ก่อนอื่นเลยคุณต้องขอบคุณตัวเองที่ได้กดเข้ามาอ่านบทความนี้ เพราะนอกจากจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นของบุคคลที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย!!
ในช่วงเดือนแรกของปีแบบนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากจะเลิกนิสัยเสียของตัวเอง เพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความขี้เกียจ ความเฉื่อยชา ที่ว่า "เดี๋ยวค่อยทำ" แล้วผลัดออกไปเรื่อย ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณขาดความกระตือรือร้น ไม่ว่าจะในด้านไหนก็ตาม อะไร ๆ ก็ดูยุ่งเหยิงและไม่เสร็จสักที
การผัดวันประกันพรุ่ง เป็นนิสัยที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อสิ่งที่คุณกำลังจะลงมือทำนั้นดูยากเย็น ทำให้ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี คุณก็อาจไปทำอย่างอื่นที่ง่ายและสบายกว่า หรือผลัดมันออกไปวันแล้ววันเล่า ซึ่งสิ่งนี้กำลังฆ่าความฝันของคุณทางอ้อม มีผลเสียมากมายกว่าที่คุณคิด หากทำจนเป็นนิสัย คุณจะไม่มีวันประสบความสำเร็จในชีวิตนี้ได้เลย เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำคือ จัดการมันเดี๋ยวนี้ หากคุณยังคงต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายอยู่!
มาเช็คพร้อม ๆ กันทีละข้อ ว่าพฤติกรรมของคุณเข้าข่ายคนผัดวันประกันพรุ่งไหมนะ?
เมื่อเรารู้ตัวว่าเราเข้าข่ายนิสัยประเภทนี้ สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ในการจัดการนิสัยเหล่านี้ เป็นการต่อสู้กับตัวเองเพื่อตัวเอง! โดยการใช้ 7 เทคนิคนี้
1.ตัดเรื่องเสียสมาธิ
สิ่งนี้จำเป็นอย่างมาก หากอะไรที่กำลังเบี่ยงเบนความสนใจของคุณอยู่ขอให้ตัดออกไปให้หมด ต่อให้จะต้องเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงานก็จำเป็นและเป็นผลดี เพื่อเป็นการปรับอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ในโหมดที่จะสามารถทำงานได้มากขึ้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ว่าหากคุณจะต้องการลดน้ำหนัก และคุณเป็นคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ คุณก็ไม่ควรนำขนม ลูกอม ของหวานไว้ใกล้ ๆ ตัว สิ่งที่คุณมีข้างกายควรจะเป็นผลไม้ เพื่อให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนักได้
2.ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ
หลังจากบรรลุเป้าหมายได้แล้ว ก็ควรที่จะให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ กับตัวเองบ้าง เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองในการทำงาน และรอคอยที่จะได้สิ่งนั้น เช่น หากทำงานเสร็จแล้ว สามารถออกไปเจอเพื่อนได้ หรือทำสิ่งที่อยากทำเพื่อผ่อนคลายได้ วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการสร้างแรงจูงใจในการลงมือทำที่ดี
3.พักทำสิ่งที่เพลิดเพลินบ้าง
ขณะที่เราดูละครยาว ๆ ยังมีช่วงโฆษณาที่ใช้คำว่า "พักชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่" แล้วทำไมกับการทำงานจะมีไม่ได้! เวลาที่เราทำงานยาว ๆ ติดกันเป็นเวลานานก็จะเกิดอาการเบลอ ๆ มึน ๆ บ้าง กำหนดเวลาพักให้กับตัวเองให้ทำสิ่งที่เพลิดเพลิน แต่ก็ควรแน่ใจว่าจะไม่เกินเวลาที่กำหนดไว้โดยเด็ดขาด
4.สร้างบรรยากาศไม่ให้น่าเบื่อ
เมื่อไหร่ที่งานของคุณเป็นงานที่ทำซ้ำไปซ้ำมา แน่นอนว่าเราอาจเกิดอาการเบื่อสิ่งที่ทำ ความเบื่อก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทุกอย่างล่าช้ากว่ากำหนด เพราะฉะนั้น ต้องทำให้งานน่าดึงดูดใจมากขึ้นสักหน่อย เช่น เวลาใช้ความคิดอาจเปิดดนตรีคลอไปด้วย เพราะการเปิดเพลงจะสามารถทำให้ร้องตามได้ สั่นขาไปตามจังหวดเพลง ทำให้เราตื่นตัว หรืออาจใส่ความคิดสร้างสรรค์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปในงานเพื่อให้เกิดความท้าทายและตื่นเต้น
5.พูดคุยหาแรงบันดาลใจ
บางครั้งคนเราก็ต้องหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองเพื่อให้ทำสำเร็จ การหาตัวช่วยไม่ได้เป็นเรื่องแย่เสมอไป อย่างการพูดคุยกับคนที่เพิ่งทำงานนั้น ๆ ลุล่วงไปสำเร็จแล้ว ก็อาจเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจทำให้คุณไปถึงเป้าหมายได้
6.ลงโทษตัวเองหากทำไม่สำเร็จ
ลองตั้งเงื่อนไขให้ตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น หากไม่เข้าฟิตเนสวันนี้จะอดดูทีวี หากกินของทอดจะต้องออกกำลังกายเพิ่ม 30 นาที เพื่อให้มีระเบียบวินัยในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ และเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับตัวเอง แต่หากพูดกับตัวเองแล้วยังแอบนอกลู่นอกทางอีกละก็ ลองมาดูข้อต่อไปกันดีกว่า
7.ประกาศความตั้งใจให้คนอื่นรู้
ลองบอกความตั้งใจหรือแผนที่ได้วางไว้ ให้ทุกคนได้รู้เพื่อให้แน่ใจว่าตัวคุณจะไม่กลับคำพูด พวกเขาจะรู้ว่ามีแผนที่วางไว้ และเพื่อน ๆ อาจช่วยผลักดันและเป็นแรกกระตุ้นให้ทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จ อีกทั้งเมื่อเราได้ประกาศความตั้งใจไปแล้ว ลึก ๆ คุณจะมีความกลัวเสียศักดิ์ศรี ซึ่งเรื่องนี้ถือได้ว่าเสียกันไม่ได้เลยที่เดียว (ฮ่า ๆ)
ทั้งหมดนี้คือวิธีการจัดการกับนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง และเป็นหนึ่งเทคนิกเล็ก ๆ ที่ชาว ALTV สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องในโอกาสเดือนแรกของปี 2022 ขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จที่ตั้งเอาไว้ในปีนี้ หรือใครกำลังอยากพัฒนาตัวเอง ก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นไปได้ แต่อย่ากดดันจนเกินไป ไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร แค่แข่งกับตัวเอง ชนะตัวเอง คุณก็เป็นคนเก่งที่สุดแล้ว ^_^