ALTV All Around
ALTV News
บทความอื่นจาก Thai PBS
ALTV All Around
ALTV News
บทความ Thai PBS
เคล็ดลับการอ่าน "ฉลากกาแฟ" ที่คอกาแฟควรรู้
แชร์
ชอบ
เคล็ดลับการอ่าน "ฉลากกาแฟ" ที่คอกาแฟควรรู้
13 มี.ค. 65 • 11.00 น. | 9,072 Views
ขนาดอักษร : กลาง
ALTV CI

เมื่อพูดถึง "กาแฟถ้วยโปรด" หลายคนมักชื่นชอบใน "กลิ่นอันหอมกรุ่นและรสชาติกลมกล่อม" ที่คอกาแฟมักดื่มเพื่อเติมพลังชีวิตในทุก ๆ วัน ไม่เพียงแต่ความสุนทรีย์ที่ได้จากการดื่มกาแฟแล้ว ความรู้สึกสดชื่นที่มาจากสารคาเฟอีนในเมล็ดกาแฟ ยังช่วยให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า อารมณ์ดี อีกทั้งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความตึงเครียด บางรายที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ ยังพบว่าคาเฟอีนในกาแฟยังช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้ในปริมาณที่พอเหมาะ

 

โดยปกติกาแฟ 1 แก้ว จะให้ปริมาณคาเฟอีนตั้งแต่ 80 มิลลิกรัม ไปจนถึง 100 มิลลิกรัม ซึ่งใน 1 วันไม่ควรได้รับเกิน 200 มิลลิกรัม คือไม่เกิน 3 แก้วต่อวัน เพราะดื่มมากเกินไป จากความผ่อนคลายจะกลายเป็นความเครียดทันที คุณจะรู้สึกปวดหัว กระวนกระวาย ใจสั่น นอนไม่หลับ และหากได้รับเกินกว่า 1,000 มิลลิกรัม จัดว่าเป็นพิษต่อร่างกายรุนแรง

 

คาเฟอีน ไม่ใช่สารเดียวที่พบในเมล็ดกาแฟ แต่ยังมีวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ดื่ม อย่างวิตามินอี และวิตามินบี 3 ที่มีส่วนช่วยชะลอวัย (ต่อต้านอนุมูลอิสระ) เสริมความจำดี และลดไขมันในเลือด ซึ่งในกาแฟสดที่ได้จากเมล็ดกาแฟคั่วจะให้สารต่าง ๆ ได้มากกว่าการดื่มกาแฟสำเร็จรูป

 

หากคุณคิดจะเริ่มซื้อกาแฟมาชงดื่มเองที่บ้านเพื่อให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อมในแบบที่เคยดื่มในร้าน อาจต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลมากมาย กว่าจะได้กาแฟที่ถูกใจ ด้วยเหตุนี้ ALTV จึงมีคำแนะนำดี ๆ วิธีเลือกกาแฟที่ใช่จากการอ่านฉลากบนถุงกาแฟ

รู้ได้อย่างไร กาแฟถุงไหน ชงแล้วอร่อย ?

หัวใจสำคัญของการเลือกกาแฟให้ถูกใจนั้น ไม่ได้อยู่ที่แพ็กเกจจิงสวย ๆ ที่วางขายตามร้านค้า แต่เป็นรูปแบบของ “เมล็ดกาแฟ” ที่ให้กลิ่นหอมและรสสัมผัสในแบบที่คุณพอใจ ซึ่งกาแฟถุงนั้นจะบ่งบอกถึงแหล่งผลิต และกรรมวิธีที่ได้คุณภาพและน่าเชื่อถือ คุณอาจเคยสงสัยว่า ทำไมกาแฟบางยี่ห้อถึงมีรสชาติเปรี้ยว ขม ฝาด นั่นเป็นเพราะสายพันธุ์ ระดับการคั่วและการเบลนด์ (Blend) ที่แตกต่างกัน จึงทำให้กาแฟมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อเมล็ดกาแฟสักถุงจึงต้องทำความเข้าใจข้อความบนฉลาก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้กาแฟในรสชาติที่คุณถูกใจกลับบ้าน

 

เคล็ดลับการอ่านฉลากกาแฟ

กาแฟ 1 ถุง บอกอะไรบ้าง?

หลายคนอาจเคย "ยืนงงอยู่ในดงกาแฟ" เพราะมีให้เลือกเยอะจนเลือกไม่ถูกว่ากาแฟแบบไหนดี ? ซึ่งมีทั้งกาแฟคั่วทั้งเมล็ด กาแฟคั่วบด และกาแฟสำเร็จรูป อีกทั้งยังมีข้อมูลมากมายบนฉลาก ที่แม้แต่คอกาแฟบางคนก็เลือกไม่ถูก มาดูกันว่าข้อความฉลากบนกาแฟ 1 ถุงจะช่วยกำหนดทิศทางการเลือกซื้อกาแฟให้ถูกใจอย่างไรบ้าง

☕กาแฟยี่ห้ออะไร? (Brand) 

เมล็ดกาแฟยี่ห้อไหนก็เหมือน ๆ กัน! อาจไม่ใช่เสมอไป เพราะยี่ห้อหรือตราสินค้าจะเชื่อมโยงกับความไว้วางใจและความรู้สึกของผู้ดื่มได้ดี บนฉลากจะระบุชื่อแบรนด์ไว้อย่างชัดเจน บางครั้งเป็นชื่อบริษัทโรงคั่ว หรือชื่อบริษัทที่จำหน่ายกาแฟ

 

☕สายพันธุ์กาแฟ (Coffee Varieties)

ข้อความที่อยู่บนถุงกาแฟมักระบุสายพันธ์ุกาแฟเอาไว้อย่างชัดเจน หลายคนอาจสงสัยว่าเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์มีความพิเศษแตกต่างกันอย่างไรบ้าง โดยทั่วไปกาแฟที่คนรู้จักมี 4 สายพันธุ์ คือ

 

  • กาแฟอะราบิกา (Arabica Coffee) หรือที่มักเรียกว่า "กาแฟอาหรับ" ซึ่งเป็นสายพันธุ์ยอดนิยม มีความโดดเด่นที่กลิ่มหอมละมุน รสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดื่มกาแฟที่ไม่เข้มจนเกินไป โดยมีปริมาณคาเฟอีน (Caffeine) น้อยกว่ากาแฟโรบัสตา ขณะเดียวกันก็มีราคาแพงกว่ากาแฟพันธุ์โรบัสตาด้วยเช่นกัน กาแฟอะราบิกานิยมผลิตกันมากที่สุด คิดเป็น 90 % ของการผลิตทั่วโลก ซึ่งจะมีสายพันธุ์แยกย่อยอีกหลายสายพันธุ์ ในบรรดาเมล็ดกาแฟอะราบิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ได้แก่ บลู เมาเทน จากจาเมกา, ซูพรีโม จากโคลอมเบีย, ซิดาโม จากเอธิโอเปีย

 

  • กาแฟโรบัสตา (Robusta Coffee) เป็นกาแฟยอดนิยมรองลงมาจากกาแฟอะราบิกา มีความโดดเด่นในเรื่องของความเข้มข้นเต็มบอดี้ (Body) มีรสชาติขม อมเปรี้ยว ให้ชั้นฟองที่หนานุ่ม (Crema) และกลิ่นหอมกรุ่นที่เข้มข้น (Aroma) เหนือกว่ากาแฟอะราบิกา นิยมนำมาแปรรูปเป็นกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) หรือนำมาผสม (ฺBlend) กับสายพันธุ์อื่นเพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่แปลกใหม่ กาแฟไทยกว่า 90 % เป็นกาแฟสายพันธุ์นี้

 

  • กาแฟเอ็กซ์เซลซา (Excelsa Coffee) เป็นกาแฟที่ไม่นิยมในเชิงพาณิชย์มากนัก เนื่องจากสายพันธุ์นี้มีต้นทุนการผลิตที่สูง ในแถบแอฟริกาซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดจะนิยมเก็บไว้บริโภคเองมากกว่า สำหรับรสชาติของกาแฟเอ็กซ์เซลซานั้นหากคั่วระดับปานกลางจะให้รสสัมผัสแบบสมุนไพรและอมเปรี้ยว หากอยู่ในระดับคั่วเข้มคุณจะเต็มอิ่มกับความเข้มข้นของกลิ่นช็อกโกแลตไหม้ นอกจากนี้กาแฟเอ็กซ์เซลซายังมีคาเฟอีนที่ต่ำกว่ากาแฟอะราบิกาและโรบัสตา

 

  • กาแฟลิเบอริกา (Liberica Coffee) เป็นกาแฟหายากที่สุด โดยมีสัดส่วนการผลิตขายทั่วโลกแค่ 2 % ว่ากันว่ามีกลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ เมื่อนำมาทำเป็นกาแฟจะมีรสชาติของสมุนไพรเข้มข้น ด้วยรสสัมผัสที่ซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟเบอริกา ผู้ผลิตจึงมักนำมาเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มมิติให้กับกาแฟ ถึงแม้ว่ากาแฟลิเบอริกาจะหาซื้อยาก แต่ก็สามารถเลือกซื้อได้จาก 3 แหล่งผลิตใหญ่ ๆ คือ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, และฟิลิปปินส์

☕ที่มาของกาแฟ

ซิงเกิล ออริจิน หรือ เบลนด์ (Single Origin/ Blend)

การรู้ต้นกำเนิดของเมล็ดกาแฟ เพราะที่มาของกาแฟแต่ละประเทศและภูมิภาค พันธุ์กาแฟ วิธีแปรรูป ล้วนมีผลต่อรสชาติและความหอมของกาแฟ ซึ่งจะระบุไว้ 2 ที่มา

 

  • ซิงเกิล ออริจิน (Single Origin) คือ กาแฟบริสุทธิ์ที่มาจากแหล่งเดียว หรือฟาร์มเฉพาะ จากดิน ฟ้า อากาศของแต่ละพื้นที่ หรือสายพันธุ์กาแฟที่แตกต่างกันไป (บางครั้งเรียกว่า กาแฟ “Single Estate”) เป็นกาแฟคุณภาพสูง ซึ่งราคาก็ตามคุณภาพด้วย มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จึงเหมาะสำหรับการชงกาแฟแบบดริป (Drip Coffee) หรือกาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) ที่ไม่มีรสชาติของวัตถุดิบอื่นๆ มาบดบัง ร้านกาแฟชั้นนำมักใช้กาแฟจากแหล่งนี้ แบรนด์กาแฟที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อย่างเช่น บลู เมาเทน จากจาเมกา, บราซิเลี่ยน ซานโตส จากบราซิล ถ้าในประเทศไทยก็เช่น กาแฟดอยช้างและกาแฟปางขอน จากเชียงราย, อเมซอนและสตาร์บัค จากแหล่งบ้านห้วยห้อม แม่ฮ่องสอน และอื่น ๆ

 

  • เบลนด์ (Blend) กาแฟเบลนด์ หรือกาแฟผสม คือ การนำกาแฟตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปผสมผสานรวมกัน เป็นการจับคู่เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีกว่า ซึ่งเป็นได้ทั้งกาแฟสองสายพันธุ์จากแหล่งเดียวกัน หรือคนละแหล่งก็ได้ เช่น การนำกาแฟอะราบิก้าและโรบัสต้า มาคั่วและผสมให้ได้รสชาติอย่างสร้างสรรค์เฉพาะของแต่ละยี่ห้อ หรือโรงคั่ว คล้ายกับการปรุงอาหารที่มีสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน

☕“กาแฟทั้งเมล็ด” หรือ “กาแฟคั่วบด” ?

(Whole Bean Cofee/ Ground Cofee)

การคลำดูที่ถุงกาแฟก็สามารถบอกได้แล้วว่ากาแฟถุงนั้นเป็นแบบทั้งเมล็ดหรือกาแฟคั่วบด หากต้องการสังเกตบนฉลากกาแฟจะระบุว่า Whole Bean Coffee คือ กาแฟทั้งเมล็ด และ Ground Cofee คือกาแฟคั่วบด ซึ่งแต่ละแบบจะใช้อุปกรณ์การทำกาแฟแตกต่างกัน

  • กาแฟทั้งเมล็ด (Whole Bean) ต้องมีเครื่องบดกาแฟ โดยเลือกจากวันที่ผลิตล่าสุด เพราะจะได้กาแฟที่สดใหม่ ยังคงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เข้มข้น และกลิ่นหอมกรุ่น
  • กาแฟคั่วบด (Ground Cofee) ใช้กับเครื่องชงกาแฟสดแบบที่เห็นตามร้านกาแฟ เรียกว่า เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (Espresso Coffee Maker หรือ Espresso Machines) แต่แบบนี้ราคาอาจแรงไป สำหรับมือใหม่สามารถชงกาแฟสดดื่มเองง่าย ๆ ได้ด้วยถ้วยดริปและกระดาษกรองกาแฟ วิธีนี้เรียกว่า การดริปกาแฟ (Drip) หรือมีหม้อต้มเล็ก ๆ อย่าง Moka Pot หรือจะเป็นเหยือกชงกาแฟสไตล์ฝรั่งเศส (French Press) ซึ่งแต่ละวิธีการชงก็จะเลือกใช้กาแฟในระดับการบดที่มีความหยาบ ละเอียด แตกต่างกัน

 

☕ขนาดของถุงกาแฟ (Size Bag)

กาแฟคั่วที่วางขายมีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 250 กรัม, 500 กรัม, 1 กิโลกรัมไปจนถึง 5 กิโลกรัม ก่อนเลือกซื้อเมล็ดกาแฟต้องคำนึงถึงการเปิดใช้งาน เพราะทุกครั้งที่คุณเปิดถุงกาแฟ อากาศจะเข้าไปอยู่ในถุงทำให้เมล็ดกาแฟสูญเสียความสด ดังนั้นไม่แนะนำให้เปิด-ปิดถุงบ่อย ๆ ควรเลือกซื้อตามขนาดที่เหมาะสมกับนิสัยการดื่มกาแฟของแต่ละคน

 

☕วันที่คั่ว (Roast Date)

วันที่คั่วเมล็ดกาแฟจะดีที่สุด ต้องไม่เกิน 2 - 4 สัปดาห์หลังจากการคั่ว เพราะเมล็ดกาแฟจะยังคงเก็บความหอมไว้อยู่ก่อนจะค่อย ๆ จางหายไป ดังนั้นโปรดสังเกต "Roast Date คือวันที่คั่วกาแฟ" ไม่ควรเกิน 1-2 เดือน หากซื้อมาแบบคั่วใหม่ ๆ ควรทิ้งเมล็ดไว้ 2 - 10 วันหลังคั่ว เพื่อให้เมล็ดกาแฟได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดระหว่างการคั่วออกก่อน จึงจะได้รสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น

 

☕ระดับการคั่ว (Roast Level)

ทุกยี่ห้อจะระบุระดับการคั่วไว้อย่างชัดเจน สามารถบอกแนวรสชาติของกาแฟได้ เวลาเลือกก็อิงจากความชอบส่วนตัวและวิธีการชง เมล็ดกาแฟมีระดับการคั่ว 4 ประเภท ได้แก่ คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้มปานกลาง และคั่วเข้ม ซึ่งจะมีสีและรสชาติเฉพาะแตกต่างกันตามระยะเวลาที่คั่ว

กาแฟคั่วอ่อน Light Roast

  • บนฉลากที่พบบ่อย มักระบุคำว่า Cinnamon Roast, Half City, American Roast
  • การคั่วระดับนี้เป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือเหลือง ซีดคล้ายซินนามอนและอบเชย
  • เป็นระดับที่คงรสชาติดั้งเดิมไว้มากที่สุด
  • มีรสชาติออกเปรี้ยว สดชื่น คล้ายรสผลไม้หรือดอกไม้
  • เหมาะกับการชงดื่มเป็นกาแฟร้อน ด้วยวิธีแบบ Slow Bar เช่น การดริปดื่มเป็นกาแฟดำ (Americano/ Espresso) เพื่อให้รสชาติกาแฟเต็ม ๆ

 

กาแฟคั่วกลาง Medium Roast

  • ชื่ออื่น ๆ ได้แก่ Regular Roast, American Roast, City Roast
  • การคั่วระดับนี้เป็นสีน้ำตาลเข้มปานกลาง สีจะเข้มกว่าคั่วอ่อนเล็กน้อย 
  • เป็นระดับที่มีคาเฟอีนแรงที่สุด
  • รสชาติหวาน ออกเปรี้ยวเล็กน้อย และขมเล็กน้อย เข้มกลมกล่อมพอดี
  •  เหมาะนำไปชงได้ทั้งกาแฟร้อนและเย็น คนอเมริกันชอบนำกาแฟระดับนี้ไปชงแบบหม้อต้ม (Moka Pot) หรือใช้เครื่องแบบกด (French Press)

 

กาแฟคั่วเข้มปานกลาง Medium-Dark Roast

  • หลายยี่ห้อจะมีคำระบุถึงระดับการคั่วเข้มปานกลางที่ต่างกันอยู่หลายคำ อาทิเช่น After-Dinner Roast, Dark-Brown Roast, Full-City Roast, Full Roast, Light Espresso Roast, Light French Roast, High Roast, North Italian Roast
  • ให้สีน้ำตาลเข้มนวล ๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของการคั่วระดับนี้
  • เป็นการคั่วที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง คั่วกลางและคั่วเข้ม
  • ให้รสชาติออกเครื่องเทศ บางครั้งออกหวานปนขมเล็กน้อย
  • หอมกลิ่นไหม้ รสชาติคล้ายช็อกโกแลตและคาราเมล
  • ตอบโจทย์สำหรับคอกาแฟที่ชอบดื่มกาแฟเข้ม แต่ไม่ถึงขั้นขมมาก
  • ชงได้ทั้งร้อนและเย็น
  • เหมาะสำหรับดื่มแบบเอสเพรสโซ อาจเติมความหวานด้วยน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลเล็กน้อย หรือจะดื่มแบบสูตรมอคาก็มีความอร่อยกลมกลืน

 

กาแฟคั่วเข้ม Dark Roast

  • คำที่ระบุไว้บนฉลากหมายถึงกาแฟคั่วเข้ม เช่น Vienna Roast, French Roast, Espresso Roast, Turkish Roast, Italian Roast, Dark French Roast, Heavy Roast
  • ให้สีน้ำตาลเข้มสุดจนเกือบดำ
  • การคั่วระดับนี้แทบไม่หลงเหลืออยู่คุณสมบัติดั้งเดิมของกาแฟ แต่จะให้กลิ่นที่หอมกรุ่นเข้มข้น
  • ให้รสชาติกาแฟเข้มข้น มีความหวานที่มากที่สุดและไม่มีรสเปรี้ยวเพราะถูกความร้อนทำลายจนหมด
  • มีความเป็นดาร์กช็อกโกแลต หรือโทนโก้โก้ชัดขึ้น
  • เหมาะกับการนำไปชงเป็นกาแฟเย็น หรือกาแฟนม (Latte) รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จะไม่ถูกกลบจนเกินไป
  • หากชอบกาแฟเข้ม สามารถดื่มแบบเอสเพรสโซ่ หรืออเมริกาโน่เข้ม ๆ ก็ได้

☕กลิ่นและรสชาติ (Taste Notes)

Taste Notes หรือ Flavor Notes คือกลิ่นหรือรสของกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ที่ระบุอยู่บนถุง อธิบายโทนกลิ่นและรสชาติของกาแฟ ซึ่งนักชิมหรือนักคั่วกาแฟต้องการส่งผ่านไปยังผู้ดื่ม Taste Note มีกว่าร้อยรสชาติ แต่สำหรับผู้เริ่มต้นดื่มกาแฟสามารถเรียนรู้ง่าย ๆ จาก 8 กลิ่นรสสัมผัสหลัก ๆ ด้วยกัน

 

  • กลิ่นรสดอกไม้ Floral🏵️

กาแฟกลิ่นดอกไม้เป็นกลิ่นที่หอมฟุ้งเบา ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น โดยเฉพาะกาแฟที่มาจาก Ethiopia หรือ Kenya

มักระบุคำว่า Jasmine, Lavender, Coffee Blossom

 

  • กลิ่นรสผลไม้ Fruity🍒

ด้วยเหตุผลที่ “เมล็ดกาแฟ” คือผลไม้จำพวกเชอร์รี่ (หรือเบอร์รี่) จึงมีรสเปรี้ยวหวาน ซึ่งทำให้กาแฟสามารถมีกลิ่นรสคล้ายกับผลไม้ได้หลากหลาย ตั้งแต่ ส้ม มะนาว เชอร์รี่ ไปจนถึงมะพร้าว

มักระบุคำว่า Blueberry, Blackberry, Orange, Peach, Mango

 

  • กลิ่นรสเหล้าหมัก Liqueur🍷

หากใครได้ชิมกาแฟพิเศษกลิ่นนี้แล้วคงต้องรู้สึกว้าวและประหลาดใจ รสชาติของเหล้าได้ที่เกิดจากกรรมวิธีพิเศษ ที่จะทำให้กาแฟมีกลิ่นรสคล้ายกับวิสกี้ รัม หรือไวน์ เช่น กาแฟไอริช แกรนด์เฟรนช์คอฟฟี่ และคาราจิลโล

มักระบุคำว่า Winey, Rum, Whiskey

 

  • กลิ่นถั่ว/ ช็อกโกแลต Nutty 🌰🍫

กลิ่นของกาแฟที่พบได้บ่อยเป็นกลิ่นหรือรสชาติคล้ายถั่ว เช่น ถั่วลิสง ฮาเซลนัต หรือวอลนัต บางครั้งออกไปโทนโกโก้ หรือดาร์กช็อกโกแลต

มักระบุคำว่า Hazelnut, Walnut, Peanut, Chocolate, Dark Chocolate

 

  • กลิ่นสมุนไพร Herbal 🍃

กลิ่นรสของกาแฟที่คล้ายสมุนไพรเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างหายาก ให้ความรู้สึกเหมือนใบไม้สด ไม้สน หรือกลิ่นดิน ซึ่งบางคนชอบกลิ่นแนวนี้ เช่นกาแฟที่ปลูกบนเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย

มักระบุคำว่า Herb, Pine wood, Mint

  • กลิ่นคั่ว/ ไหม้ Roast ☕

กลิ่นหอมไหม้ เป็นกลิ่นที่เกิดจากการคั่วจากความร้อนโดยตรง เมื่อคั่วเมล็ดกาแฟมาจนถึงระดับหนึ่ง กลิ่น Note ต่าง ๆ ของกาแฟก็จะถูกลบออกหมดเหลือไว้เพียงกลิ่นคั่ว หรือกลิ่นหอมไหม้ หลายคนชื่นชอบกลิ่นจากกาแฟคั่วเข้มที่ให้กลิ่นหอมไหม้เฉพาะ

มักระบุคำว่า Smoky, Roast

 

  • กลิ่นรสหวาน Sweet 🍧

กาแฟหวานมีอยู่จริง คือกาแฟที่มีกลิ่นหวาน ๆ แบบไอศครีมวนิลา หรือน้ำผึ้ง หรือหวานสัมผัสจากลิ้นมีความคล้ายคาราเมล 

มักระบุคำว่า Brown Sugar, Vanilla, Caramel 

 

  • กลิ่นเครื่องเทศ Spice 🌶️

กาแฟกลิ่นเครื่องเทศเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างฉุน หลายคนมองว่าเป็นกลิ่นอโรมาช่วยให้ผ่อนคลาย เช่นกลิ่น กานพลู โป๊ยกั้ก อบเชย โหระพา ยูคาลิปตัส พริกไทย และได้รสเผ็ดสัมผัส

มักระบุคำว่า Cinnamon, Nutmeg, Star Anise, Pepper, Cineolic, Camphoric, Piney

 

ข้อมูลบนถุงกาแฟอาจจะไม่ได้ระบุไว้ทั้งหมด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และประสบการณ์ของการดื่มกาแฟของแต่ละคนด้วย แต่ก็จะไม่หนีไปจากที่แนะนำไว้มากนัก

"กาแฟที่ไม่มีฉลาก" บางครั้งมีเพียงสติกเกอร์บอกยี่ห้อสวย ๆ แปะบนถุงกาแฟเท่านั้น ซึ่งก็มีวิธีเลือกซื้อเพื่อให้ได้กาแฟที่ถูกใจ อย่างแรกที่ต้องรู้ข้อมูล คือ วันเดือนปีที่ผลิต เพราะจะบ่งบอกถึงความสดใหม่ของกาแฟ ต่อมาคือสายพันธุ์กาแฟ เพื่อบอกความเข้มข้นของกาแฟที่เราต้องการ และสุดท้ายที่ต้องคำนึงคือระดับการคั่วที่จะช่วยให้เราสามารถคาดเดาความเข้มข้น กลิ่น และรสสัมผัสของกาแฟได้เบื้องต้น

 

☕3 เคล็ดลับง่าย ๆ ซื้อกาแฟอย่างไรให้โดนใจ

  1. ดมกลิ่นที่ชอบ เลือกรูปแบบที่ใช่
  2. เลือกที่คั่วสด ใหม่ โดยดูวันเดือนปีที่ผลิต
  3. อ่านคำอธิบาย

 

เคล็บลับการเก็บกาแฟให้สด ใหม่ เสมอ

โดยปกติ “เมล็ดกาแฟ” หลังจากการคั่ว หากเก็บไว้อย่างเหมาะสมจะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนกาแฟคั่วบดจะมีอายุ 1-2 สัปดาห์ เหตุผลที่ระยะเวลาต่างกันก็เพราะว่ากาแฟบดมีโอกาสเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่ากาแฟทั้งเมล็ด เมื่อโดนอากาศ ความชื้น แสง และความร้อน ดังนั้นหลังจากเปิดใช้

  • ให้ไล่อากาศภายในถุงออกให้หมด 
  • พับปากถุงหลาย ๆ ชั้นและปิดถุงกาแฟทันที 
  • นำมาเก็บในกล่อง หรือกระปุกเพื่อป้องกันอากาศอีกหนึ่งชั้น

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเลือกกาแฟแบบไหน

"กาแฟที่ดีที่สุด คือ กาแฟที่ถูกปากเรา"☕

 

ศาสตร์แห่งกาแฟยังมีให้เรียนรู้อีกมากมาย โดยเฉพาะศาสตร์การคั่วกาแฟกับบทบาทสำคัญของ Coffee Roaster หรือคนคั่วกาแฟ ที่คอกาแฟไม่ควรพลาดในรายการ โรงเรียนนานาช่าง ทาง ALTV

 

ขอบคุณข้อมูล: coffeecrossroads.com, perfectdailygrind.com, javapresse.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง
#เมล็ดกาแฟ, 
#ดื่มกาแฟ, 
#เคล็ดลับการเลือกกาแฟ, 
#ฉลากกาแฟ, 
#คาเฟอีน, 
#ประโยชน์ของกาแฟ, 
#กาแฟคั่ว, 
#กาแฟสด, 
#กาแฟคั่วบด, 
#เคล็ดลับการอ่านฉลากกาแฟ, 
#สายพันธุ์กาแฟ, 
#กาแฟอะราบิกา, 
#กาแฟโรบัสตา, 
#กาแฟเอ็กซ์เซลซา, 
#กาแฟลิเบอริกา, 
#Arabica, 
#Robusta, 
#Excelsa, 
#Liberica, 
#ซิงเกิลออริจิน, 
#เบลนด์, 
#SingleOrigin, 
#Blend, 
#บลูเมาเทน, 
#บราซิเลี่ยนซานโตส, 
#กาแฟดอยช้าง, 
#WholeBean, 
#Ground, 
#RoastDate, 
#กาแฟคั่วอ่อน, 
#กาแฟคั่วกลาง, 
#กาแฟคั่วเข้มปานกลาง, 
#กาแฟคั่วเข้ม, 
#TasteNotes, 
#เคล็บลับการเก็บกาแฟให้สด, 
#โรงเรียนนานาช่าง, 
#CoffeeRoaster, 
#คนคั่วกาแฟ 
ALTV CI
Interest Thing
Interest Thing
ALTV All Around
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#เมล็ดกาแฟ, 
#ดื่มกาแฟ, 
#เคล็ดลับการเลือกกาแฟ, 
#ฉลากกาแฟ, 
#คาเฟอีน, 
#ประโยชน์ของกาแฟ, 
#กาแฟคั่ว, 
#กาแฟสด, 
#กาแฟคั่วบด, 
#เคล็ดลับการอ่านฉลากกาแฟ, 
#สายพันธุ์กาแฟ, 
#กาแฟอะราบิกา, 
#กาแฟโรบัสตา, 
#กาแฟเอ็กซ์เซลซา, 
#กาแฟลิเบอริกา, 
#Arabica, 
#Robusta, 
#Excelsa, 
#Liberica, 
#ซิงเกิลออริจิน, 
#เบลนด์, 
#SingleOrigin, 
#Blend, 
#บลูเมาเทน, 
#บราซิเลี่ยนซานโตส, 
#กาแฟดอยช้าง, 
#WholeBean, 
#Ground, 
#RoastDate, 
#กาแฟคั่วอ่อน, 
#กาแฟคั่วกลาง, 
#กาแฟคั่วเข้มปานกลาง, 
#กาแฟคั่วเข้ม, 
#TasteNotes, 
#เคล็บลับการเก็บกาแฟให้สด, 
#โรงเรียนนานาช่าง, 
#CoffeeRoaster, 
#คนคั่วกาแฟ 
แชร์
ชอบ
ติดตามเรา