รวมมิตรความเป็นที่สุดของคำว่า “นโยบาย”
💥เปิด 5 ตัวเต็ง กับ นโยบาย ที่อาจจะมัดใจคนกรุงได้มาก(ที่สุด) ❗️
จากผลสำรวจสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นศูนย์รวมคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญที่สะสมประสบการณ์กว่า 20 ปี ได้ทำการศึกษาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ผลจากการสำรวจเสียงของคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เทคะแนนโหวตให้กับผู้สมัคร 5 อันดับดังต่อไปนี้ ที่ชูนโยบายโดนใจ พร้อมส่งแรงเชียร์ให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ในหัวใจประชาชน
✅อันดับ 1 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
“มาร่วมกันทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน”
เจ้าของฉายา “บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ที่ใช้เมืองน่าอยู่สำหรับกลยุทธ์หาเสียงสุดล้ำเรียกได้ว่าใคร ๆ ก็คาดไม่ถึงกับไอเดียป้ายหาเสียงขนาดกระทัดรัด แถมจบเกมการเลือกตั้งแล้วยังเอาไปรีไซเคิล ตัด เย็บ เป็นกระเป๋าสะพายข้างได้อีก ซึ่งไม่น้อยหน้าให้กับนโยบายที่วางไว้ถึง 200 นโยบาย ครอบคลุมปัญหาและความต้องการของพี่น้องคนกรุงเทพฯ ในคอนเซปต์ กรุงเทพฯ 9 ดี ได้แก่
นอกจากนี้ การหาเสียงของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถือเป็นวิธีใหม่ ๆ ที่เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน ซึ่งจะเห็นได้ว่านอกจากป้ายหาเสียงที่ติดอยู่ริมถนนแล้ว ยังมีช่องทางในการแสดงนโยบายมากมาย ทั้งบนเว็บไซต์ และช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ที่ประชาชนสามารถรับรู้และเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งวิธีเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้สมัครคนนี้ มีผลสำรวจนำโด่งมาเป็นที่ 1 ครองใจประชาชนอยู่เสมอ
📌 ตัวอย่างนโยบาย :
✅อันดับ 2 สกลธี ภัททิยกุล
“กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้”
ตามมาติด ๆ สำหรับอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ดึงนโยบายสกลธีโมเดลเข้ามาใช้ โดยมุ่งสร้างความสุขเพื่อให้กรุงเทพฯ ดีกว่าเดิมได้ พร้อมชูนโยบายหลักถึงกระบวนการทำงาน และเทคโนโลยีที่จะช่วยสนับสนุนปรับปรุงส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดหารายได้เข้าคลังโดยตรง แบ่งออกเป็น 6 ด้านหลัก ได้แก่
📌 ตัวอย่างนโยบาย :
✅อันดับ 3 สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
“เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้”
เจ้าของวลีเด็ด “เพราะผมนี้ถือว่าเป็นทายาทสายตรงไอน์สไตน์คนเดียวในแผ่นดินไทยเลยครับ...” ที่มาพร้อมกับความมุ่งมั่นอยากจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็น “เมืองสวัสดิการที่ทันสมัยและเป็นต้นแบบอาเซียน” หากมองภาพรวมของนโยบายแล้ว ถือว่ามีความหลากหลาย โดยมีแนวทางเปลี่ยนโครงสร้างเมือง และการเปลี่ยนให้คนกรุงเทพฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้แก่
📌 ตัวอย่างนโยบาย :
✅อันดับ 4 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
"พร้อมชน เพื่อคนกรุงเทพฯ"
ผู้สมัครที่แสดงจุดยืนการหาเสียงอย่างตรงไปตรงมา กับการเปิดตัว 12 นโยบายเลือกตั้ง ที่เน้นความเท่าเทียมให้คนกรุงเทพฯ
📌 ตัวอย่างนโยบาย :
✅อันดับ 5 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
“กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ”
อดีตพ่อเมือง ลงสนามสู้ศึกชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนี้ พร้อมเปิดนโยบาย 8 ด้านมัดใจคนกรุงฯ เน้นย้ำอยากเห็นทุกคนอยู่อย่าง “ปลอดภัย สงบสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ขอมุ่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาเพื่อให้กรุงเทพฯ ได้ไปต่อจากสิ่งเคยที่ทำไว้แล้ว
ต่อที่ 1 แก้ปัญหาน้ำท่วม
ต่อที่ 2 สร้างความสะดวกในการเดินทาง
ต่อที่ 3 ส่งเสริมสุขภาพที่ดี ให้กับ "คนเมืองหลวง"
ต่อที่ 4 สร้างสิ่งแวดล้อม
ต่อที่ 5 ทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้
ต่อที่ 6 เติมเต็มความปลอดภัยให้กับคนเมือง
ต่อที่ 7 เชื่อมกรุงเทพฯ สู่เมืองดิจิทัล
ต่อที่ 8 ดูแลคนทุกกลุ่มทุกวัย
📌 ตัวอย่างนโยบาย :
จากที่กล่าวไป เป็นเพียงตัวอย่างนโยบายของผู้สมัครการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนี้ แต่ในวันนี้ จะชวนทุกคนไปย้อนดูนโยบายของการเลือกตั้งในสนามอื่น ๆ ว่าผู้สมัครแต่ละพรรคจะมีนโยบายเด็ดๆ อะไรบ้าง และหากว่านำมาปรับใช้ในยุคปัจจุบัน จะตอบโจทย์คนกรุงฯ และน่าสนใจขนาดไหน กับนโยบายสุดแหวกเหล่านี้ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
💥เปิด 5 นโยบายสุดแหวกในไทย
ทุกครั้งในการซื้อหวย ถือว่าเป็นเงินฝากในกองทุนการออมแห่งชาติ เงินทุกบาทจะกลับคืนสู่กระเป๋าของเรา พร้อมดอกเบี้ยหลังเกษียณของคนไทย
ปลดล็อกอุตสาหกรรมเหล้าเบียร์ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กหรือเกษตรกร ได้เติบโตขึ้นและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่เสนอให้แก้ พ.ร.บ.สรรพสามิต และยกเลิกกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ชวนให้นำรถเก่า มาแลกรถไฟฟ้าคันใหม่ พร้อมรับส่วนลดทันที 100,000 บาท สนับสนุนให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อลดมลพิษที่เกิดจากรถยนต์
คาดหวังให้เด็กไทยพูดได้ 2 ภาษาที่ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษา การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวของประเทศ และพร้อมจะมอบทุนให้ครู อำเภอละ 1 ล้านบาท ให้ไปเรียนรู้ และกลับมาสอนเด็กไทยได้อย่างเต็มที่
เสนอให้นายจ้างจ่ายเงินประกันสังคมแทนลูกจ้างทั้งหมด ยกเลิกหักเงินเดือนลูกจ้างร้อยละ 5 ในทุกเดือน ให้หยุดกองทัพซื้ออาวุธ 10 ปี นำเงิน 400,000 ล้านบาท ไปพัฒนาประเทศ พร้อมเปลี่ยนงบซื้อรถถัง ไปซื้อรถไถนา, รถดำนา, รถเกี่ยวนวดข้าวประจำหมู่บ้าน และรถตัดอ้อยให้ชาวนา ชาวไร่ได้ใช้ฟรี
นอกจากนโยบายสุดแหวกในไทยแล้ว วันนี้ขอแถม ! พาไปดูชื่อพรรคการเมืองในต่างประเทศ ที่สร้างสรรค์ไอเดียในการตั้งชื่อพรรคสุดแปลก แต่มีอยู่จริง และนโยบายของแต่ละพรรคจะแปลกสมชื่อหรือไม่ ? ไปดูกันเลย
📢 5 ชื่อพรรคสุดแปลก ❗️ ในต่างแดน
ประเทศออสเตรเลีย ปี 1977 แม้ชื่อพรรคจะดูจริงจริง แต่จุดประสงค์นั้นทำเพื่อความขำขัน และล้อเลียนผู้สมัครคนอื่นเท่านั้น นอกจากนี้ ยังแสดงจุดยืนในการส่งกองทัพเพนกวิน ไปปกป้องชายฝั่งทะเล และปกป้องการรุกรานของอาร์เจนตินาอีกด้วย
ประเทศอังกฤษ ปี 1979 ซึ่งเป็นพรรคการเมืองทางเลือก โดยมีนโยบายให้ลดการใช้กระดาษในการแจกใบสั่งของตำรวจ และปฏิวัติการศึกษาโดยจัดการกับนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมไปถึงการลดขนาดของห้องเรียนเนื่องจากเชื่อว่าครูผู้สอนจะได้ใกล้ชิดนักเรียนมากขึ้น พร้อมชวนรณรงค์ให้นักเรียนได้รับเงินค่าขนมเท่าๆ กันทุกคน
ประเทศอังกฤษ ปี 1983 โดยนโยบายของพรรคนี้ก็แบ๊วตามชื่อเช่นเดียวกัน นั่นคือการเสนอให้ขึ้นทะเบียนสัตว์ประหลาดล็อคเนสให้เป็นสัตว์สงวน หรือแต่งตั้งออสซี่ ออสบอร์นให้เป็นขุนนาง เป็นต้น
สำหรับคนที่มีแผนจะลงสมัครพรรคการเมืองแบบไม่หวังอะไรให้ดูพรรคนี้ในประเทศโปแลนด์ไว้เป็นแรงบันดาลใจ โดยนโยบายหาเสียงมาจากการอยากแก้ปัญหาให้คนติดเหล้าหันมาติดเบียร์แทน และก็เป็นนโยบายที่สำเร็จในที่สุด แต่กลับยุบพรรคโดยแตกออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ เบียร์ขวดใหญ่ กับ เบียร์ขวดเล็ก นั่นเอง
ประเทศไอร์แลนด์ 2014 โดย เดฟ คีฟนีย์ เจ้าของธุรกิจซักแห้งได้ลงแข่งสนามเลือกตั้งท้องถิ่น อยากให้มีธุรกิจขนาดเล็กมาเปิดกิจการ เพื่อทุกพื้นที่จะได้เกิดการจ้างงาน และผู้คนมีงานทำมากขึ้น ปิดท้ายด้วยการให้สโลแกนหาเสียงกวน ๆ “ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำอะไรให้คุณเลย...และสัญญาว่าจะ(ไม่ทำอะไรให้คุณ)อย่างดีที่สุด”
และช่วงเวลานับจากนี้ เหลือเพียงอีกไม่กี่วัน ที่คนกรุงเทพฯ ต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งสำคัญ เพราะหนึ่งเสียงของคุณ เป็นเสียงที่มีความหมาย และสามารถเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครนี้ต่อไปได้ มารวมพลังคนกรุงเทพฯ ร่วมเปลี่ยนแปลงเมืองใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. อย่าลืมเช็กหมายเลขผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ทางเว็บไซต์ https://bkkelection65.thaipbs.or.th/ และตรวจสอบรายชื่อ (คลิก) ก่อนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันด้วยนะ