“ต้นไม้มีประโยชน์มากมายต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมของเรา สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อการรักษาสมดุลของธรรมชาติ ปรับปรุงคุณภาพอากาศ ให้ร่มเงา และเพิ่มความสวยงามให้กับสิ่งแวดล้อม ต้นไม้ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเราอีกด้วย เนื่องจากต้นไม้สามารถลดความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องปกป้องและปลูกต้นไม้ต่อไปเพื่อให้โลกของเราสดใสและน่าอยู่”
อธิปัตย์ อู่ศิลปกิจ นักธรรมชาติและสื่อความหมาย (นักสื่อสารธรรมชาติ) มูลนิธิโลกสีเขียว กล่าวถึงระบบนิเวศว่า ระบบนิเวศหรือ Ecosystem เป็นโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ กับบริเวณแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ดำรงชีวิตอยู่ ระบบนิเวศนั้นเป็นแนวคิดที่นักนิเวศวิทยาได้นำมาใช้ในการมองโลกส่วนย่อย ๆ เพื่อที่จะได้เข้าใจความเป็นไปบนโลกนี้ได้ดีขึ้น
ระบบนิเวศ ประกอบด้วยบริเวณที่สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ และกลุ่มประชากรที่มีชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว พืชและสัตว์ต่าง ๆ ก็ต้องการบริเวณที่อยู่อาศัยที่มีขนาดอย่างน้อยที่สุดที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อการมีชีวิตอยู่รอด ยกตัวอย่าง เช่น สระน้ำแห่งหนึ่งเราจะพบสัตว์และพืชนานาชนิด ซึ่งสามารถปรับตัวให้เข้ากับบริเวณน้ำที่มันอาศัยอยู่โดยมีจำนวนแตกต่างกันไปตามแต่ชนิด
สระน้ำเล็ก ๆ ดูเหมือนว่าจะแยกจากบริเวณแวดล้อมอื่น ๆ ด้วยขอบสระ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปริมาณน้ำในสระสามารถเพิ่มขึ้นได้จากน้ำฝนที่ตกลงมา ในขณะเดียวกันกับที่ระดับผิวน้ำจะระเหยไปอยู่ตลอดเวลา น้ำที่ไหลเข้ามาเพิ่มก็จะพัดพาเอาแร่ธาตุและชิ้นส่วนต่าง ๆ ของพืชที่เน่าเปื่อยเข้ามาในสระตัวอ่อนของยุงและลูกกบตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในสระน้ำ แต่จะไปเติบโตบนบก นกและแมลงซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกสระก็จะมาหาอาหารในสระน้ำ การไหลเข้าของสารและการสูญเสียสารเช่นนี้จึงทำให้สระน้ำเป็นระบบเปิดระบบหนึ่ง
ต้นไม้ คือส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ เป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่ที่มีอายุยืนยาว เมื่อเปรียบเทียบกับพืชในลักษณะอื่นๆและต้นไม้มีมากมายหลายชนิดมีทั้งแบบยืนต้นและล้มลุก ต้นไม้เป็นส่วนประกอบสำคัญของภูมิประเทศตามธรรมชาติ เนื่องจากมันสามารถป้องกันภูมิประเทศจากการกัดเซาะของน้ำ และเป็นส่วนสำคัญของการปรับภูมิทัศน์และการเกษตร สำหรับในพื้นที่บ้านมักจะมีการปลูกต้นไม้ เพื่อให้บ้านมีความร่มรื่น และมีร่มเงาช่วยให้สภาพอากาศไม่ร้อนจนเกินไป
“ต้นไม้ยังสามารถป้องกันแสงและความร้อนจากดวงอาทิตย์ น้ำที่ระเหยจากการคายน้ำที่ใบยังช่วยดูดความร้อนจากบรรยากาศ ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นลดลงได้ถึง 3-5 องศาเซลเซียส หากปลูกต้นไม้ไว้บริเวณบ้านจะช่วยลดอุณหภูมิรอบๆ บ้านได้ถึง 2-4 องศาเซลเซียส และการปลูกต้นไม้ในรั้วบ้านยังเป็นการปรับปรุงทัศนียภาพ ตกแต่งบ้านให้สวยงามร่มรื่น”
การลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน การปลูกต้นไม้สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอน ซึ่งเป็นข้อดีประการหนึ่ง ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่เกิดจากก๊าซเรือนกระจกผลที่ตามมาคืออุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น ต้นไม้มีความสามารถในการดูดซับก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนในบรรยากาศ ต้นไม้สามารถช่วยลดการเกิดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ต้นไม้ถือเป็นแหล่งกำเนิดของออกซิเจนที่สำคัญในชีวิตของมนุษย์และสัตว์ ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงที่เกิดขึ้นในใบสีเขียวของต้นไม้ ต้นไม้ดูดคาร์บอนไดออกไซด์ จากชั้นบรรยากาศและผลิตออกซิเจน ซึ่งช่วยให้เราได้รับออกซิเจนสะอาดและหายใจอย่างสะดวกสบาย รวมถึงให้ที่พักพิงแก่สัตว์เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นแหล่งอาหาร สัตว์ใช้ต้นไม้เพื่อหาอาหาร และใช้พื้นที่ร่มเงาของต้นไม้เป็นที่พักพิง การมีต้นไม้มีผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพและรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม
อธิปัตย์ กล่าวว่า ต้นไม้เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันน้ำท่วม ด้วยความสามารถในการกักเก็บน้ำที่ลงมาในพื้นดิน ต้นไม้ช่วยลดการไหลของน้ำและช่วยควบคุมน้ำในดิน ซึ่งมีประโยชน์ในการลดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ที่มีการซึมผ่านของน้ำฝนได้ ต้นไม้ป้องกันการกัดเซาะต้นไม้ช่วยลดพลังการทำลายจากเม็ดฝนที่ตกลงมาและช่วยชะลอการไหลของน้ำเหนือผิวดิน โดยเพิ่มความแข็งแรงให้กับดินผ่านระบบราก กิ่งก้าน และใบไม้ที่ร่วงหล่น นอกจากนี้ ต้นไม้ยังเป็นตัวกรองที่ดีในการดูดซับน้ำและคายน้ำ การลดมลพิษทางอากาศเนื่องจากมลพิษทางอากาศจำนวนมากจากยานพาหนะ การผลิต และการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ต้นไม้มีส่วนช่วยในการสลายตัวของสารประกอบที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เช่น ควันที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น
ต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการเก็บน้ำฝนและบำรุงรักษาดิน ต้นไม้ทำหน้าที่เหมือนเป็นฟองน้ำตามธรรมชาติ ดูดซับน้ำปริมาณมากในช่วงที่ฝนตกและปล่อยลงสู่พื้นดินอย่างช้า ๆ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและการกัดเซาะ รากของต้นไม้ยังช่วยยึดดิน ป้องกันไม่ให้ถูกชะล้างและคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ ช่วยควบคุมอุณหภูมิและระดับความชื้นของดิน สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช ทำให้อากาศรอบตัวสดชื่นและดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพของอากาศที่เราหายใจ พวกมันดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศและปล่อยออกซิเจน ซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์
นอกจากนี้ ต้นไม้ยังทำหน้าที่กรองอากาศตามธรรมชาติ ดักจับมลพิษที่เป็นอันตรายและฝุ่นละอองที่อาจก่อให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ การมีต้นไม้ในเมืองสามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญและลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากมลพิษทางอากาศ
นอกจากนี้ ต้นไม้ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย การศึกษาพบว่าการสัมผัสกับธรรมชาติ รวมถึงต้นไม้และพื้นที่สีเขียว สามารถลดระดับความเครียดและปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวม ในเขตเมืองที่ผู้คนมักจะอยู่ท่ามกลางคอนกรีตและอาคารต่าง ๆ การมีต้นไม้สามารถให้ความรู้สึกสงบและเงียบสงบได้ ประโยชน์ของต้นไม้ไม่ได้จำกัดแค่สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพจิตและอารมณ์ของเราด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลูกและปกป้องต้นไม้ในชุมชน เพื่ออนาคตที่แข็งแรงและยั่งยืน