ยุคแห่งการสำรวจทางทะเลและการค้นพบ (Age of Exploration) เริ่มขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 - 17 เป็นยุคที่ชาวยุโรปมองหาเส้นทางการค้าในดินแดนที่ห่างไกลมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ระหว่างดินแดนต่าง ๆ รอบโลกที่ไม่เคยได้รับการค้นพบมาก่อน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรมของโลกไปอย่างถาวร

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการสำรวจทางทะเล
- เส้นทางการค้าผ่านตะวันออกกลางถูกปิดกั้น เป็นผลมาจากการทำสงครามระหว่างชาวคริสต์ในยุโรปและชาวมุสลิมในตะวันออกกลาง หรือที่เรียกว่า “สงครามครูเสด”
- แรงผลักดันทางการค้า โลกตะวันตกมีความต้องการสินค้าจากตะวันออก เช่น ทองคำ เงิน ผ้าไหม เครื่องเทศ สมุนไพร สีย้อมไม้ ฯลฯ
- ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ การพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น แผนที่ เข็มทิศ อุปกรณ์การเดินเรือต่าง ๆ ประกอบกับความรู้ทางดาราศาสตร์ ที่ช่วยให้ถึงที่หมายได้แม่นยำขึ้น มีบทบาทสำคัญที่ทำให้การเดินเรือในท้องทะเลเป็นเรื่องง่าย
- กระแสแนวคิดมนุษยนิยม แนวความคิดมนุษยนิยมได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ โดยเป็นแนวคิดที่เชื่อมั่นในการแสวงหาความรู้ความจริงด้วยตัวเอง เป็นการกระตุ้นให้ผู้คนแสวงหาความรู้ และความสนใจในวัฒนธรรมต่างแดน
บุคคลสำคํญและการค้นพบครั้งสำคัญ
💡บาร์โทโลมิว ดีอัช (Bartolomeu Dias)
นักเดินเรือและนักสำรวจชาวโปรตุเกส มีชื่อเสียงในฐานะคนแรกที่ค้นพบ “แหลมกู๊ดโฮป” (Cape of Good Hope) ในปี ค.ศ. 1488 ผลจากการค้นพบในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ไปยังอินเดียและตะวันออกกลาง และเป็นการปูทางให้สำหรับนักเดินเรือในยุคต่อมา นั่นคือ “วาสโก ดากามา”
💡วาสโก ดากามา (Vasco da Gama)
นักเดินเรือและนักสำรวจชาวโปรตุเกส เป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้สามารถร่องเรือรอบแหลมกู๊ดโฮปได้สำเร็จ และยังสามารถแล่นเรือลัดเลาะมาสู่มหาสมุทรอินเดียไปจนถึงเมืองกาลิกัต ประเทศอินเดีย ได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1498 จากความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้ประเทศโปรตุเกสเข้าถึงทรัพยากรได้เป็นประเทศแรก ๆ
💡คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus)
นักสำรวจชาวอิตาลีคนแรกที่ออกเดินทางไปทางฝังตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นจุดที่คริสตจักรบอกว่าเป็นพื้นที่ “สุดขอบโลก” สามารถเดินทางถึงหมู่เกาะเวสต์อินดีสในอเมริกากลางได้สำเร็จใน ปี ค.ศ. 1429
💡เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน (Ferdinand Magellan)
นักเดินเรือชาวโปรตุเกสเป็นคนแรก ที่ค้นพบหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และเดินทางรอบโลกครั้งแรก ในช่วงปี ค.ศ. 1919 - 1922 การเดินเรือรอบโลกนี้มีผลต่อสเปน เพราะค้นพบเส้นทางการเดินเรือใหม่จำนวนมาก และยังเป็นการพิสูจน์ว่าโลกไม่ได้แบนตามความเชื่อเก่าของคริสตจักร
💡เจมส์ คุก (James Cook)
นักสำรวจและนักเดินเรือชาวอังกฤษ มีชื่อเสียงในฐานะพบฮาวายและทวีปออสเตเลีย ในปี ค.ศ. 1768 - 1779 การค้นพบในครั้งนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อความรู้ด้านภูมิศาสตร์และการล่าอาณานิคมของชาวอังกฤษ
ผลจากการสำรวจทางทะเล
การสำรวจทางทะเลในอดีตมีผลต่อโลกของเราหลายด้าน ดังนี้
- ค้นพบดินแดนใหม่ การสำรวจทางทะเลทำให้มนุษย์ค้นพบดินแดนใหม่มากมาย เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นการขยายขอบเขตความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ของมนุษย์ และนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของโลก
- เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การสำรวจทางทะเลส่งผลวัฒนธรรมของชาวยุโรปแพร่หลายไปยังดินแดนต่าง ๆ เกิดการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมชาวยุโรปและวัฒนธรรมท้องถิ่น นำไปสู่การเกิดวัฒนธรรมใหม่ ๆ
- ศาสนาคริสต์ อิทธิพลของศาสนาคริสต์แผ่ขยายไปยังดินแดนต่าง ๆ ที่ชาวยุโรปไปติดต่อค้าขายด้วย
- การแแพร่ระบาดของโรคระบาด การดินทางไปมาหาสู่กันทำให้เกิดการติดต่อโรคระบาด เช่น โรคหัด โรคฝีดาษ หรือไข้เหลือง
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบทเรียนวิชาสังคม เรื่อง การสำรวจทางทะเลและการปฏิรูปศาสนา ได้ที่รายการ ห้องเรียนติวเข้มมัธยม (คลิก)
ที่มา ThoughtCo