล่นสกี
Scott Dunn บริษัทให้บริการทัวร์สัญชาติอังกฤษ ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว BBC ว่า เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา พบว่าการจองที่พักในประเทศฟินแลนด์และนอร์เวย์เพิ่มขึ้นถึง 26% และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากที่มุ่งหน้าไปยังยุโรปตอนเหนือ ซึ่งมีอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส เท่านั้น
เมื่อกลุ่มชาวมิลเลนเนียลที่ในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่วัยกลางคน กระแสการท่องเที่ยวแบบโหยหาอดีต หรือ 'Nostalgia Travel' ได้กลายเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงของนักเดินทางรุ่นใหม่ ที่อยากสัมผัสกับความรู้สึกสนุกสนานในวัยเด็กอีกครั้ง
จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวแบบย้อนอดีต มักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างความทรงจำดี ๆ ในวัยเด็ก หรือสถานที่ที่เคยไปกับกลุ่มเพื่อนวัยเรียน ที่ทำให้ย้อนนึกถึงความหลัง
จากข้อมูลของ Globetrender บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และทำนายเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคต ระบุไว้ว่า สถานที่ท่องเที่ยวอย่างค่ายฤดูร้อนสำหรับผู้ใหญ่ และพิพิธภัณฑ์ของเล่นย้อนยุคทุกประเภทในสหรัฐอเมริกามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่านอกจากความชื่นชอบแล้ว หลายคนอาจกำลังมองหาสถานที่ที่เปรียบเสมือน 'เซฟโซน' เพื่อกลับไปสู่ความคุ้นเคย และความสนุกในวัยเด็ก ที่ช่วยให้พวกเขารู้สึกสงบและผ่อนคลาย
ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องกับกระแสความนิยมเสื้อผ้าและของมือสอง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาสไตล์ที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร ซึ่งกระแสความนิยมนี้ยังส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีกลิ่นอายย้อนยุค การตกแต่งแบบวินเทจ กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น บ้านยุคเก่าที่ดัดแปลงมาเป็นคาเฟ่ โรงแรมที่พักที่ตกแต่งสไตล์วินเทจ ตรอกซอกซอยย่านเมืองเก่า ร้านค้าวินเทจ (Thrift Shop) หรือร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานาน
การท่องเที่ยว ไม่ว่าสไตล์ไหน ทุก ๆ การเดินทางคือบทเรียนที่ไม่มีวันสิ้นสุด และเต็มไปด้วยเรื่องราวใหม่ ๆ ติดตามการท่องเที่ยวที่จะพาคุณเปิดมุมมอง สัมผัสประสบการณ์ และเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ใน "โลกกลม ๆ กับครูสังคมของหนู" ทางเว็บไซต์ ALTV :