กระแสพุ่งแรงจนฉุดไม่อยู่จริง ๆ กับ “ละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดี” ที่นำแสดงโดย ตังตัง นัฐรุจี วิศวนารถ ก็อต จิรายุ ตันตระกูล และหนุ่มเมียนมามาดเซอร์อย่าง "เดาง์" ที่รับบทเป็น  เมียวดี มินจี อูสะ พร้อมกองทัพนักแสดงอีกมากมาย บอกเลยว่า ทุกฉาก ทุกตอน เรียกกระแสให้คนทุกอยากดูต่อกันเลยทีเดียว

พอได้ดูแล้วอยากแนะนำทุกคนที่สนใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของพม่า และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-พม่า ให้ดู “ละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดี” เลย เพราะเราจะได้สาระความรู้แบบไม่รู้ตัวเลยจริง ๆ เป็นแหล่งความรู้ที่สื่อสารผ่านเรื่องราวละครที่สอดแทรกมากับความบันเทิงที่ดูไปสนุกไปแบบไม่มี Nonstop อย่างแน่นอน

ดูละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดี

จบปุ๊บ ได้ 5 สิ่งนี่ปั๊บ

1.ได้เรียนรู้ถึง 3 ภาษา

แน่นอนว่าการดูละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดีจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป เพราะเรื่องนี้เราจะได้เรียนรู้ถึง 3 ภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยโบราณ ภาษาอังกฤษ และภาษาเมียนมา แต่พอฟังภาษาเมียนมาบ่อย ๆ แอบคล้ายภาษาเกาหลีเหมือนกัน เรียกได้ว่าสนุกครบเลยทีเดียว

ภาษาไทยโบราณ

พ่ะย่ะค่ะ หมายถึง คํารับหรือคําลงท้ายที่ผู้ชายใช้เพ็ดทูลพระราชวงศ์ที่ดํารงพระยศเจ้าฟ้า

เพคะ หมายถึง คำรับหรือคำลงท้ายที่ผู้หญิงใช้เพ็ดทูลเจ้านายตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป

ภาษาอังกฤษ “What did make you this?” แปลว่า อะไรบันดาลใจทำให้คุณทำอาหารจานนี้ได้

ภาษาเมียนมา(พม่า) โยเดีย หรือ โยดะยา ภาษาพม่าเขียนเป็น ယိုးဒယား ซึ่งตามสำเนียงพม่านั้น เป็นการออกเสียงเรียกชื่อเดิมของกรุงศรีอยุธยา หรือ อโยธยา คำว่า “โยดะยา” หรือ “โยเดีย”

2.ได้เห็นมุมมองอื่น ๆ ที่ทำให้คุณอาจเปลี่ยนความคิด

จากละครเรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นมุมอื่น ๆ อีกมากมายของประเทศเมียนมา ตอนเด็ก ๆ ที่เราเคยเรียนวิชาประวัติศาสตร์ สิ่งที่เราเล่าเรียนมานั้น อาจจะเน้นแค่เรื่องศึกสงคราม อยุธยาถูกทำลาย ไทยกับพม่าเป็นคู่สงครามกัน แต่สิ่งที่เราจดจำมานั้น ละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดีนี้ อาจจะทำให้เราได้เห็นมุมมองอื่น ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ว่าได้นะ

3.ได้เห็นศิลปวัฒนธรรมผสมผสานระหว่าง ไทย-พม่า

การดูละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความบันเทิงเท่านั้น เรายังจะได้เห็นศิลปวัฒนธรรมที่ผสมผสานของประเทศไทย และประเทศเมียนมาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น จิตรกรรมบ้านเมือง วัฒนธรรม รวมไปถึงการแต่งกายของชาวเมียนมา และที่สำคัญยังได้เห็นศิลปะการร่ายรำ "อิเหนาฉบับเมียนมา" อีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าจะหน้าตาจะเป็นอย่างไรต้องตามไปดูแล้ว!!

4.ได้รู้จักอาหารพื้นบ้านของเพื่อนบ้าน(เมียนมา)

      ในการดูละครเรื่องนี้ นอกจากซึมซับวัฒนธรรมของชาวเมียนมาแล้ว เรายังได้รู้จักอาหารพื้นบ้านที่สุดแสนจะน่ากิน เมนูนั้นก็คือ “โมฮิงกา” เป็น อาหารสุดฮิตของชาวพม่า จนเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติ ถ้าพูดถึงอาหารเมียนมา ทุกคนต้องยกให้เป็นโมฮิงกาเป็นอย่างแรก

5.ได้ความอินเปรียบเสมือนอยู่ในสถานการณ์จริง ๆ

เพราะด้วยการถ่ายทำละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดีนั้น ทุกฉาก ทุกตอน ภาพสวย วิวดี ทำเอาชวนย้อนยุคไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น วัดมหาเตงดอว์จี (Maha Tendawgyi) ที่ตั้งอยู่ที่เมืองสะกาย (Sagaing) อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมัณฑะเลย์มากนัก

วัดแห่งนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างขึ้นโดยใครและเมื่อใด แต่มีหลักฐานที่กำลังมีการพิสูจน์ว่า อาจจะเป็นฝีมือของเชลยไทย ที่ถูกพม่ากวาดต้อนมาเมื่อคราวเสียกรุง ถ้าใครได้ดูแล้ว รับรองต้องอยากเป็นสืบค้นเรื่องราวประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน

ละครจากเจ้าพระยาสู่อิรวดี ต้องยกให้เป็นละครน้ำดีของปี 2022 เลยล่ะ เพราะ Production ไม่ว่าจะเป็นภาพ แสง สี เสียง เครื่องแต่งกายสวยงามพิถีพิถันทุกขั้นตอน องค์ประกอบต่าง ๆ ยังอ้างอิงถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ชวนน่าค้นหา

อยากให้ทุกคนไปดูกันเยอะ ๆ รับรองจะได้ความรู้แบบฟรี ๆ โดยไม่ทันตั้งตัว เผลอไปอีกทีดูจบเป็น EP ซะแล้ว ดีขนาดนี้ ติดตามและสนับสนุนผลงานของคนไทยกันด้วยนะคะ สนุกไม่แพ้ต่างชาติแน่นอน

🔸ติดตามชมละคร จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี ได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยพีบีเอส #ช่องหมายเลข3 รับชมอีกครั้งทาง www.VIPA.me

📍ชมสดออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live

🔸facebook.com/thaipbsdrama

🔸www.facebook.com/ThaiPBS

📍 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง www.thaipbs.or.th/Irrawaddy